บทสรุปดราม่า หมอต้วง หลังหารือผู้บริหารการบินไทย ยอมปรับหลักเกณฑ์ประเมินนักบิน เรื่องการเบิกน้ำมัน ยันเบิกน้ำมันเพิ่มได้ ไม่หักคะแนน เพื่อความปลอดภัย แต่ต้องทำรายงานชี้แจง
กลายเป็นเหตุดราม่าการบินไทย เมื่อ หมอต้วง นายแพทย์กรพรหม แสงอร่าม ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก อดีตกัปตันการบินไทย ออกมาเผยเหตุผลที่ตัดสินใจลาออกจากการบินไทย หลังได้รับการประเมินเรื่องการสั่งน้ำมันเพียง 1.13 จาก 10 คะแนน เพราะมักจะสั่งน้ำมันสำรองเพิ่มไปจากเกณฑ์ขั้นต่ำ เพื่อความปลอดภัยของทุกชีวิตบนเครื่อง หลังเคยหวิดดับยกลำมาแล้วเหตุเครื่องบินที่เติมไว้ตามเกณฑ์ขั้นต่ำเกิดน้ำมันไม่พอ เมื่อต้องเผชิญพายุจนนำเครื่องลงจอดไม่ได้ ซึ่งต่อมาทางสายการบินได้ออกมาชี้แจง และทางฝ่ายบริหารก็ได้เรียกนายแพทย์กรพรหมเข้าพูดคุยด้วยแล้ว
อ่านข่าว : ฝ่ายบริหารเรียกคุย หมอต้วง หลังแฉชุดใหญ่ ปลุกดราม่าการบินไทย ประหยัดน้ำมัน
อ่านข่าว : อดีตกัปตันแหกสายการบิน เกือบตายยกลำปมน้ำมันไม่พอ เน้นปลอดภัยทำโดนประเมินต่ำ
ล่าสุด (22 มีนาคม 2564) รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 รายงานว่า ภายหลังจากนายแพทย์กรพรหมเข้าประชุมกับผู้บริหารระดับสูงของการบินไทย ร่วมกับนายกสมาคมนักบิน รวมถึงนักบินอาวุโสอีกหลายคน เพื่อชี้แจงประเด็นปัญหาและข้อเสนอแนะ ทำให้ได้ข้อสรุปว่า การบินไทยจะปรับหลักเกณฑ์ประเมินการปฏิบัติงานของนักบินใหม่ในกรณีดังกล่าว โดยนักบินยังเบิกน้ำมันเพิ่มได้ในแต่ละเที่ยวบินตามดุลยพินิจของนักบิน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด แต่จะต้องทำรายงานชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นในการเบิกน้ำมันเพิ่ม ทั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย
ขณะที่ หมอต้วง เปิดใจว่า เดิมทีมีการพูดกันว่าอำนาจการสั่งน้ำมันเป็นไปตามอำนาจการตัดสินใจของกัปตัน โดยไม่ได้บอกว่าการสั่งเพิ่มจะมีการถูกตัดคะแนน แต่เมื่อต้องมีการคัดคนออกจากองค์กร กลับมีการนำเรื่องดังกล่าวมาประเมิน ซึ่งบางครั้งการสั่งน้ำมันเพิ่มเยอะ ๆ ในบางกรณีนั้นมีความจำเป็นจริง ๆ
ยกตัวอย่างเช่น การบินไปสนามบินปลายทางและมีพายุระหว่างทาง ซึ่งหากให้เป็นไปตามดุลยพินิจของกัปตันว่าจะอ้อมไกลหรืออ้อมใกล้เพื่อหลบพายุ หากกัปตันมีความคิดในใจว่าถ้าสั่งน้ำมันเยอะจะถูกหักคะแนน ก็เลยตัดสินใจบินอ้อมไม่มาก ทำให้อาจไม่พ้นพายุ
ทั้งนี้ หมอต้วง ยืนยันว่า ทุกอย่างที่ทำไปเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับนักบิน และความปลอดภัยของผู้โดยสาร
ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
กลายเป็นเหตุดราม่าการบินไทย เมื่อ หมอต้วง นายแพทย์กรพรหม แสงอร่าม ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก อดีตกัปตันการบินไทย ออกมาเผยเหตุผลที่ตัดสินใจลาออกจากการบินไทย หลังได้รับการประเมินเรื่องการสั่งน้ำมันเพียง 1.13 จาก 10 คะแนน เพราะมักจะสั่งน้ำมันสำรองเพิ่มไปจากเกณฑ์ขั้นต่ำ เพื่อความปลอดภัยของทุกชีวิตบนเครื่อง หลังเคยหวิดดับยกลำมาแล้วเหตุเครื่องบินที่เติมไว้ตามเกณฑ์ขั้นต่ำเกิดน้ำมันไม่พอ เมื่อต้องเผชิญพายุจนนำเครื่องลงจอดไม่ได้ ซึ่งต่อมาทางสายการบินได้ออกมาชี้แจง และทางฝ่ายบริหารก็ได้เรียกนายแพทย์กรพรหมเข้าพูดคุยด้วยแล้ว
อ่านข่าว : ฝ่ายบริหารเรียกคุย หมอต้วง หลังแฉชุดใหญ่ ปลุกดราม่าการบินไทย ประหยัดน้ำมัน
อ่านข่าว : อดีตกัปตันแหกสายการบิน เกือบตายยกลำปมน้ำมันไม่พอ เน้นปลอดภัยทำโดนประเมินต่ำ
ล่าสุด (22 มีนาคม 2564) รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3 รายงานว่า ภายหลังจากนายแพทย์กรพรหมเข้าประชุมกับผู้บริหารระดับสูงของการบินไทย ร่วมกับนายกสมาคมนักบิน รวมถึงนักบินอาวุโสอีกหลายคน เพื่อชี้แจงประเด็นปัญหาและข้อเสนอแนะ ทำให้ได้ข้อสรุปว่า การบินไทยจะปรับหลักเกณฑ์ประเมินการปฏิบัติงานของนักบินใหม่ในกรณีดังกล่าว โดยนักบินยังเบิกน้ำมันเพิ่มได้ในแต่ละเที่ยวบินตามดุลยพินิจของนักบิน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด แต่จะต้องทำรายงานชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นในการเบิกน้ำมันเพิ่ม ทั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย
ขณะที่ หมอต้วง เปิดใจว่า เดิมทีมีการพูดกันว่าอำนาจการสั่งน้ำมันเป็นไปตามอำนาจการตัดสินใจของกัปตัน โดยไม่ได้บอกว่าการสั่งเพิ่มจะมีการถูกตัดคะแนน แต่เมื่อต้องมีการคัดคนออกจากองค์กร กลับมีการนำเรื่องดังกล่าวมาประเมิน ซึ่งบางครั้งการสั่งน้ำมันเพิ่มเยอะ ๆ ในบางกรณีนั้นมีความจำเป็นจริง ๆ
ยกตัวอย่างเช่น การบินไปสนามบินปลายทางและมีพายุระหว่างทาง ซึ่งหากให้เป็นไปตามดุลยพินิจของกัปตันว่าจะอ้อมไกลหรืออ้อมใกล้เพื่อหลบพายุ หากกัปตันมีความคิดในใจว่าถ้าสั่งน้ำมันเยอะจะถูกหักคะแนน ก็เลยตัดสินใจบินอ้อมไม่มาก ทำให้อาจไม่พ้นพายุ
ทั้งนี้ หมอต้วง ยืนยันว่า ทุกอย่างที่ทำไปเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับนักบิน และความปลอดภัยของผู้โดยสาร
ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
