เปิดใจพ่อเด็กเสียชีวิตระหว่างคลอด และถูกสลับศพไปเผา
เชื่อโรงพยาบาลจัดฉาก เพราะไม่อยากให้ชันสูตรลูก
หลังตอบสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมลูกตาย ด้านอีกครอบครัวที่ถูกสลับศพ
ยืนยันไม่ได้ร่วมมือกับโรงพยาบาล
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
เมื่อวานนี้ (2 สิงหาคม 2563) รายการทุบโต๊ะข่าว รายงานความคืบหน้ากรณีนางสาวกฤษณา อายุ 23 ปี
โพสต์ข้อความร้องขอความเป็นธรรม หลังคลอดลูกแต่ลูกเสียชีวิตระหว่างคลอด
ซึ่งทางโรงพยาบาลไม่สามารถแจ้งสาเหตุที่แน่ชัด
และมีความผิดพลาดในการสลับศพเด็กไปให้อีกครอบครัว
ขณะดำเนินการแจ้งความเพื่อขอตรวจพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิต
โดยที่ศพมีการถูกเผาไปแล้ว ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น
อ่านข่าว : แม่ใจสลาย ลูกชายตายตอนคลอดปริศนา ช็อกซ้ำ รพ. สลับศพเอาไปเผา ทั้งที่บอกห้ามเผา
อ่านข่าว : แม่ใจสลาย ลูกชายตายตอนคลอดปริศนา ช็อกซ้ำ รพ. สลับศพเอาไปเผา ทั้งที่บอกห้ามเผา
นายตั้ม
โดย นายตั้ม สามีของนางสาวกฤษณา และพ่อของเด็ก เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา ตนรู้ว่าศพลูกถูกสลับ หลังไปขอศพเพื่อเตรียมเอาไปชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจ แต่โรงพยาบาลคู่กรณีไม่ยอมให้ อ้างว่าต้องประชุมก่อน ก่อนที่เวลาต่อมาจะแจ้งว่ามีการสลับศพเด็ก และศพลูกตนถูกเผาไปแล้ว ทาง ผอ. และหมอสูตินรี ได้กล่าวขอโทษ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นคำขอโทษเพียงลมปาก ไม่ได้รู้สึกจริง ๆ ตนเชื่อว่าการเผาศพลูกตนเป็นการทำลายหลักฐานที่โรงพยาบาลจัดฉากเพื่อไม่ต้องการให้นำศพไปชันสูตร เพราะโรงพยาบาลไม่สามารถบอกได้ว่าลูกตนเสียชีวิตเพราะสาเหตุใด
ตนเสียใจที่ตัดสินใจพลาดเลือกใช้บริการโรงพยาบาลนี้ ทั้งที่ตอนท้องพาภรรยามาตรวจตามนัดทุกครั้ง และหมอก็บอกว่าลูกแข็งแรง ปกติดี ซึ่งหลังเกิดเรื่องทางโรงพยาบาลได้แจ้งให้ตนยื่นข้อเสนอเรื่องการรับผิดชอบไป แต่ตนยังไม่ได้ให้คำตอบ เพราะต้องการความยุติธรรม
ทั้งนี้ อยากให้โรงพยาบาลชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เงียบ ซึ่งการไปเก็บเถ้ากระดูกที่วัดก่อนหน้านี้ ส่วนตัวก็ยังไม่เชื่อว่าคือของลูกจริง ๆ คงต้องตรวจดีเอ็นเอก่อน
นายผล
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
นายผล ยืนยันว่า หากรู้ว่าเป็นการสลับศพเด็กคงไม่เผา ยืนยันว่าไม่ได้ร่วมมือกับโรงพยาบาล เพราะเชื่อว่าศพดังกล่าวคือลูกตัวเองจริง ๆ วันที่โรงพยาบาลแจ้งเรื่อง ตนก็เจอกับนายตั้มและครอบครัว ก็ได้มีการขอโทษไปแล้ว และได้ยืนยันไปว่าไม่รู้ว่าศพเด็กถูกสลับ เพราะเจ้าหน้าที่เป็นคนจัดการให้
พร้อมกันนี้ขอชี้แจงประเด็นที่ว่าเผาศพลูกเพียงลำพัง ยืนยันว่าเนื่องจากภรรยายังทำใจไม่ได้ และร่างกายยังไม่แข็งแรง ตอนนี้สภาพจิตใจแย่มาก เพราะเสียทั้งลูก และยังมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำอีก ขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่ได้ร่วมมือกับทางโรงพยาบาลตามกระแสข่าว และอยากให้โรงพยาบาลออกมารับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการทุบโต๊ะข่าว






