กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน เดินทางถอนแจ้งความ 4 ใน 5 ผู้เกี่ยวข้องรูปพระอุลตร้าแมน ชี้ตกเป็นเหยื่อ จ่อแจ้งความจับเพิ่มอย่างน้อย 2 คน เชื่อรูปมีรหัสแอบแฝง มากกว่างานศิลปะ
ความคืบหน้ากรณีภาพวาดพระพุทธรูปอุลตร้าแมน หลังจากที่ ดร.จรูญ วรรณกสิณานนท์ และกลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน เข้าแจ้งความเอาผิดกับ 5
ผู้เกี่ยวข้องกับภาพดังกล่าว
โดยยืนยันว่าการกระทำนี้เป็นการลบหลู่พระพุทธศาสนา
ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านั้น
อ่านข่าว : กลุ่มชาวพุทธฯ เข้าแจ้งความ นศ. วาดพระอุลตร้าแมน ยันศาสนาสอนให้ยึดติด ไม่ใช่ปล่อยวาง
- นางสาวศุภรัตน์ ชัยจังหรีด นักศึกษาที่วาดภาพ
- นางสาวปพิชญา ณ นครพนม ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอมินอล 21 จังหวัดนครราชสีมา
- นายเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
- ทนายเดชา กิติวิทยานันท์
ภาพจาก ข่าวช่อง 3
ทั้งนี้ ดร.จรูญ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะมีการแจ้งความกับบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มอีกอย่างน้อย 2 คน เนื่องจากภาพดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเรื่องลิขสิทธิ์ และยืนยันว่าจะเดินหน้าในเรื่องนี้จนถึงที่สุด เพื่อเป็นตัวอย่าง เพราะไม่เช่นนั้นต่อ ๆ ไปก็จะมีการนำสัตว์ต่าง ๆ มาแปะกับเศียรเป็นพระพุทธรูปอีก แล้วอ้างว่าคือศิลปะ ซึ่งตนเองน้อมรับคำวิพากษ์วิจารณ์และขออภัยที่ทำให้ผู้เกี่ยวข้องตกใจบ้าง และก็ขอขอบคุณ อ.เฉลิมชัย และทนายเดชา เพราะหากไม่มีบุคคลทั้งสอง พวกตนก็ไม่ออกมาเรียกร้องจนได้พบปัญหาที่แท้จริงอย่างรวดเร็ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

อ่านข่าว : กลุ่มชาวพุทธฯ เข้าแจ้งความ นศ. วาดพระอุลตร้าแมน ยันศาสนาสอนให้ยึดติด ไม่ใช่ปล่อยวาง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (16 กันยายน 2562) ข่าวช่อง 3 รายงานว่า กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน นำโดย ดร.จรูญ วรรณกสิณานนท์ เข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เพื่อถอนแจ้งความ 4 บุคคล
ได้แก่..
- นางสาวปพิชญา ณ นครพนม ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอมินอล 21 จังหวัดนครราชสีมา
- นายเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
- ทนายเดชา กิติวิทยานันท์

โดยระบุว่า จากการตรวจสอบแล้วพบว่าเรื่องนี้มีการทำเป็นขบวนการ
เชื่อว่ารูปภาพดังกล่าวมีรหัสแอบแฝงมากกว่างานศิลปะ ซึ่งบุคคลทั้ง 4 คน
เป็นเพียงเหยื่อที่ถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือจึงดำเนินการถอนแจ้งความ
แต่ยังคงเหลือไว้คือ นายวีรยุทธ อาจารย์ที่ปรึกษาของนักศึกษาที่วาดภาพ
ทั้งนี้ ดร.จรูญ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะมีการแจ้งความกับบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มอีกอย่างน้อย 2 คน เนื่องจากภาพดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเรื่องลิขสิทธิ์ และยืนยันว่าจะเดินหน้าในเรื่องนี้จนถึงที่สุด เพื่อเป็นตัวอย่าง เพราะไม่เช่นนั้นต่อ ๆ ไปก็จะมีการนำสัตว์ต่าง ๆ มาแปะกับเศียรเป็นพระพุทธรูปอีก แล้วอ้างว่าคือศิลปะ ซึ่งตนเองน้อมรับคำวิพากษ์วิจารณ์และขออภัยที่ทำให้ผู้เกี่ยวข้องตกใจบ้าง และก็ขอขอบคุณ อ.เฉลิมชัย และทนายเดชา เพราะหากไม่มีบุคคลทั้งสอง พวกตนก็ไม่ออกมาเรียกร้องจนได้พบปัญหาที่แท้จริงอย่างรวดเร็ว
