เปิดรายละเอียด 6 พยาน คำให้การคดี บอส อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง
จุดเปลี่ยนนำไปสู่การไม่สั่งฟ้อง - ถอนหมายจับ ใครให้การอย่างไรกันบ้าง
ดูเลย !
ภาพจาก สปริงนิวส์
เป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจอย่างมาก สำหรับคดีของ
บอส อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง
ที่ขับรถเฟอร์รารี่ชนตำรวจเสียชีวิตตั้งแต่ปี 2555 จนสร้างความคาใจแก่สังคม
กรณีที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง ว่าไม่ชอบมาพากลอย่างไร แถมจ่อหลุดทุกคดี
ทำให้สังคมเกิดข้อกังหาอย่างมากนั้น
ล่าสุด (28 กรกฎาคม 2563) ข่าว Thai PBS รายงานเผยรายละเอียดคำให้การของพยาน 6 ปาก ที่เป็นจุดเปลี่ยนในคดี บอส อยู่วิทยา กระทั่งนำมาสู่การสั่งไม่ฟ้องและยกเลิกหมายจับทั้งหมด ดังนี้...
คนที่ 1 พ.ต.ต. ธนสิทธิ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์ กองพิสูจน์หลักฐาน ผู้ตรวจสอบความเร็วของรถยนต์ ให้การว่า ขณะเกิดเหตุ รถเฟอร์รารี่แล่นมาด้วยความเร็วเฉลี่ย 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญภาควิชาฟิสิกส์ คำนวณเวลาจากกล้องวงจรปิดจุดวิ่งผ่านเสาไฟจนผ่านพ้นมุมกล้องไป คำนวณความเร็วได้ที่ 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อาจมีความคลาดเคลื่อนเพิ่มขึ้น-ลดลง ประมาณ 17 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยกล้องวงจรปิดห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร
กระทั่ง 4 ปีต่อมา วันที่ 2 มีนาคม 2559 หลังจากทนายความยื่นเรื่องไปที่คณะกรรมาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (กมธ.สนช.) อ้างว่า ได้คำนวณหาความเร็วโดยวิธีใหม่ ซึ่งไม่มีรายละเอียดวิธีการคำนวณ ก็ได้มีการกลับคำให้การใหม่ว่า ความเร็วของรถเฟอร์รารี่ ขับอยู่ที่ประมาณ 79.23 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
คนที่ 4 รศ. ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลและกระบวนการ และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางถนน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ คำนวณความเร็วของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ระบุว่า ความเร็วของรถเฟอร์รารี่ อยู่ที่ประมาณ 76.175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งใกล้เคียงกับความเห็นของ พ.ต.ท. สมยศ ที่ตรวจร่องรอยความเสียหายของรถทั้ง 2 คัน จึงสันนิษฐานว่ารถทั้ง 2 คัน ใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
คนที่ 5 และ 6 ได้แก่ พล.อ.ท. จักรกฤช ถนอมกุลบุตร และนายจารุชาติ มาดทอง พยานบุคคล ให้การเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 (ให้การย้อนหลังถึง 7 ปีที่แล้ว) ระบุว่า ขับรถตามหลังรถจักรยานยนต์ของ ด.ต. วิเชียร ผู้เสียชีวิต ซึ่งขี่รถด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พยานคนหนึ่งให้การว่า บอสขับรถยนต์ด้วยความเร็วประมาณ 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เท่านั้น
โดยพยานยังให้การด้วยว่า บอสขับรถในเลนขวาชิดเกาะกลางถนน ด้วยความเร็วเพียง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วน ด.ต. วิเชียร ขี่รถจักรยานยนต์ในช่องทางด้านซ้าย จากนั้นเปลี่ยนช่องทางไปที่ช่องทางขวาชิดเกาะกลางถนน ทำให้พยานที่ขับรถกระบะในเลนกลางและอยู่ด้านหลัง ต้องหักหลบพวงมาลัยไปทางซ้าย ส่วนรถของ ด.ต. วิเชียร เมื่อวิ่งไปเลนขวาสุดในระยะกระชั้นชิด ทำให้รถเฟอร์รารี่ของบอสพุ่งชนท้ายดังกล่าว
จากคำให้การของพยานเหล่านี้ เป็นจุดเปลี่ยนในคดี บอส อยู่วิทยา จนนำมาสู่การที่อัยการสั่งไม่ฟ้องดังกล่าว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Vorayuth Yoovidhya
ขอบคุณข้อมูลจาก Thai PBS