x close

ผบช.น. เผยยังไม่กล้ารื้อรถ บิ๊กโจ๊ก ต้องได้รับอนุญาต - รถแพง กลัวทรัพย์สินเสียหาย

        พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เผยยังไม่กล้ารื้อรถบิ๊กโจ๊ก ชี้ต้องขออนุญาตก่อน เพราะรถแพงกลัวทรัพย์สินเสียหาย ตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุการลงมือ ต้องจับตัวคนร้ายให้ได้


ยิงรถบิ๊กโจ๊ก
ภาพจาก สำนักข่าว INN

        จากกรณีเหตุคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงรถยนต์ยี่ห้อ Lexus สีขาว ของ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อคืนวันที่ 6 มกราคม 2563 ต่อมา พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ ออกมายืนยันว่าไม่ใช่การจัดฉาก และเชื่อว่าที่รถถูกยิงน่าจะมีประเด็นเดียว คือผู้สูญเสียผลประโยชน์ในโครงการไบโอเมทริกซ์ หรือระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้าของ สตม. ซึ่งสมัยที่เป็น ผบช.สตม. ได้ทำการยกเลิกไป

        อ่านข่าว : บิ๊กโจ๊ก ยันไม่ได้จัดฉาก ถล่มยิงรถ คาดฝีมือคนเสียประโยชน์ ไบโอเมทริกซ์



        ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 8 มกราคม 2563 พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ออกมาระบุว่า การตรวจสอบพยานหลักฐาน และการตรวจสอบทางเทคนิคต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะรถยนต์มีราคาแพง การรื้อรถตรวจสอบหาหัวกระสุนที่อาจอยู่ในรถนั้น เกรงว่าจะทำให้ทรัพย์สินเสียหายได้ โดยจะขออนุญาตทาง พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ ว่าจะให้รื้อค้นหรือไม่ โดยให้ช่างรถยนต์และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกลางร่วมกันตรวจสอบหาหัวกระสุนปืนในรถ หากได้หัวกระสุนปืนมาเพิ่มเติม ก็จะช่วยในเรื่องการตรวจสอบเปรียบเทียบให้ชัดเจนว่าหัวกระสุนปืนตรงกับเหตุคนร้ายที่ก่อคดีมาก่อนหรือไม่ เบื้องต้นคาดว่าเป็นกระสุนขนาด .38 หรือขนาด 9 มม.

        พล.ต.ท. ภัคพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์หาเบาะแสผู้ก่อเหตุ ส่วนสาเหตุยังไม่มีการตัดประเด็นใดทิ้ง ต้องพิสูจน์ทราบในทุกเรื่อง แม้ว่า พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ จะเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับโครงการไบโอเมทริกซ์ เพราะพฤติการณ์ก่อเหตุของคนยิงรู้อยู่แล้วว่าในรถไม่มีคน จึงไม่น่าจะประสงค์ต่อชีวิต

ยิงรถบิ๊กโจ๊ก
ภาพจาก สำนักข่าว INN

        ทั้งนี้ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ ยังไม่ได้ร้องขอความคุ้มกันแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุการก่อเหตุนั้นยังไม่ทราบ ต้องจับตัวคนร้ายให้ได้ก่อน โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต. อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบช.น. เป็นหัวหน้าชุดสืบสวน แบ่งงานกันทำ โดยให้ บก.น.6 รับผิดชอบตรวจสอบก่อนเกิดเหตุ ส่วน สน.บางรัก รับผิดชอบขณะเกิดเหตุ และ บก.สส.บช.น. รับผิดชอบตรวจสอบหลังเกิดเหตุ และให้ พล.ต.ต. สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. ดูแลสำนวนการสอบสวน คดีให้ สน.บางรัก เป็นผู้ดำเนินการไปก่อน หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความยุ่งยากซับซ้อน จึงจะตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนขึ้นมารับผิดชอบคดี

        รายงานข่าวระบุว่า กรณีที่ชุดสืบสวนพบกระสุนปืน 2 หัวอยู่ในสภาพบิดเบี้ยว คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธปืนขนาด .38 หรือขนาด 9 มม. ทั้งคู่มีขนาดเท่ากัน ต่างเพียงใช้หน่วยมาตราวัดความกว้างเซนติเมตรกับนิ้ว สอบปากคำพยานแวดล้อมแล้วได้ยินเสียงปืน 7-8 นัด กระสุนปืนที่เหลือคาดว่าอาจจะอยู่ในรถคันเกิดเหตุ ส่วนที่ไม่พบปลอกกระสุนปืนในที่เกิดเหตุนั้น หากเป็นอาวุธปืนลูกโม่ ปัจจุบันมีลูกโม่ที่บรรจุลูกปืนได้ถึง 8 นัด ส่วนปืนออโตเมติก มีเทคโนโลยีสามารถเก็บปลอกกระสุนได้โดยใช้ถุงครอบเก็บปลอก เวลายิงปลอกกระสุนจะกระเด็นเข้าไปในถุง จึงทำให้ไม่พบปลอกในที่เกิดเหตุ เนื่องจากคนร้ายป้องกันกรณีที่ตำรวจนำไปใช้เป็นพยานหลักฐานโดยการตรวจสอบหาดีเอ็นเอ

ยิงรถบิ๊กโจ๊ก
ภาพจาก สำนักข่าว INN

ยิงรถบิ๊กโจ๊ก
ภาพจาก สำนักข่าว INN

ยิงรถบิ๊กโจ๊ก
ภาพจาก สำนักข่าว INN

ยิงรถบิ๊กโจ๊ก
ภาพจาก สำนักข่าว INN

ยิงรถบิ๊กโจ๊ก
ภาพจาก สำนักข่าว INN

ยิงรถบิ๊กโจ๊ก
ภาพจาก สำนักข่าว INN

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ผบช.น. เผยยังไม่กล้ารื้อรถ บิ๊กโจ๊ก ต้องได้รับอนุญาต - รถแพง กลัวทรัพย์สินเสียหาย อัปเดตล่าสุด 9 มกราคม 2563 เวลา 17:09:29 13,684 อ่าน
TOP