เปิดคอมเมนต์โซเชียล เห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย ปักชื่อบนชุด นร. งัดข้อดี-ข้อเสีย ถกสนั่น

         เปิดคอมเมนต์ กรณียกเลิกปัก ชื่อ-นามสกุล บนชุดนักเรียน งัดข้อดี-ข้อเสีย ถกสนั่น บ้างบอกควรยกเลิกเพราะลดค่าใช้จ่าย อีกด้านบอกไม่ต้องยกเลิก เพราะจะได้รู้ใครเป็นใคร

          เรียกได้ว่าเป็นกรณีศึกษากันบนโลกออนไลน์เลยทีเดียว ซึ่งต้นเรื่องเริ่มมาจากการที่หญิงรายหนึ่งซื้อหนังสือเก่ามาอ่าน แล้วบังเอิญเจอรูปถ่ายขาว-ดำของนักเรียน จึงนำมาโพสต์บนโลกออนไลน์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของเก่า ด้านชาวเน็ตก็เลยนำชื่อบนเสื้อนักเรียนไปเสิร์ชจนพบว่าชื่อของเด็กสาวคนนี้ ไปตรงกับชื่อคนร้ายหนีคดีตั้งแต่ปี 2551 โดยเรื่องนี้หลายคนแตกประเด็นออกมาในเรื่องของความเป็นส่วนตัว และการค้นหาตัวตนคนจากการใช้ชื่อที่อยู่บนเสื้อนักเรียน จึงผุดแคมเปญรณรงค์งดปักชื่อ-นามสกุล ลงบนชุดนักเรียน เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว

อ่านข่าว : สาวเจอรูปในหนังสือมือสอง คาดเป็นเจ้าของเก่า ก่อนเจอเรื่องราวชวนหลอน

อ่านข่าว : โซเชียลรณรงค์ร้อง รร. งดปักชื่อ-สกุล ลงบนชุดนักเรียน หลังเกิดคดีหลอนสะท้านเน็ต


          เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 26 มิถุนายน 2563 ก็มีหลายคนให้ความเห็นแตกต่างกันถึงกรณีการยกเลิกปักชื่อบนชุดนักเรียน โดยฝั่งที่ไม่เห็นด้วยกับการงดปัก มองว่า การปักชื่อเป็นเรื่องของอัตลักษณ์ของแต่ละบุคคล จะมาอ้างเรื่องความปลอดภัยส่วนบุคคลไม่ได้ ดูเหมือนเป็นการจับแพะชนแกะ น่าจะสอนเรื่องการใช้โซเชียล และการนำข้อมูลส่วนตัวไปโพสต์ลงโลกออนไลน์มากกว่า อีกทั้งอาชีพคนรับปักเสื้อนักเรียนก็มีอยู่มากมาย ถ้ายกเลิกไปก็อาจจะกระทบคนกลุ่มนี้ได้ ถ้าไม่เป็นข่าวดัง หรือไปทำอะไรแปลก ๆ ก็คงไม่มีชื่อในอินเทอร์เน็ต

          การปักชื่อบนเสื้อนักเรียนนั้น ก็เพื่อที่ครูจะได้เรียกนักเรียนถูก เพราะครูจำชื่อนักเรียนไม่ได้ทุกคน และหากเด็กหายก็สามารถติดตามได้จากข้อมูลบนเสื้อนักเรียน อย่างน้อยก็เป็นข้อมูลที่พิสูจน์อัตลักษณ์เบื้องต้นได้หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ทุกอย่างมีข้อดี-ข้อเสียหมด อยู่ที่ว่าจะให้น้ำหนักไปทางไหนมากกว่ากัน


          ด้านคอมเมนต์ที่เห็นด้วยกับการงดปักเสื้อนั้น ระบุว่า การที่ครูจำชื่อนักเรียนไม่ได้ ก็สามารถถามได้ ไม่น่าเกลียดอะไร หรือหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ทำไมประชาชนทั่วไปที่เกิดเหตุก็ยังตามตัวพิสูจน์กันได้ ซึ่งนี่อาจจะไม่ใช่เหตุผลที่ชัดเจนนักในการสนับสนุนให้ปักชื่อต่อไป

          ส่วนความเห็นของผู้ปกครองมองว่า หากจะยกเลิกการปักชื่อก็ถือเป็นเรื่องดี เพราะค่าใช้จ่ายในการปักก็เยอะ โดยเฉพาะเด็กอนุบาลที่ต้องปักทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ชุดว่ายน้ำ หมวกว่ายน้ำ ถุงผ้า ฯลฯ ซึ่งแนะนำว่าให้ใช้เป็นป้ายคล้องคอเด็กจะดีกว่า เวลาส่งต่อชุดให้คนอื่นจะได้ไม่ต้องเลาะออกจนเสียหาย


          นอกจากนี้ ยังมีคนแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการที่คนอื่นสามารถค้นข้อมูลส่วนตัวว่า เคยเล่นเกม แล้วคุยเล่น ๆ กับคนในเกม พอเลิกคุย อีกฝ่ายบอกจะฆ่าตัวตาย ก็เลยลองคุยต่อ ทว่าตนทนไม่ไหวก็เลิกคุยอีกรอบ หลังจากนั้นอีกฝ่ายกลับเอาชื่อตนไปเสิร์ช จนพบเฟซบุ๊กของเพื่อนฝูง ครอบครัว จนหาที่อยู่ได้ แล้วมาดักรอหน้าบ้านจนถึงกับต้องย้ายบ้านหนี ซึ่งถือว่าเป็นอีกเรื่องที่แสดงให้เห็นว่าการรักษาข้อมูลส่วนตัวมีความสำคัญอย่างไร