กรมอนามัย เตือน หากกินผงชูรสมากเกินไปอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ หากแพ้หัวใจเต้นช้าลง หายใจไม่สะดวก ร้ายแรงถึงขั้นเป็นอัมพาตชั่วคราวได้
วันที่ 3 กันยายน 2562 นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย
เปิดเผยถึงกรณีที่มีคลิปแม่ค้าส้มตำใส่ผงชูรสในครกเกือบหมดถุง (อ่านข่าว
คลิก) ว่า ความนิยมในการใส่ผงชูรสในอาหาร
โดยเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มรสชาติอาหารให้อร่อยขึ้นนั้น
ความจริงแล้วผงชูรสมีชื่อเรียกว่า โมโนโซเดียมกลูตาเมต
ซึ่งมีส่วนประกอบของโซเดียมด้วย ผงชูรสจะละลายไขมันให้ผสมกลมกลืนกับน้ำ
ทำให้มีรสเหมือนน้ำต้มเนื้อและกระตุ้นปุ่มปลายประสาทของลิ้นกับคอทำให้อาหารมีรสหวานอร่อย
แต่ถ้ากินมากเกินไปอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
ทั้งนี้
แม่ค้าร้านอาหารที่มีฝีมือในการปรุงอาหารหรือมีเมนูชูสุขภาพประจำร้าน และใช้น้ำเคี่ยวกระดูกสัตว์อยู่แล้ว
ผงชูรสก็ไม่จำเป็นต้องใช้ในการปรุงประกอบอาหาร
แต่ถ้าหากจำเป็นต้องใช้ผงชูรสจริง ๆ ควรใช้ปริมาณเพียงเล็กน้อย
และควรเพิ่มความพิถีพิถันในการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ สด สะอาด มีคุณค่าทางโภชนาการและการปรุงที่ถูกสุขลักษณะ
หากจะใช้ให้เลือกซื้อผงชูรสมีเลขทะเบียน อย. เพื่อป้องกันผงชูรสปลอม


โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการแพ้ผงชูรส ทำให้รู้สึกชาที่ปาก ลิ้น
ปวดกล้ามเนื้อบริเวณโหนกแก้ม ต้นคอ หน้าอก หัวใจเต้นช้าลง หายใจไม่สะดวก
ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน กระหายน้ำ ส่วนผู้ที่แพ้ผงชูรสมาก ๆ
จะเกิดอาการชาบริเวณใบหน้า หู วิงเวียน หัวใจเต้นเร็ว
จนอาจเป็นอัมพาตตามแขนขาชนิดชั่วคราวได้ แต่อาการเหล่านี้จะหายเองภายในเวลา
2 ชั่วโมง รวมถึงไม่มีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ อีก
โดยเฉพาะหญิงมีครรภ์ไม่ควรกินผงชูรสเด็ดขาด เพราะอาจส่งผลต่อทารกในครรภ์ได้
สำหรับทารกแรกเกิดถึง 3 เดือนนั้น
หากได้กินผงชูรสเข้าไปจะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของสมองในเด็กวัยนี้
ยังไม่รวมถึงภาวะที่ได้รับเกลือโซเดียมมากเกินไป ทำให้ไตเกิดการทำงานมากขึ้นอีกด้วย
