หมอกระเป๋า เผยชดใช้เงินให้สาวประเภทสองคู่กรณีแล้ว ร่วม 2 แสน และถูกจับดำเนินคดี แฉต้นเรื่องมาจากอีกฝ่ายขอร้องให้ฉีดหน้าให้เอง ทั้งที่ปฏิเสธว่าไม่พร้อม ยอมรับติดใจที่หน้าพัง เพราะไปทำเพิ่มเองหรือไม่
จากกรณี นายพิชญา ราษฎร์นิยม อายุ 41 ปี สาวประเภทสอง ออกมาเปิดเผยเรื่องราวถูกหมอกระเป๋าฉีดหน้าให้จนทำให้หน้าเสียโฉม ต้องรักษากว่า 7 เดือนจึงดีขึ้น และหมดเงินไปหลายแสนบาท โดยที่คู่กรณีที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ช่วยแพทย์ไม่เคยติดต่อเพื่อรับผิดชอบหรือเยียวยาแต่อย่างใด ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : ฉีดหน้าเรียวกับหมอกระเป๋า จากสวยกลายเป็นสยอง ติดเชื้อรุนแรง ไร้เยียวยา
โดยมีแฟนและพี่ชายตนทำด้วย แต่ไม่นาน มาช่วงเดือนมกราคม 2562 หน้าทุกคนเริ่มมีอาการผิดปกติ มีหนอง มีตุ่มไตขึ้น และแก้มโย้ แต่หมอป๊อปกลับบอกว่าพวกตนดูแลไม่สะอาดเอง แต่เดี๋ยวก็หาย
ทั้งนี้ มีการรักษาเอาหนองออกให้กว่า 10 ครั้ง และให้ยาแก้อักเสบมาฉีดเอง หลังจากนั้นก็ติดต่ออีกฝ่ายไม่ได้เลย ก่อนที่ตนจะเข้ารับการรักษาที่คลินิกย่านวิภาวดี ซึ่งต้องรักษาด้วยการขูดหนองออก ต้องผ่าตัดหนังตา เพราะแผลที่อักเสบดึงหนังตาจนตก จนหน้ากับปากเบี้ยว รักษาอยู่นาน 7 เดือน อาการเริ่มดีขึ้น ซึ่งทางคลินิกรักษาให้ฟรีเพราะสงสาร แต่ก่อนหน้านี้ตนหมดค่ารักษาไปกว่า 1 แสนบาท เมื่อรวมกับของพี่ชายและแฟน ก็เป็นเงินมากกว่า 1 ล้านบาท ขณะที่ หมอป๊อป หลังถูกจับกุมตัว ก็ได้ประกันออกมาและใช้ชีวิตปกติ
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ด้าน หมอป๊อป คู่กรณี เปิดเผยว่า
เรื่องเกิดขึ้นมา 1 ปีแล้ว ตนเองชดใช้เงินให้ร่วม 1-2 แสนบาทไปแล้ว
และก็ถูกจับดำเนินคดีแล้ว เสียเงินค่าประกันและสู้คดีจนหมดตัวแล้ว
ซึ่งเรื่องทั้งหมด มาจากตนเองถูกอีกฝ่ายขอร้องให้ฉีดหน้าให้
ทั้งที่ตนเคยปฏิเสธ และบอกไปแล้วว่าไม่พร้อม โดยตอนนี้ลำบากมาก ไม่มีงานทำ
เพราะเลิกรับฉีดหน้าแล้ว
หมอป๊อป กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าหน้าที่เสียโฉมนี้ เกิดจากการฉีดหน้ากับตน หรือเพราะไม่ทำศัลยกรรมเองหรือไม่ แต่ไม่ขอตอบเรื่องที่ว่าอ้างตัวเป็นหมอ












