เปิดครอบครัว โจ ไบเดน และลูก ๆ ทายาท กับช่วงชีวิตการเผชิญโศกนาฏกรรม

          เปิดเรื่องราวของครอบครัว โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ และลูก ๆ กับช่วงชีวิตที่เป็นดั่งฝันร้าย ต้องเผชิญโศกนาฏกรรมและการสูญเสีย

          ทั่วโลกต่างเฝ้าลุ้นผลการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา 2020 แม้จะยังไม่ประกาศผู้ชนะในขณะนี้ แต่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการนับคะแนน โจ ไบเดน (Joe Biden) ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต ยังคงมีคะแนนนำ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน จากพรรครีพับลิกัน

          ทั้งนี้ หากไบเดนซึ่งกำลังจะอายุ 78 ปี ในวันที่ 20 พฤศจิกายน นี้ สามารถคว้าชัยในการเลือกตั้ง เขาจะเป็นผู้ได้นั่งเก้าอี้ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46 และจะกลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์


          ด้วยเหตุนี้ชื่อของ โจ ไบเดน จึงกลายเป็นที่สนใจไปทั่วโลก หลายคนอยากรู้จักประวัติของเขา รวมไปถึงเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตครอบครัว ทั้งภรรยา รวมไปถึงลูก ๆ ของเขา

อ่าน : เปิดประวัติ โจ ไบเดน 5 เรื่องต้องรู้ คู่แข่งทรัมป์ ผู้ท้าชิง เลือกตั้งอเมริกา 2020

อ่าน : ทำความรู้จัก จิล ไบเดน ว่าที่สุภาพสตรีหมายเลข 1 หาก โจ ไบเดน คว้าชัยเลือกตั้งสหรัฐฯ

ชีวิตสมรส

          - ไบเดน แต่งงาน 2 ครั้ง ภรรยาคนแรก คือ นีเลีย ฮันเตอร์ (Neilia Hunter) มีลูกด้วยกัน 3 คน เป็นลูกชาย 2 คน ได้แก่ โบ ไบเดน (Beau Biden) และฮันเตอร์ ไบเดน (Hunter Biden) และลูกสาว 1 คน คือ นาโอมิ คริสตินา ไบเดน (Naomi Christina Biden)


          - แต่งงานครั้งที่ 2 กับ จิล ไบเดน (Jill Biden) ภรรยาคนปัจจุบัน เมื่อปี 1977 หลังจากสูญเสียภรรยาคนแรกไป 5 ปี ทั้งคู่มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน คือ แอชลีย์ ไบเดน (Ashley Biden)

โศกนาฏกรรมครอบครัว

          ในปี 1972 ไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่ไบเดนได้รับเลือกให้เป็นวุฒิสภาสหรัฐอเมริกาครั้งแรก เขาต้องเผชิญกับเหตุไม่คาดฝัน เมื่อต้องสูญเสียนีเลีย ภรรยา และนาโอมิ ลูกสาววัยเพียง 1 ขวบ หลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขณะที่พวกเขาไปซื้อของในวันคริสต์มาส ส่วนลูกชาย โบ วัย 3 ขวบ และฮันเตอร์ วัย 2 ขวบ ซึ่งนั่งรถไปด้วยในขณะนั้น ได้รับบาดเจ็บสาหัส


          เด็กชายทั้ง 2 คนหายจากอาการบาดเจ็บ โดย โบ ลูกชายคนโตของเขา ติดตามพ่อเข้าสู่การเมือง จนได้กลายเป็นอัยการสูงสุดของรัฐเดลาแวร์ แต่ไบเดนต้องเผชิญกับความสูญเสียและเจ็บปวดสุดหัวใจอีกครั้ง เมื่อโบมีอันต้องจากไปขณะอายุ 46 ปี ด้วยโรคมะเร็ง

