เผยเบื้องหลัง ผู้กำกับโจ้ กับธุรกิจฟอกรถซูเปอร์คาร์ ถอดสมองกลให้ราคาตก ก่อนชี้เป้าให้ศุลกากรจับ ช่องทางรวยมหาศาล ได้ทั้งกำไรจากรถ ได้ทั้งเงินรางวัลนำจับ
จากกรณีคลิปอื้อฉาว พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ทรมานผู้ต้องหายาเสพติดด้วยการเอาถุงคลุมหัวจนเสียชีวิตคาโรงพัก จนนำไปสู่การเปิดโปงชีวิตด้านต่าง ๆ ของผู้กำกับหนุ่มคนนี้ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าเขามีเงินหลายร้อยล้าน มีรถหรูนับ 30 คัน ทั้งที่เงินเดือนแค่ 40,000 กว่าบาทเท่านั้น ซึ่งพบช่องทางทำเงินของผู้กำกับโจ้ คือ จะนำเข้าและจับรถผิดกฎหมายจากชายแดน ที่ผ่านมาทำมาแล้วกว่า 360 คัน จากนั้นนำส่งศุลกากรเพื่อประมูลขาย รับส่วนแบ่งรวมอย่างน้อย 300 ล้าน ต่อมาผันตัวจัดหาอะไหล่รถหรูขาย
อ่านข่าว : แลมโบฯ ผู้กำกับโจ้ โป๊ะแตกคือของกลาง - ส่องช่องรวย จับรถ 360 คัน ส่วนแบ่งกว่า 300 ล้าน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (26 สิงหาคม 2564) รายการเจาะลึกทั่วไทย เผยเบื้องหลังความรวยของผู้กำกับโจ้ หรือในวงการรถหรูเรียกเขาว่า โจ้ เฟอร์รารี่ โดยเขาได้มีโอกาสไปทำงานเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติด และได้ย้ายไปอยู่ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คุมการปฏิบัติงานของโซนภาคใต้ สำหรับเบื้องหลังความรวยนั้น เกิดจากธุรกิจฟอกรถ 2 ช่องทาง ได้แก่ ฟอกรถซูเปอร์คาร์ และ ฟอกรถพรีเมียม โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้..
ยกตัวอย่าง แก๊งของโจ้จะนำเข้ารถแลมโบกินี่ จะนำสมองกลของแลมโบกินี่ออกก่อน เพราะหัวใจของซูเปอร์คาร์คือสมองกล จากนั้นนำรถสมองกลวงไปให้กรมศุลกากรจับ โดยนำรถไปจอดไว้แล้วแจ้งเบาะแสการนำจับ จากนั้นกรมศุลกากรก็จะนำรถไปประมูลขาย
โดยแก๊งของโจ้ก็จะเข้าไปประมูลซื้อในราคาที่ต่ำกว่าตลาดอย่างมหาศาล เพราะไม่มีคู่แข่ง เนื่องจากคนในวงการรถหรูจะรู้กันดีว่ารถพวกนี้เป็นรถของใคร หากประมูลมาก็ได้แต่รถสมองกลวง และหากต้องสั่งสมองกลจากศูนย์ต่างประเทศก็แพงมาก ๆ ทำให้ไม่มีใครเข้าประมูลด้วย เมื่อประมูลชนะแล้ว ถอยออกจากกรมศุลกากร ก็นำรถไปใส่สมองกลที่ถอดไว้ แล้วนำไปขาย ได้กำไรเป็นจำนวนมาก
แก๊งของโจ้จะไปซื้อรถพรีเมียมจากประเทศมาเลเซีย เช่น Benz, BMW, Lexus เป็นต้น เนื่องจากรถทางฝั่งมาเลเซียมีราคาถูกมาก จากนั้นขนผ่านชายแดนขึ้นกรุงเทพฯ ส่วนวิธีที่ทำให้ไม่โดนตรวจสอบนั้น ก็จะอ้างว่าจะนำรถยนต์เหล่านี้ไปตรวจสอบที่ส่วนกลางตำรวจ หรืออ้างว่าเป็นรถของกลาง
จากนั้นก็นำรถดังกล่าวไปให้กรมศุลกากรจับ ชี้เป้าการนำจับเหมือนเดิม เมื่อกรมศุลกากรนำรถไปประมูลขายเสร็จแล้ว ก็จะแบ่ง 45% จากการขายให้กับโจ้ เป็นรางวัลนำจับและค่าสายข่าว ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายของศุลกากร
![เปิดเบื้องหลัง ผู้กำกับโจ้ ฟอกรถซูเปอร์คาร์ เปิดเบื้องหลัง ผู้กำกับโจ้ ฟอกรถซูเปอร์คาร์]()
ภาพจาก Instagram byet0eyyy
ยกตัวอย่างรถ BMW ประมาณ 4 แสนบาท ซื้อแล้วลักลอบเอาเข้าไทยให้ถูกจับ ทำให้รถถูกส่งไปยังศุลกากร เมื่อคดีเสร็จนำออกขายทอดตลาดด้วยวิธีประมูล
หากราคารถ BMW ประมูลไป 2 ล้าน เงินที่ได้จะถูกแบ่งเป็นรางวัลนำจับ และค่าสายข่าว ทั้งสองส่วนนี้คิดเป็น 45% ของราคา 2 ล้านบาท คือจำนวน 9 แสนบาท เท่ากับว่ารถ BMW หักทุน 4 แสนบาทแล้ว จะได้กำไรราว 5 แสนบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการเจาะลึกทั่วไทย
