ดูดไขมันเสียชีวิต ตายตั้งแต่เที่ยง คลินิกโทร. แจ้งลูกบ่ายโมง มัวทำอะไร แจงแล้วทำไมไม่ส่ง รพ.

          เผยไทม์ไลน์ดูดไขมันเสียชีวิต ผลพิสูจน์ระบุ เสียชีวิตตั้งแต่เที่ยง แต่คลินิกโทร. แจ้งลูกบ่ายโมงกว่า มัวทำอะไรอยู่ คลินิกแจงเหตุผลไม่ส่งตัวไป รพ. เพราะแบบนี้...  


           จากกรณี นางศรัณย์ภัทร์ กาญจนสุวรรณ์ อายุ 54 ปี น้องสาวของ นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ไปดูดไขมันที่คลินิกแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง แต่เกิดหัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิต ซึ่งทางคลินิกไม่ยอมส่งไปโรงพยาบาล เพราะกลัวเป็นคดีความ ทำให้ลูกติดใจเรื่องนี้อย่างมากนั้น

อ่านข่าว : น้องสาวอดีตรองผู้ว่าฯ เมืองคอน ดูดไขมันดับ - ลูกเผยคลินิกไม่ยอมส่ง รพ. กลัวเป็นคดีความ !

อ่านข่าว : ออกแล้ว ! ผลชันสูตรน้องสาวอดีตรองผู้ว่าฯ เมืองคอน ทำไมเสียชีวิตหลังดูดไขมัน

           ล่าสุด (23 กุมภาพันธ์ 2564) เรื่องเล่าเช้านี้ สัมภาษณ์ น.ส.อัยมิญห์ อิทธีรนันท์ ลูกสาวของผู้ตาย เปิดเผยว่า เหตุผลที่แม่เลือกดูดไขมันกับคลินิกแห่งนี้ เพราะถูกโน้มน้าวใจและการันตีผลการรักษา ซึ่งแม่เคยดูดไขมันมาแล้วก่อนหน้านี้ ตอนนั้นผ่านไปได้อย่างปกติ ซึ่งครั้งนี้แพทย์บอกว่า หลังดูดไขมันแม่ได้ 20 นาที แม่ก็มีอาการผิดปกติ จึงสงสัยว่าระหว่างที่แม่มีอาการผิดปกติ ทำไมไม่ส่งโรงพยาบาล ทั้งที่คลินิกอยู่ไม่ห่างจากโรงพยาบาลขนาดใหญ่ถึง 2 แห่ง


ทั้งนี้ มีการเปิดเผยไทม์ไลน์การเสียชีวิต ดังนี้...

           - เวลา 11.00 น. เดินทางไปดูดไขมันที่คลินิก

           - เวลา 12.15 น. เสียชีวิต (ผลพิสูจน์จากสถาบันนิติเวชวิทยา)

           - เวลา 13.06 - 13.15 น. พยายามโทร. ติดต่อลูกผ่านแอปพลิเคชัน ไลน์ แต่เพราะไม่ได้เป็นเพื่อนกันจึงติดต่อไม่ได้

           - เวลา 13.20 น. คลินิกโทร. ติดลูกชายผ่านทางโทรศัพท์ ลูกชายจึงโทร. บอกพี่สาว

           - เวลา 13.40 น. ลูกสาวไปถึงคลินิก พบว่าแม่ตัวเย็นและตัวแข็ง


           - ทั้งนี้ ลูกสาวจึงเกิดข้อสงสัยว่าถ้าเสียชีวิตตั้งแต่ 12.15 น. แสดงว่าต้องมีอาการก่อนหน้านั้น ทำไมถึงไม่รีบส่งโรงพยาบาล ปล่อยไปจนบ่ายโมงกว่าถึงจะโทร. แจ้งครอบครัว

           ขณะที่ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกดังกล่าวที่ซอยรามคำแหง 24 พบว่า ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย การให้บริการของคลินิกเป็นไปตามมาตรฐานที่ได้ขออนุญาตไว้ แต่ที่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติมคือ เครื่องดูดไขมันและเครื่องกู้สัญญาณชีพ อายัดเป็นหลักฐานไว้แล้ว


           ส่วนแพทย์ที่ทำหน้าที่ดูดไขมันในวันเกิดเหตุ พบว่ามีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนเรื่องที่ต้องเอาผิดคือ คลินิกขอใบอนุญาตเปิดให้บริการช่วง 17.00-20.00 น. แต่ให้บริการผู้ตายช่วง 12.00-14.00 น. จึงต้องแจ้งความเอาผิดเรื่องนี้ต่อไป แต่ยังไม่สั่งปิดคลิกนิก เพราะยังไม่พบความผิดร้ายแรง

           อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ครอบครัวติดใจที่ไม่ส่งโรงพยาบาลนั้น ทางคลินิกได้ชี้แจงว่าอยู่ในระหว่างขั้นตอนการส่งต่อ แต่อาการของผู้ตายขณะนั้น ไม่เหมาะกับการเคลื่อนย้าย เลยไม่ได้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาล


ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3