          "มันไม่มีวันหายไป" ไบเดน กล่าวถึงความเจ็บปวดที่อยู่ภายในตัวเขา

โบ ไบเดน


          ลูกชายคนโตของ โจ ไบเดน กับภรรยาคนแรก เกิดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 1969 เขาเป็นทั้งนักการเมือง ทนายความ และเจ้าหน้าที่ทหารในกรมพระธรรมนูญทหารบก ได้รับรางวัลเหรียญทองแดง จากการปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติในอิรัก


          จากนั้น โบได้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดของรัฐเดลาแวร์ จนกระทั่งในเดือนพฤษภาคม 2010 เขาเกิดล้มป่วยจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ด้วยโรคเนื้องอกในสมอง จากนั้น 5 ปีต่อมา ในปี 2558 เขาก็เสียชีวิตลง ด้วยโรคมะเร็งสมอง ขณะอายุ 46 ปี

ฮันเตอร์ ไบเดน

          ลูกชายคนรองของ โจ ไบเดน กับภรรยาคนแรก เกิดเมื่อปี 1970 ปัจจุบันอายุ 50 ปี ไบเดน กล่าวไว้ว่า ฮันเตอร์เป็นลูกชายคนเดียวของเขาที่รอดชีวิต

          ฮันเตอร์ เป็นทนายความ ที่ปรึกษาการลงทุนและเป็นหุ้นส่วนผู้ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุน ในอดีต เขาเคยมีประวัติติดแอลกอฮอล์และยาเสพติด เขาถูกปลดออกจากกองทัพเรือสหรัฐฯ ในปี 2014 หลังจากผลการทดสอบโคเคนในร่างกายเป็นบวก  

          ระหว่างปี 2014-2019 ฮันเตอร์ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารของ Burisma Holdings ผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ของยูเครน


          เหตุนี้ทำให้ฮันเตอร์ตกเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจในการโจมตี โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นำจุดอ่อนเรื่องนี้มาใช้ก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ โดยกล่าวหาไบเดนว่ามีการช่วยเหลือปกป้องลูกชายจากการสอบสวนการทุจริต แต่ไม่มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงใด ๆ

นาโอมิ คริสตินา ไบเดน

          ลูกสาวของไบเดน กับภรรยาคนแรก เกิดเมื่อปี 1971 แต่เคราะห์ร้ายมีชีวิตอยู่ได้เพียง 1 ปี ก่อนจะประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตพร้อมกับแม่ในปี 1972

แอชลีย์ ไบเดน


          ลูกสาวเพียงคนเดียวของไบเดน กับ จิล ไบเดน ภรรยาคนปัจจุบัน เกิดเมื่อปี 1981 ปัจจุบันอายุ 39 ปี เป็นนักสังคมสงเคราะห์ ทำงานเกี่ยวกับเด็ก เยาวชนและครอบครัว ในรัฐเดลาแวร์ อีกทั้งยังเป็นนักเคลื่อนไหวและนักออกแบบแฟชั่น

          แม้จะมีแม่ผู้ให้กำเนิดต่างกัน แต่ความสัมพันธ์พี่-น้อง ระหว่าง แอชลีย์ กับ โบ และ ฮันเตอร์ แน่นแฟ้นมากเหมือนพี่น้องกันแท้ ๆ พี่ชายทั้ง 2 คนรักและห่วงใยคอยดูตลอด ไม่ว่าเธออยากไปไหน ทำอะไร พวกเขาก็จะพาเธอไป


          ในการสูญเสียโบ พี่ชายคนโต สร้างความเศร้าให้แอชลีย์อย่างที่สุด เธอได้ขึ้นกล่าวคำสรรเสริญในงานศพ โดยมีฮันเตอร์เคียงข้าง และโบเป็นแรงบันดาลใจให้แอชลีย์มุ่งมั่นทำงานด้านกระบวนการยุติธรรมเพื่อสังคมและทำงานกับเด็ก ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก nytimes.com, inews.co.uk, scmp.com