จากกรณีคลิปอื้อฉาว พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ทรมานผู้ต้องหายาเสพติดด้วยการเอาถุงคลุมหัวจนเสียชีวิตคาโรงพัก จนนำไปสู่การเปิดโปงชีวิตด้านต่าง ๆ ของผู้กำกับหนุ่มคนนี้ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าเขามีเงินหลายร้อยล้าน มีรถหรูนับ 30 คัน ทั้งที่เงินเดือนแค่ 40,000 กว่าบาทเท่านั้น ซึ่งพบช่องทางทำเงินของผู้กำกับโจ้ คือ จะนำเข้าและจับรถผิดกฎหมายจากชายแดน ที่ผ่านมาทำมาแล้วกว่า 360 คัน จากนั้นนำส่งศุลกากรเพื่อประมูลขาย รับส่วนแบ่งรวมอย่างน้อย 300 ล้าน ต่อมาผันตัวจัดหาอะไหล่รถหรูขาย
อ่านข่าว : แลมโบฯ ผู้กำกับโจ้ โป๊ะแตกคือของกลาง - ส่องช่องรวย จับรถ 360 คัน ส่วนแบ่งกว่า 300 ล้าน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (26 สิงหาคม 2564) รายการเจาะลึกทั่วไทย เผยเบื้องหลังความรวยของผู้กำกับโจ้ หรือในวงการรถหรูเรียกเขาว่า โจ้ เฟอร์รารี่ โดยเขาได้มีโอกาสไปทำงานเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติด และได้ย้ายไปอยู่ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คุมการปฏิบัติงานของโซนภาคใต้ สำหรับเบื้องหลังความรวยนั้น เกิดจากธุรกิจฟอกรถ 2 ช่องทาง ได้แก่ ฟอกรถซูเปอร์คาร์ และ ฟอกรถพรีเมียม โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้..
วิธีการฟอกรถซูเปอร์คาร์
ยกตัวอย่าง แก๊งของโจ้จะนำเข้ารถแลมโบกินี่ จะนำสมองกลของแลมโบกินี่ออกก่อน เพราะหัวใจของซูเปอร์คาร์คือสมองกล จากนั้นนำรถสมองกลวงไปให้กรมศุลกากรจับ โดยนำรถไปจอดไว้แล้วแจ้งเบาะแสการนำจับ จากนั้นกรมศุลกากรก็จะนำรถไปประมูลขาย
โดยแก๊งของโจ้ก็จะเข้าไปประมูลซื้อในราคาที่ต่ำกว่าตลาดอย่างมหาศาล เพราะไม่มีคู่แข่ง เนื่องจากคนในวงการรถหรูจะรู้กันดีว่ารถพวกนี้เป็นรถของใคร หากประมูลมาก็ได้แต่รถสมองกลวง และหากต้องสั่งสมองกลจากศูนย์ต่างประเทศก็แพงมาก ๆ ทำให้ไม่มีใครเข้าประมูลด้วย เมื่อประมูลชนะแล้ว ถอยออกจากกรมศุลกากร ก็นำรถไปใส่สมองกลที่ถอดไว้ แล้วนำไปขาย ได้กำไรเป็นจำนวนมาก
วิธีการฟอกรถพรีเมียม
แก๊งของโจ้จะไปซื้อรถพรีเมียมจากประเทศมาเลเซีย เช่น Benz, BMW, Lexus เป็นต้น เนื่องจากรถทางฝั่งมาเลเซียมีราคาถูกมาก จากนั้นขนผ่านชายแดนขึ้นกรุงเทพฯ ส่วนวิธีที่ทำให้ไม่โดนตรวจสอบนั้น ก็จะอ้างว่าจะนำรถยนต์เหล่านี้ไปตรวจสอบที่ส่วนกลางตำรวจ หรืออ้างว่าเป็นรถของกลาง
จากนั้นก็นำรถดังกล่าวไปให้กรมศุลกากรจับ ชี้เป้าการนำจับเหมือนเดิม เมื่อกรมศุลกากรนำรถไปประมูลขายเสร็จแล้ว ก็จะแบ่ง 45% จากการขายให้กับโจ้ เป็นรางวัลนำจับและค่าสายข่าว ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายของศุลกากร

ภาพจาก Instagram byet0eyyy
ยกตัวอย่างรถ BMW ประมาณ 4 แสนบาท ซื้อแล้วลักลอบเอาเข้าไทยให้ถูกจับ ทำให้รถถูกส่งไปยังศุลกากร เมื่อคดีเสร็จนำออกขายทอดตลาดด้วยวิธีประมูล
หากราคารถ BMW ประมูลไป 2 ล้าน เงินที่ได้จะถูกแบ่งเป็นรางวัลนำจับ และค่าสายข่าว ทั้งสองส่วนนี้คิดเป็น 45% ของราคา 2 ล้านบาท คือจำนวน 9 แสนบาท เท่ากับว่ารถ BMW หักทุน 4 แสนบาทแล้ว จะได้กำไรราว 5 แสนบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการเจาะลึกทั่วไทย