เปิดใจพระเดือนชัย หลังมติคณะสงฆ์จังหวัดมุกดาหาร สั่งขับไล่พ้นจังหวัด
ปมโชว์อิทธิฤทธิ์ออกสื่อ ยันไม่ตั้งใจ แต่คุมตัวเองไม่ได้
เพราะดวงธรรมประทับ ด้านลูกศิษย์เผยไม่ยินยอม หากถูกจับสึก ชี้ศรัทธามาก
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
จากกรณี พระเดือนชัย ธมฺมวิจโย ที่กลายเป็นที่รู้จัก
หลังออกมาบอกว่าสามารถนิมิตเห็นเหตุการณ์คดีน้องชมพู่
และมีพฤติกรรมลักษณะใบ้ตัวเลข จนล่าสุด พระสุทธิสารโสภณ
เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร (ธรรมยุติ) มีคำสั่งขับไล่ พระเดือนชัย
ออกจากพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร มีผลตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2563
โดยให้เหตุผลว่า มีความประพฤติไม่ควรแก่สมณเพศ หาความละอายไม่ได้
แสดงตนสื่อทางวิญญาณ และมีเจตนาจะโฆษณาตนเองออกในสื่อต่าง ๆ
ผิดหลักพระธรรมวินัย และกฎ-ระเบียบ-คำสั่ง แม้จะตักเตือนแล้ว
แต่ยังแสดงพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : คณะสงฆ์ มีมติไล่ พระเดือนชัย พ้นจังหวัด หลังออกสื่อโชว์คุยวิญญาณน้องชมพู่
อ่านข่าว : คณะสงฆ์ มีมติไล่ พระเดือนชัย พ้นจังหวัด หลังออกสื่อโชว์คุยวิญญาณน้องชมพู่
นายสิทธิลักษณ์ จิตอาคนารัตน์
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
วันเดียวกัน รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานบทสัมภาษณ์ นายสิทธิลักษณ์ จิตอาคนารัตน์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า เคยมีการตักเตือนแล้ว พระเดือนชัยก็รับปากว่าจะไม่ทำ แต่ก็ยังไปแสดงพฤติกรรมตามข่าวอีก ทางคณะสงฆ์จังหวัดมุกดาหาร และเจ้าคณะอำเภอที่ 5 อำเภอ (ธ) จึงมีมติในที่ประชุมให้พระเดือนชัยออกจากพื้นที่จังหวัดมุกดาหารดังกล่าว
ขณะที่ พระเดือนชัย เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า หลังเป็นข่าวที่ไปมีอาการหมุนที่วัดในจังหวัดนครนายก ก็มีพระผู้ใหญ่มาตักเตือนผ่านลูกศิษย์ สั่งให้เก็บของไปอยู่ที่อื่น โดยจะมายึดพื้นที่วัดป่าจำนวน 15 ไร่ คืน ซึ่งตนยังไม่ได้มีโอกาสชี้แจงใด ๆ จึงขอชี้แจงผ่านสื่อ ยืนยันว่าตนไม่ได้ตั้งใจจะโชว์อิทธิฤทธิ์อะไร แต่ในตอนนั้นดวงธรรมประทับร่าง ทำให้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และเดินหมุนไปตามดวงธรรมกว่า 70 รอบ ยอมรับว่าตนก็อยากจะสำรวม ไม่อยากจะหมุนตัวแบบนั้น
พระเดือนชัย เผยทั้งน้ำตาว่า ตนน้อยใจที่จะถูกจับสึก ตนบวชอยู่ที่มุกดาหารมา 7-8 ปี ทำอะไรอยู่ที่คนจะมอง ตนมองว่าหลักปฏิบัติหรือเรื่องกฎหมายเป็นเรื่องที่สามารถใช้กลั่นแกล้งกันได้ ตนยืนยันว่ายังไม่อยากสึก
อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามเรื่องคดีน้องชมพู่ พระเดือนชัยไม่ขอตอบ โดยบอกว่าให้เป็นเรื่องของกฎแห่งกรรม
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ด้าน นางภัทร ลูกศิษย์ เปิดเผยถึงเหตุการณ์ตอนที่ตัวเองมีอาการคล้ายองค์ลงตอนที่พระเดือนชัยสวดคาถา ว่า ตนรู้สึกคล้ายง่วงนอน คุมตัวเองไม่ได้ รู้ตัวว่ามีการชูมือ แต่คุมไม่ได้ ตนไม่รู้ว่าดวงธรรมอะไรมาประทับร่าง เพราะนับถือบูชาหลายองค์ ทั้งปู่พญานาค พระศิวะ พระแม่อุมา และพระพิฆเนศ แต่เชื่อว่าการสวดของพระเดือนชัยทำให้โชคดี พ้นเคราะห์
นางภัทร เชื่อว่า พระเดือนชัยคงไม่อยากหมุนตัวแบบนั้นออกสื่อ แต่เชื่อว่าเป็นเพราะดวงธรรมที่กระทำ หากจะถูกจับสึก ตนคงรับไม่ได้ เพราะศรัทธามาก ท่านไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน ถ้าถูกจับสึกจริง ๆ เชื่อว่าลูกศิษย์คงไม่ยอม ตนก็ขอฝากไปถึงพระผู้ใหญ่ให้พิจารณาให้ลึกซึ้ง การสวดต่าง ๆ พระแต่ละภาคก็จะสวดไม่เหมือนกัน แต่เชื่อว่ายึดคำสอนเดียวกัน คือสอนให้ทุกคนเป็นคนดี ส่วนเรื่องอักษรธรรมที่ไปตรงกับเลขหวยหรือทะเบียนรถ มองว่าเป็นเรื่องความบังเอิญเท่านั้น
นายอภิศักดิ์ ใหม่คามิ
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ขณะเดียวกัน นายอภิศักดิ์ ใหม่คามิ เปิดเผยว่า ตนไม่เคยมีดวงเรื่องโชค จนถูกเลขท้าย 2 ตัว คือ 64 หลังดูข่าวพระเดือนชัย ทำให้ตัดสินใจพาครอบครัวมากราบท่าน ส่วนตัวยอมรับว่าถูกชะตา เพราะท่านให้โชค เชื่อว่าท่านไม่ได้เบียดเบียนใคร แต่ยังใช้บุญบารมีโปรดญาติโยมให้มีโชคลาภอีก
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว