ดราม่าร้อนแห่งวัน ช่อง Ummก็สวยอยู่ ออกมาเผยแล้ว บูลลี่สาวประเภทสอง ห้ามแต่งหญิง ทุกอย่างเป็นการแสดง เป็นเรื่องสมมุติ เป็นวิทยานิพนธ์ ด้านคนรับไม่ได้ ความรู้สึกเสียไปแล้ว จะเอากลับคืนมายังไง
กลายเป็นดราม่าที่ร้อนแรงข้ามวันสุด ๆ กับเรื่องราวของ 3 สาว แห่งรายการ Ummก็สวยอยู่ ได้ออกคลิปมาแค่คลิปเดียวก็ทำเอาคนวิจารณ์สนั่น จากการที่สาวประเภทสองคนหนึ่งโทร. มา และขอคำปรึกษาเรื่องการแต่งตัว แต่กลายเป็นการบูลลี่ ซึ่งล่าสุดทางช่องก็ออกมาบอกแล้วว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องสมมุติ แต่ยิ่งพูดก็เหมือนไฟจะยิ่งลุกลาม สร้างความเดือดให้กับคนบนโลกออนไลน์หนัก
อ่านเพิ่มเติม : ดราม่าร้อน ! ยูทูบเบอร์บูลลี่สาวสอง จะแต่งอะไรดูรูปร่างตัวเองด้วย ผู้ชายแต่งหญิงไม่ได้
วันนี้ กระปุกดอทคอม จะมาสรุปเรื่องนี้ให้ฟังกันตั้งแต่ต้นจนจบค่ะ
เปิดตำนาน Ummก็สวยอยู่ บอกสาวประเภทสองห้ามแต่งหญิง คนจับมาด่ากันทั่วออนไลน์
Ummก็สวยอยู่ เป็นคลิปที่ผู้หญิง 3 คน มาให้คำปรึกษาเรื่องการแต่งตัว และมีสาวประเภทสองคนหนึ่งโทร. มา และบอกว่าอยากแต่งหญิงบ้างจะทำอย่างไร แต่คำแนะนำที่ให้กลับกลายเป็นการเหยียด เช่น การที่บอกว่าสาวประเภทสองคนนั้น "ไม่น่าจะใส่เป็นผู้หญิงได้หรือเปล่า" พร้อมกับทำท่าขำขันออกมาแบบกลั้นไม่ไหว แล้วสาวประเภทสองก็ถามว่า จะใส่เดรสแทนได้ไหม แต่คำตอบที่ได้กลับบอกว่า ถ้าใส่เดรสแล้วจะปริ ไม่อย่างนั้นก็ไปใส่เสื้อผ้าคนอ้วนแทน "เหมือนอีบิ๊กเลยอะ"
งานนี้ทำเอาโลกออนไลน์เดือดหนัก และมองว่าในสมัยนี้ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแต่งตัวอะไรอย่างไรก็ได้ ไม่จำกัดในเรื่องเพศ ไม่จำกัดว่าจะมีรูปร่างแบบไหน และชี้ว่าการทำแบบนี้คือการบูลลี่คนออกอากาศ ไม่ส่งผลดีกับใครทั้งนั้น
Ummก็สวยอยู่ เป็นคลิปที่ผู้หญิง 3 คน มาให้คำปรึกษาเรื่องการแต่งตัว และมีสาวประเภทสองคนหนึ่งโทร. มา และบอกว่าอยากแต่งหญิงบ้างจะทำอย่างไร แต่คำแนะนำที่ให้กลับกลายเป็นการเหยียด เช่น การที่บอกว่าสาวประเภทสองคนนั้น "ไม่น่าจะใส่เป็นผู้หญิงได้หรือเปล่า" พร้อมกับทำท่าขำขันออกมาแบบกลั้นไม่ไหว แล้วสาวประเภทสองก็ถามว่า จะใส่เดรสแทนได้ไหม แต่คำตอบที่ได้กลับบอกว่า ถ้าใส่เดรสแล้วจะปริ ไม่อย่างนั้นก็ไปใส่เสื้อผ้าคนอ้วนแทน "เหมือนอีบิ๊กเลยอะ"
งานนี้ทำเอาโลกออนไลน์เดือดหนัก และมองว่าในสมัยนี้ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแต่งตัวอะไรอย่างไรก็ได้ ไม่จำกัดในเรื่องเพศ ไม่จำกัดว่าจะมีรูปร่างแบบไหน และชี้ว่าการทำแบบนี้คือการบูลลี่คนออกอากาศ ไม่ส่งผลดีกับใครทั้งนั้น

หลังจากที่ปล่อยคลิปออกไปและมีกระแสตอบรับกลับมาไม่ดี ทางเพจก็ได้เผยว่า สิ่งที่เห็นในคลิปนั้นคือส่วนหนึ่งของละครวิทยานิพนธ์ ภาควิชาสื่อสารการแสดง คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่นำเสนอในแบบ Social Experiment (การทดลองกับสังคม) สิ่งที่เห็นนั้นคือเรื่องสมมุติล้วน ๆ
จากนั้นคณะผู้จัดทำก็ได้เผยแพร่คลิปเพื่ออธิบายเรื่องทั้งหมด โดยบอกว่า ทางผู้จัดทำได้จัดทำทั้งหมด 4 ตอน ตอนที่ 1 คือ เป็นการถาม-ตอบเนื้อหาทั่วไปตามปกติ, ตอนที่ 2 คือ ตัวละครเริ่มรู้สึกว่ามีการใช้คำพูดบูลลี่คนอื่น อยากจะแก้ไขแต่แก้ไม่ได้ จนกลายเป็นดราม่าตามแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ, ตอนที่ 3 เป็นตอนที่ออกมาขอโทษ, ตอนที่ 4 เป็นตอนเบื้องหลังที่ทุกคนกำลังดูอยู่
ยิ่งพูดคนยิ่งด่า คุณได้วิทยานิพนธ์จากความเจ็บปวดของคนอื่น มันใช่เหรอ ?
แม้ว่าทางทีมงานจะออกมาอธิบายต่าง ๆ ว่าต้องการดูทิศทางของสังคมว่าจะไปในแนวทางไหนที่มีต่อการทำคลิปนี้ แต่กลับยิ่งไม่เป็นผลดี และยิ่งพยายามอธิบายมากเท่าไร คนกลับยิ่งวิจารณ์มากขึ้นเท่านั้น บางคนมองว่า วิทยานิพนธ์ตอนนี้ทำจากความเจ็บปวดและเดือดร้อนของคนอื่น คุณแสดงละครปลอม ๆ แต่คนอื่นเขาเจ็บปวดจริง ๆ
นอกจากนี้ บางคนยังไถ่ถามไปถึงขั้นที่ว่า ปกติการทำวิทยานิพนธ์นั้นต้องผ่านการเลือกหัวข้อจากอาจารย์ และอยากเห็นเลยว่าอาจารย์คนไหนเป็นคนอนุมัติให้นิสิตทำแบบนี้
"ต่อจากนี้น้อง ๆ มีแพลนยังไงต่อ เพราะการเอาเบื้องหลังออกมาให้เห็นว่าทุกอย่างทำผ่านการวางแผนหลอกคนดู มันจะยิ่งแย่นะ เราถามจี้ เพราะเราห่วงคนดู และไม่อยากให้ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์มันทำร้ายใครเลย น้องพิจารณาคำตอบดี ๆ จะได้ไปต่อแบบใจเย็น อย่าคิดแทนคนดู ให้เกียรติผู้ชมและผู้รับสารเสมอนะ ฝากไว้ค่ะ"
















