ตำรวจทองหล่อ รวบหนุ่มจีนแอบปลูกกัญชาออร์แกนิกนับพันต้น ซ.อ่อนนุช 82 ส่งขายลูกค้า กิโลกรัมละ 2.5 แสน เจ้าของสงสัยค่าเช่าสี่หมื่น แต่ค่าไฟเดือนเป็นแสน
วันที่ 2 มิถุนายน 2563 เมื่อเวลา 10.00 น. ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ ร่วมกันจับกุมนายอู๋ ติง ปิน (Mr.WU DING BIN) อายุ 41 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาเครือข่ายค้ากัญชาออร์แกนิกชาวจีน พร้อมขยายผลตรวจยึดต้นกัญชา จำนวน 1,000 ต้น ภายในโกดังซอย อ่อนนุช 82 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ
การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ได้จับกุมนาย หม่า โฮ ยิน (Mr.Ma Ho Yin) อายุ 36 ปี สัญชาติฮ่องกง ในความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, พยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยผิดกฎหมายและผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยผิดกฎหมาย
พร้อมของกลางกัญชาแห้งน้ำหนัก 1 กิโลกรัม และต้นกัญชาจำนวน 317 ต้น หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบปลูกกัญชา โดยจากการตรวจค้นอาคารพานิชย์สูง 4 ชั้น ภายในซอยรามคำแหง 27 พบต้นกัญชาสายพันธุ์ต่างประเทศ โดยภายในอาคาร มีการสร้างโรงเรือนขนาดเล็ก พร้อมเครื่องควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งการจับกุมครั้งนี้เป็นการขยายผลหลังจับกุมขบวนการลักลอบขายกัญชาผ่านทางกลุ่มไลน์ ชื่อ "Heaven Herb" จัดส่งให้ลูกค้าแบบเดลิเวอรี่
ทั้งนี้ จากการสืบสวนเชิงลึกทราบว่านายอู๋ ติง ปิน สัญชาติจีน มีพฤติการณ์จำหน่ายกัญชาและน่าจะมีแหล่งผลิตกัญชาอยู่ในย่านประเวศ และอาศัยอยู่ในย่านรามคำแหง สืบสวนต่อจนทราบว่านายอู๋ ติง ปิน พักอยู่ที่ซอยรามคำแหง 24/3 จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบนายวู ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันกับที่นายหม่า โฮ ยิน ให้ข้อมูลไว้และจากการตรวจค้นพบกุญแจและรีโมท โดยนายอู๋ ติง ปินให้การยอมรับว่า เป็นกุญแจโกดังที่ซอยอ่อนนุช 82
จากนั้นทางตำรวจจึงนำกำลังไปตรวจสอบพบว่า เป็นสถานที่ตั้งโกดังเก็บสินค้าของบริษัทเอกชน ที่ปล่อยให้เช่าเพื่อเก็บสินค้า สูงชั้นเดียว ปลูกเรียงกันหลายโกดัง มีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ซึ่งเมื่อทำการตรวจสอบภายในพบว่า ผู้ต้องหาได้ทำการดัดแปลงโกดังสินค้า เป็นสถานที่ปลูกกัญชาออร์แกนิก ไว้จำนวน 1,000 ต้น ตลอดจนมีระบบแสง และอากาศเหมาะสำหรับปลูกยาเสพติดชนิดนี้ ทางตำรวจจึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนนายอู๋ ติง ปิน อ้างว่า ตนมีหน้าที่เป็นช่างดูแลระบบไฟฟ้าภายในพื้นที่โกดังดังกล่าวเท่านั้น ไม่รู้วิธีการปลูกต้นกัญชาแต่อย่างใด แต่จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมพบว่า นายอู๋ ติง ปิน ได้มีการถือกระเป๋าขนาดใหญ่เข้าออกบริเวณโกดังดังกล่าว แล้วอาจจะไหวตัวทัน จากการติดตามสืบสวนของเจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการปิดระบบไฟฟ้าทำให้ต้นกัญชาตายและนำเมล็ดพันธุ์ออกจากพื้นที่ดังกล่าว ประกอบกับเจ้าของพื้นที่เชื่อว่า ชาวจีนที่มาเช่าโกดังอาจทำสิ่งผิดกฎหมาย เพราะมีการเปิดแอร์ทิ้งไว้ตลอดโดยค่าไฟต่อเดือนประมาณ 1 แสนบาท แต่ค่าเช่าเพียงเดือนละ 40,000 บาท
พล.ต.ท. ภัคพงศ์ กล่าวว่า เดิมผู้ต้องหารายนี้ เดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่ปี 2561 ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว ต่อมาปี 2562 ได้เปลี่ยนเป็นวีซ่านักศึกษา เพื่อมาเรียนมวยไทย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่มีหลักฐานพบว่าทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2561 เป็นรายเดียวกันกับการจับกุมในพื้นที่ สน.หัวหมาก โดยได้มีการขยายผลพบมีผู้กระทำผิดเป็นชาวต่างประเทศทั้งหมด 5 คน จับกุมได้แล้ว 1 คน สำหรับสถานที่นี้เป็นที่เพาะต้นกัญชาสายพันธุ์ต่างประเทศ ซึ่งราคาขายสูงกว่าพันธุ์กัญชาในประเทศ โดยจะมีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 250,000 บาท หากส่งถึงมือผู้รับจะมีราคาสูงอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 700,000 บาท ส่วนการจำหน่ายมีการโฆษณาผ่านโซเชียล โดยจัดส่งผ่านไปรษณีย์และบริษัทขนส่งเอกชนต่าง ๆ หลังจากนี้จะขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการรายอื่นต่อไป
เบื้องต้นมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ดำเนินคดีต่อไป