ทนายษิทรา โพสต์ด่าใครกัน เจ็บ ๆ คัน ๆ วิ่งเข้าหาแสง โหนคดีคนอื่น ปลุกระดมให้ลูกเพจมาด่า พอถึงเวลาโดนฟ้องขึ้นศาล ทำน้ำตาซึม
จากกรณี ลุงพล หรือ นายไชย์พล วิภา ได้ติดต่อให้ ทนายตั้ม หรือทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เข้ามาช่วยเหลือในคดีน้องชมพู่ หลังทนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ออกมาแฉว่า มีคนอยากให้น้องชมพู่ตายเพราะเรื่องไสยศาสตร์ แลกกับขั้นตอนการตัดเหล็กไหล และเงิน 10 ล้านบาท ทำให้คนมองว่าลุงพลอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ซึ่งทนายษิทราได้เตรียมลงพื้นที่ไปที่บ้านกกกอก เพื่อติดตามคดีแล้วนั้น
อ่านข่าว : ทนายษิทรา เตรียมลงพื้นที่หา ลุงพล ไม่อยากให้โดนใส่ร้าย-ลุงพลชี้ ไม่รู้เรื่องเหล็กไหล
ล่าสุด (23 มกราคม 2564) ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า "โดยปกติผมไม่ใช่ทนายที่จะมานั่งไลฟ์ด่าใครทั้งวี่ทั้งวัน เหมือนคนไร้อาชีพและไม่มีงานทำ ผมไม่เคยได้รับข้อมูลวงในจากตำรวจ แล้วไปเคลมเอาหน้า เหมือนใครบางคน ผมไม่เคยไปโหนเคสชาวบ้านเพราะมันผิดมารยาททนายความและลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน ผมจะพูดและทำคดีของผมเอง นาน ๆ ครั้งถึงจะมีวิจารณ์คดีที่เป็นกระแสสังคมเท่านั้น
แต่ก็เข้าใจได้ จากหลายคดีที่ผมทำ อาจทำให้ทนายและทะแนะร้อนรน เพราะตามสันดานคนหิวแสง ต้องวิ่งเข้าหาสปอตไลท์ ไม่งั้นตัวเองจะหายไปจากพื้นที่สื่อ ก็พยายามใส่ร้ายต่าง ๆ นานา อยู่หน้าคีย์บอร์ดสวมวิญญาณนักรบแห่งบางระจัน ปลุกระดมให้ลูกเพจพิมพ์ข้อความแรง ๆ ว่าผม
ผมก็พยายามให้อภัยคนเขลาเหล่านั้นมาตลอด แต่เลือกดำเนินคดีบุคคลที่กล่าวร้ายให้ผมเสียหาย และเลือกฟ้องหมิ่นประมาทกับคนเริ่มเรื่องเพื่อสั่งสอนให้เขารู้ว่า อย่านึกว่าจะพูดอะไรก็พูด โดยไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ พอมาศาลน้ำตาซึม แทบจะคลานเข่ามาขอโทษ อยากจบ ผมไม่ได้โพสต์นะแอดมินคนอื่นโพสต์ อ้างได้ทุเรศ ไร้ความรับผิดชอบ ใครกันแน่ครับที่เป็นคนสองซิม ไม่ใช่คุณทั้งสองคนเหรอ ที่เป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยม เดี๋ยวอวยกัน เดี๋ยวด่ากัน ประสาทดีจริง ๆ"
โดยขณะนี้ ทนายษิทรา ได้แจ้งผลตรวจโควิด 19 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่พบเชื้อใด ๆ ขอให้เจ้าหน้าที่และคนในหมู่บ้านกกกอกสบายใจได้ เตรียมลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหารในวันพรุ่งนี้ (25 มกราคม)
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ
จากกรณี ลุงพล หรือ นายไชย์พล วิภา ได้ติดต่อให้ ทนายตั้ม หรือทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เข้ามาช่วยเหลือในคดีน้องชมพู่ หลังทนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ออกมาแฉว่า มีคนอยากให้น้องชมพู่ตายเพราะเรื่องไสยศาสตร์ แลกกับขั้นตอนการตัดเหล็กไหล และเงิน 10 ล้านบาท ทำให้คนมองว่าลุงพลอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ซึ่งทนายษิทราได้เตรียมลงพื้นที่ไปที่บ้านกกกอก เพื่อติดตามคดีแล้วนั้น
อ่านข่าว : ทนายษิทรา เตรียมลงพื้นที่หา ลุงพล ไม่อยากให้โดนใส่ร้าย-ลุงพลชี้ ไม่รู้เรื่องเหล็กไหล
ล่าสุด (23 มกราคม 2564) ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า "โดยปกติผมไม่ใช่ทนายที่จะมานั่งไลฟ์ด่าใครทั้งวี่ทั้งวัน เหมือนคนไร้อาชีพและไม่มีงานทำ ผมไม่เคยได้รับข้อมูลวงในจากตำรวจ แล้วไปเคลมเอาหน้า เหมือนใครบางคน ผมไม่เคยไปโหนเคสชาวบ้านเพราะมันผิดมารยาททนายความและลูกผู้ชายเขาไม่ทำกัน ผมจะพูดและทำคดีของผมเอง นาน ๆ ครั้งถึงจะมีวิจารณ์คดีที่เป็นกระแสสังคมเท่านั้น
แต่ก็เข้าใจได้ จากหลายคดีที่ผมทำ อาจทำให้ทนายและทะแนะร้อนรน เพราะตามสันดานคนหิวแสง ต้องวิ่งเข้าหาสปอตไลท์ ไม่งั้นตัวเองจะหายไปจากพื้นที่สื่อ ก็พยายามใส่ร้ายต่าง ๆ นานา อยู่หน้าคีย์บอร์ดสวมวิญญาณนักรบแห่งบางระจัน ปลุกระดมให้ลูกเพจพิมพ์ข้อความแรง ๆ ว่าผม
ผมก็พยายามให้อภัยคนเขลาเหล่านั้นมาตลอด แต่เลือกดำเนินคดีบุคคลที่กล่าวร้ายให้ผมเสียหาย และเลือกฟ้องหมิ่นประมาทกับคนเริ่มเรื่องเพื่อสั่งสอนให้เขารู้ว่า อย่านึกว่าจะพูดอะไรก็พูด โดยไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ พอมาศาลน้ำตาซึม แทบจะคลานเข่ามาขอโทษ อยากจบ ผมไม่ได้โพสต์นะแอดมินคนอื่นโพสต์ อ้างได้ทุเรศ ไร้ความรับผิดชอบ ใครกันแน่ครับที่เป็นคนสองซิม ไม่ใช่คุณทั้งสองคนเหรอ ที่เป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยม เดี๋ยวอวยกัน เดี๋ยวด่ากัน ประสาทดีจริง ๆ"
โดยขณะนี้ ทนายษิทรา ได้แจ้งผลตรวจโควิด 19 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่พบเชื้อใด ๆ ขอให้เจ้าหน้าที่และคนในหมู่บ้านกกกอกสบายใจได้ เตรียมลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหารในวันพรุ่งนี้ (25 มกราคม)
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