x close

จี้กรมการปกครองเอาผิด ฌอน บูรณะหิรัญ ใช้เงินบริจาคจ้างตัวเองทำคลิป ส่อเข้าข่ายฉ้อโกง


          ศรีสุวรรณ จรรยา จี้กรมการปกครองเอาผิด ฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชชื่อดัง ใช้เงินบริจาคผิดวัตถุประสงค์ เข้าข่ายฉ้อโกงหรือไม่ ย้ำต่อให้เป็นคนโปรดของใคร กฎหมายก็ห้ามยกเว้น

ฌอน บูรณะหิรัญ

          จากกรณีมหากาพย์ดราม่าของ ฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชชื่อดัง ที่ยังคงถูกกระแสสังคมจับตาต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรณีดราม่าล่าสุดที่มีอาสาดับไฟป่าที่เชียงใหม่ ออกมาทวงถามว่าเงินบริจาคช่วยเหลือไฟป่าที่ ฌอน บูรณะหิรัญ เคยรับมาจากประชาชน อยู่ที่ไหน เพราะที่ผ่านมามีคนโอนให้มากมาย แต่ทางชุดดับไฟกลับไม่เคยได้รับอะไรสักอย่างจากฌอน ซ้ำทวงถามไปหลายช่องทางก็ไม่เคยได้รับคำตอบ

          จนในที่สุด ฌอนจึงได้ยอมออกมาชี้แจงพร้อมสรุปยอดเงินบริจาคที่ได้รับ เผยว่า ยอดบริจาคจากผู้ติดตาม ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม - 1 พฤษภาคม 2563 เป็นเงินจำนวน 875,741.53 บาท ซึ่งเงินดังกล่าวนำไปช่วยแก้ปัญหาวิกฤต 2 วาระ คือ 1. ด้านไฟป่า 2. เรื่อง Covid-19 แต่สุดท้ายยังไม่วายมีการตั้งคำถามเกิดขึ้น เมื่อพบว่า ฌอนได้นำเงินส่วนหนึ่งมาเป็นค่าใช้จ่ายจ้างตัวเองทำคลิปโปรโมตโพสต์ เป็นจำนวนเงินกว่า 2 แสนบาท

          อ่านข่าว : ฌอน แจงปมเงินบริจาคไฟป่า - ชาวเน็ตตงิดใจ ทำไมเอาเงินจ้างตัวเองทำคลิป ?


ศรีสุวรรณ จรรยา

          ล่าสุด (28 มิถุนายน 2563) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ศรีสุวรรณ จรรยา ระบุว่า จากกรณีข้างต้นที่ ฌอน บูรณะหิรัญ เปิดขอรับเงินบริจาคเพื่อนำมาช่วยดับไฟป่าดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ แต่กลับนำเงินบริจาคกว่า 2 แสนบาท มาใช้ทำสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์ตัวเองนั้น

          เบื้องต้นการรับบริจาคดังกล่าวแม้มีวัตถุประสงค์เป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ แต่จะต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรเสียก่อน ตามความใน ม.6 ประกอบ ม.8 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ. 2487 ซึ่งตามกฎกระทรวงแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ กำหนดให้นายอำเภอเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ม.8 สำหรับในเขตพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งต้องตรวจสอบต่อไปว่าผู้ขออนุญาตเคยต้องโทษเกี่ยวกับทรัพย์ กรรโชก ฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์ หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายลักษณะอาญาหรือไม่ หากใครฝ่าฝืนย่อมมีความผิดตาม ม.17 ประกอบ ม.19 ได้ หรือหากผู้จัดกิจกรรมปิดบังอำพรางข้อเท็จจริง ก็อาจเข้าข่ายความผิดฐานแจ้งความเท็จตาม ปอ. ม.172 ด้วย

ฌอน บูรณะหิรัญ

          สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังอธิบดีกรมการปกครอง เพื่อขอให้ตรวจสอบว่า กรณีการขอรับบริจาค ฌอนได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ดังนี้

          1. กิจกรรมการเรี่ยไรดังกล่าวมีการดำเนินการขออนุญาตจากนายอำเภอเมือง จ.เชียงใหม่ ตามกฎกระทรวง แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร 2487 แล้วหรือไม่ อย่างไร

          2. กิจกรรมการเรี่ยไรดังกล่าวมีการออกใบรับเงินให้กับผู้บริจาคทุกคน และมีต้นขั้วใบรับไว้เป็นหลักฐานตามที่กำหนดไว้ใน ม.13 หรือไม่

          3. เงินบริจาคที่ได้มาดังกล่าว มีการนำไปใช้จ่ายในการจัดทำสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์ตัวเอง เป็นการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ตาม ม.14 หรือไม่ อย่างไร และหากนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ อาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง ตามกฎหมายอาญา ม.341 ได้ ที่ระบุว่า ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

          ทั้งนี้ กิจกรรมการขอรับบริจาคของฌอน ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นลงไปแล้ว หากเป็นการดำเนินการที่ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ. 2487 และประมวลกฎหมายอาญา ก็ย่อมที่จะฝ่าฝืน พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 ตามไปด้วย ย่อมถือได้ว่าเป็นความผิดที่สำเร็จแล้ว

          นายศรีสุวรรณ ย้ำว่า กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ไม่อาจมีข้อยกเว้นให้บุคคลใดได้ แม้จะเป็นคนโปรดของใคร และอ้างว่าเพื่อประโยชน์สาธารณะก็ตาม
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ศรีสุวรรณ จรรยา


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
จี้กรมการปกครองเอาผิด ฌอน บูรณะหิรัญ ใช้เงินบริจาคจ้างตัวเองทำคลิป ส่อเข้าข่ายฉ้อโกง อัปเดตล่าสุด 29 มิถุนายน 2563 เวลา 18:22:33 14,459 อ่าน
TOP