เผยภาพวงจรปิดนาทีก่อนครูสาวถูกครูหนุ่มแทง 8 แผล ดับคารถเก๋ง ที่ จ.สงขลา ด้านพ่อใจสลาย ยืนยันลูกสาวไม่เคยคบซ้อน ไม่เชื่อฆาตกร อ้างป่วยซึมเศร้า ถ้าป่วยจริงทำไมยังทำงานได้ตามปกติ
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
อ่านข่าว : ครูหนุ่มแทงครูสาว 8 แผล ดับสลดคารถ รับไม่ได้ ง้อคืนดีไม่สำเร็จ
ล่าสุด
(30 พฤศจิกายน 2562) อมรินทร์ ทีวี
รายงานว่า
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณริมถนนสายเกาะแต้ว-สามกอง หมู่ 1
ต.เกาะแต้ว อ.เมืองสงขลา พบว่าจุดเกิดเหตุเป็นทางเปลี่ยวไม่มีบ้านคน
อยู่ตรงข้ามกูโบฝังศพและมีสวนยางพาราของชาวบ้านล้อมรอบ
จากการสอบถามชาวบ้านใกล้เคียง ทราบว่า คืนเกิดเหตุได้ยินเสียงคนทะเลาะกันเสียงดัง ชาวบ้านบางคนขี่รถผ่านมา เห็นรถเก๋งผู้ตายจอดอยู่ นึกว่ารถเสีย จึงไม่ได้จอดลงไปดู และมีคนสังเกตเห็นมีผู้ชายคนหนึ่งเดินอยู่ข้างทาง ตัวเปื้อนเลือด มีลักษณะลุกลี้ลุกลนพยายามหลบชาวบ้าน
นอกจากนี้ บริเวณสามแยก ก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 600 เมตร มีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ ซึ่งได้จับภาพนาทีที่รถของผู้ตายขับผ่าน โดยมีนายณัฐภัทร คนก่อเหตุ นั่งโดยสารมาด้วยกัน ในเวลา 19.36 น. ของวันที่ 28 พฤศจิกายน
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ด้าน น.ส.สุพัตรา อายุ 24 ปี รุ่นน้องผู้ตาย เผยว่า ผู้ตายเป็นคนน่ารัก มีเหตุผล ไม่เคยหาเรื่องใคร และเป็นคนตรงไปตรงมา ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากผู้ตายกับแฟนเคยมีปากเสียงกัน เรื่องแฟนเก่าของผู้ตายที่เลิกลากันไปเมื่อ 7 ปีก่อน ตามมาหาเรื่องนายณัฐภัทร ซึ่งตอนนั้นกำลังคบอยู่กับผู้ตาย โดยบุกไปที่โรงเรียนที่นายณัฐภัทรสอนอยู่ และพูดต่อหน้าคนอื่นว่า นายณัฐภัทรแย่งแฟนคนอื่น ทำให้นายณัฐภัทรไม่พอใจ
ทั้งนี้ ผู้ตายเคยบอกกับตนว่า นายณัฐภัทรป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ทำอะไรลงไปไม่รู้ตัว เคยนั่งรถไป-กลับจากสงขลาถึงกรุงเทพฯ โดยไม่รู้ตัว ซึ่งตนไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ขณะที่บรรยากาศงานศพ
น.ส.สุนทรีย์ เป็นไปอย่างโศกเศร้า นายสุนทร อายุ 50 ปี พ่อของผู้ตาย
เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ใจแทบสลาย ลูกเป็นเสาหลักของครอบครัว ส่งเสียน้อง 2
คนเรียนต่อ เงินที่ได้ก็นำมามอบให้กับตน ผ่อนบ้านที่เพิ่งซื้อใหม่
ซึ่งตอนนี้ตนก็ไม่รู้ว่าจะวางแผนอย่างไรต่อไป
ส่วนเรื่องกรณีคบหากับใครนั้น ตนไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะคิดว่าลูกโตแล้ว จึงปล่อยให้ตัดสินใจเอง ที่คบหากับนายณัฐภัทร ตนก็พอทราบบ้าง ยืนยันว่าช่วงที่คบกับนายณัฐภัทร ลูกสาวไม่ได้มีชายอื่น ซึ่งคนเป็นครูมีวุฒิภาวะทำไมจึงตัดสินใจก่อเหตุแบบนี้ อยากให้เข้าใจความรู้สึกของคนสูญเสีย แม้ว่าจะขออโหสิกรรม ตนก็ยังรู้สึกโกรธ และไม่ยอมยกโทษให้ เพราะที่นายณัฐภัทรอ้างว่าป่วยเป็นโรคซึมเศร้าแล้วก่อเหตุ ตนไม่เชื่อ หากป่วยจริง ทำไมถึงทำงานได้ตามปกติ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก