เพจดังผุดแคมเปญรณรงค์งดปักชื่อ-นามสกุล ลงบนชุดนักเรียน สานต่อจากกรณีเจอรูปปริศนาในหนังสือมือสอง ตามไปสืบจนทำให้เจอเรื่องชวนสยองทั้งโซเชียล ทำให้ต้องกลับมาคิดทบทวนว่า ทำแบบนี้ดีจริงหรือ เพราะยุคนี้สืบค้นอะไรก็ง่าย ความเป็นส่วนตัวหาย อันตรายต่อเด็กจริง
กลายเป็นเรื่องราวชวนขนลุกตั้งแต่เมื่อวานนี้ (25 มิถุนายน 2563) หลังจากที่มีหญิงคนหนึ่งไปซื้อหนังสือมือสอง แต่กลับพบรูปหญิงสาวปริศนาในชุดนักเรียน จากนั้นจึงนำรูปของเธอออกมาโพสต์ลงในกลุ่มกลุ่มหนึ่ง เพื่อหวังจะคืนรูปให้เจ้าของตัวจริง แต่กลายเป็นว่า เมื่อเอาชื่อ-นามสกุลที่ปักบนชุดนักเรียนไปค้นหาในกูเกิล จนพบว่าชื่อดังกล่าวเป็นชื่อคนร้ายในคดีทำร้ายและทารุณกรรมหญิงสาว ด้วยการใช้ไฟลนเหยื่ออย่างทรมาน เป็นคดีที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2551 ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจับกุมตัวได้หรือยัง
อ่านข่าว : สาวเจอรูปในหนังสือมือสอง คาดเป็นเจ้าของเก่า ก่อนเจอเรื่องราวชวนหลอน
ขณะเดียวกัน ทางเพจก็ได้เสนอแนะว่า ควรเปลี่ยนเป็นใช้ป้ายชื่อเข็มกลัดปักแทน พอเลิกเรียนก็เอาออก หรือตรวจสอบจากบัตรนักเรียนแทนก็ได้ รวมถึงถ้าต้องการบริจาคชุดนักเรียน ก็ไม่ต้องไปเลาะชื่อออกให้เสียเวลา และสภาพเสื้อก็ไม่เสียหายด้วย
ส่วนชาวเน็ตก็ต่างเห็นด้วยกับประเด็นนี้ บางคนก็เล่าประสบการณ์เจอคุกคามจากการที่มีคนเห็นชื่อและนามสกุลบนชุดนักเรียนมาแล้ว บางคนก็ยกตัวอย่างเรื่องใกล้ตัวที่สุด อย่างการเซ็นชื่อเข้าร้านสะดวกซื้อช่วงโควิด 19 แต่กลับถูกพนักงานเอาข้อมูลส่วนตัวมาค้นและแชตมาจีบ