เปิดความจริง โรงเรียนประจำนรก กับ ชะตาชีวิตเด็กพื้นเมืองในแคนาดา ที่ไปเรียนเหมือนไปตาย ประวัติศาสตร์เลวร้ายที่ถูกลืม 215 ศพ เป็นแค่ส่วนหนึ่ง
ข่าวการพบศพเด็ก 215 ศพ ถูกฝังภายใต้ Kamloops Indian School อดีตโรงเรียนประจำเก่าแก่ที่แคนาดา ได้สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก และเป็นการเปิดโปงประวัติศาสตร์อันดำมืด โหดร้ายทารุณ และแสนเจ็บปวดที่เด็กชนชาวพื้นเมืองได้รับมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา องค์กรสิทธิมนุษย์ชนต่าง ๆ และ คณะกรรมการตรวจสอบความจริงและความปรองดอง หรือ TRC (Truth and Reconciliation Commission) ได้ขุดคุ้ยหาข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนประจำ "พิเศษ" ที่มีอยู่ทั่วแคนาดา และการหายตัวไปอย่างปริศนาของเด็กชนพื้นเมือง ซึ่งสุดท้ายแล้วจบลงด้วยความตาย
ชนพื้นเมืองคือใคร
ชนพื้นเมือง หรือ Indigenous Peoples คือผู้คนดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ ทั้งสหรัฐอเมริกาและแคนาดา พวกเขาเหล่านี้มีอยู่หลายชนเผ่า อาศัยอยู่กระจัดกระจายกันออกไป อาทิ ชนเผ่าอินูอิต (Inuit) ชนเผ่าเมทิส (Metis) และชาวอินเดียนแดงเผ่าอื่น ๆ โดยข้อมูลเชิงสถิติในปี 2559 ระบุว่า ปัจจุบันมีชาวพื้นเมืองอาศัยอยู่ในแคนาดามากกว่า 1.67 ล้านคน
โรงเรียนประจำพิเศษ คืออะไร
หลังจากคนผิวขาวอพยพโยกย้ายมาตั้งถิ่นฐานในแคนาดา ชีวิตของชนพื้นเมืองก็เปลี่ยนแปลงไปและเกิดความต้องการต้องการให้เกิดการกลืนกลายทางวัฒนธรรม โดยเริ่มต้นตั้งแต่เด็ก โดย Residential Schools หรือ โรงเรียนประจำสำหรับเด็กพื้นเมือง ถูกก่อตั้งขึ้นโดยคณะนักบวชโรมันคาธิลิก ในช่วงทศวรรษที่ 1860 และดำเนินเรื่อยมาจนถึงเกือบสิ้นสุดคริสศตวรรษที่ 20
การฆ่าทางวัฒนธรรม
ตลอดระยะเวลา 135 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ.1863 (พ.ศ.2406) จนถึง ค.ศ.1998 (พ.ศ.2541) มีเด็ก ๆ ชาวพื้นเมืองจากชนเผ่าต่าง ๆ มากกว่า 150,000 คน ถูกพรากตัวไปจากบ้านและชุมชน เพื่อไปเข้าเรียนโรงเรียนประจำทั่วแคนาดา เด็กนักเรียนจะไม่ได้รับอนุญาตให้พูดภาษาของตัวเองและห้ามแสดงออกทางวัฒนธรรมดั้งเดิม ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ซึ่งองค์กร TRC กล่าวว่า การกระทำเหล่านี้คือการ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทางวัฒนธรรม
ชะตาชีวิตอันโหดร้าย
เด็กชนพื้นเมืองได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมสารพัด ถูกทารุณ ถูกใช้แรงงาน และถูกกลั่นแกล้งรังแกต่าง ๆ รวมถึงถูกปฎิบัติเหมือนไม่ใช่คน เด็กผู้ชายที่โตแล้วจะถูกจับขึ้นสังเวียนชกมวย ให้ชกต่อยกันเองจนกว่าจะหมดแรง นอกจากนี้แล้วยังมีเคสการล่วงละเมิดทางเพศอีกนับไม่ถ้วน
สภาพความเป็นอยู่และโรคระบาด
โรงเรียนเหล่านี้มักจะมีสภาพที่ขาดสุขอนามัย ทำให้เกิดโรคได้ง่าย และเมื่อมีโรคระบาดเกิดขึ้น เด็ก ๆ ก็จะติดกันไปทั่ว เพราะอาศัยกันอยู่อย่างแออัด ตัวอย่างเช่น โรงเรียน Kamloops Indian School ที่รัฐบริติชโคลัมเบีย ซึ่งเป็นที่ที่พบศพเด็ก 215 คน นั้น ข้อมูลเผยว่าเคยมีโรคระบาดอย่าง วัณโรค โรคหัด และโรคอื่น ๆ เกิดขึ้น ทำให้มีเด็กล้มตายเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีข้อมูลตัวเลขที่แน่ชัด
การไปเรียนคือการไปตาย
เด็กนักเรียนมากมายหายตัวไปอย่างปริศนา พวกเขาไม่เคยได้กลับบ้าน และไม่มีข้อมูลใด ๆ ส่งกลับไปบอกครอบครัว จนเป็นที่รู้กันดีว่าถ้าพวกเขาไม่กลับมาแปลว่าตายไปแล้ว เด็กที่ตายจะถูกโยนลงหลุมศพนิรนาม ไร้ป้ายชื่อ ไร้การเปิดเผย จนกระทั่งองค์กร TRC เข้ามาตรวจสอบ จนพบว่า เด็กชนพื้นเมืองอย่างน้อย 3,200 ราย ตายที่โรงเรียนเหล่านี้ และมีการพบบันทึกชื่อเด็กที่ตาย 2,800 คน แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่ใช่ตัวเลขที่แน่ชัด เพราะมีการทำลายหลักฐาน ปกปิดข้อมูล รวมทั้งการตายอีกมากมายที่ไม่ถูกบันทึก
ประวัติศาสตร์ที่เคยถูกลืม
หลังจากที่กลุ่มชนพื้นเมืองต่อสู้เรียกร้องกันมานาน ในที่สุดในปี ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) รัฐบาลแคนาดาออกมายอมรับว่าระบบโรงเรียนประจำพิเศษดังกล่าวมีอยู่จริง และขอโทษอย่างเป็นทางการต่อชาวพื้นเมือง
ล่าสุด นายจัสติน ทรูโด (Justin Trudeau) ผู้นำแคนาดา ก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจกับการพบศพเด็ก 215 ศพที่ Kamloops Indian School กล่าวว่าตนเองหัวใจสลายหลังจากได้รับรู้เรื่องนี้ สิ่งนี้ย้ำเตือนถึงช่วงเวลาอันมืดหม่นและน่าละอายซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์แคนาดา ตนเองเสียใจกับทุก ๆ ท่านที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ และรัฐพร้อมที่จะช่วยเหลือ
บทสรุป หรือ จุดเริ่มต้น
ผู้ที่ทำการตรวจสอบจนพบศพเด็ก 215 คน คือ กลุ่มชนพื้นเมืองเผ่า Tk’emlups te Secwépemc ซึ่งพวกเขามีคำถามมากมายที่ต้องการคำตอบ และตอนนี้กำลังร่วมมือกับชุมชนชาวพื้นเมืองในการสืบสวนหาความจริงเบื้องหลังโศกนาฎกรรมนี้แล้ว ซึ่งคดีในครั้งนี้อาจกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดโปงเรื่องราวในมุมมืดอีกมากมาย ที่ถูกซุกซ่อนไว้