x close

ย้อนปมพ่อไม่ไหว ลูกอนาคตไกลป่วยติดเตียง ฆ่าลูก-ฆ่าตัวตายตาม เหตุการณ์เดียวทุกอย่างพลิก


           ย้อนเรื่องราว ข่าวสะเทือนใจ พ่อรับไม่ไหวเห็นลูกชายอนาคตไกล ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ฆ่าลูกชายก่อนฆ่าตัวตายตาม อุบัติเหตุครั้งเดียวทำครอบครัวพลิก ย้อนตั้งแต่วันที่ยังดี จนถึงวันนี้ที่ไม่เหลืออะไรแล้ว

พ่อฆ่าลูก
          เมื่อวานนี้ (23 ตุลาคม 2564) เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหว้า จ.นครพนม ได้รับแจ้งว่า ที่บ้านหลังหนึ่งในเขตบ้านหนองไชยวาน ต.นาหว้า มีคนถูกฆ่าตาย จึงเข้าไปตรวจสอบ พบศพของนายอนันตชัย (สงวนนามสกุล) วัย 22 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียง สวมผ้าอ้อมผู้ใหญ่เพียงตัวเดียว นอนอยู่ชั้นล่างตรงหน้าต่างติดประตูบ้าน สภาพศพมีเชือกไนล่อนที่ลำคอ และไม่มีร่องรอยการต่อสู้

          ทว่าในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังชันสูตรพลิกศพนั้น ก็มีคนมาแจ้งว่า พบศพของ นายทองไสว (สงวนนามสกุล) วัย 54 ปี พ่อของนายอนันตชัย ผู้ตาย ที่ศาลาริมสระน้ำหนองไชยวาน ห่างจากจุดเกิดเหตุ 500 เมตร โดยสภาพศพของนายทองไสวนั้น ถูกปาดคอเป็นแผลฉกรรจ์ ทำให้คดีนี้กลายเป็นปริศนาว่า สองพ่อลูกเสียชีวิตจากสาเหตุใด

พ่อฆ่าลูก
เมียเล่าปมสาเหตุที่ลูกพิการ จากคนอนาคตไกล ทำงานจนมีเงินออกกระบะ อุบัติเหตุครั้งเดียวเปลี่ยนชีวิต

          ด้านนางสังวรณ์ วัย 54 ปี แม่ของนายอนันชัย ภรรยาของนายทองไสว เล่าทั้งน้ำตาว่า นายอนันตชัยออกจากบ้านไปทำงานที่ร้านนึ่งข้าวขายที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มานานหลายปี สามารถเก็บเงินจนดาวน์รถยนต์ 4 ประตูมาใช้ได้ 1 คัน แต่ว่าในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ลูกชายขับรถยนต์คู่ใจไปหาเพื่อน ระหว่างทางเสียหลักตกถนน ทำให้คอและกระดูกสันหลังของลูกชายหัก แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยติดเตียง ต้องนอนรักษาตัวหลายสัปดาห์

          กระทั่งวันที่ 12 สิงหาคม ตนเหมารถไปรับลูกชายมารักษาต่อที่โรงพยาบาลนาหว้า จ.นครพนม เพราะครอบครัวไม่มีเงินจ่ายค่าหมอแล้ว ทางครอบครัวได้เงินจากประกันอุบัติเหตุมา 80,000 บาท และทางโรงพยาบาลคิดค่ารักษาเพียงเท่านั้น เมื่อมาถึง โรงพยาบาลนาหว้า นายอนันตชัยก็รักษาตัวเรื่อย ๆ เป็นเวลาเกือบ 2 เดือน แพทย์ก็อนุญาตให้กลับบ้านได้ พร้อมมอบเตียงคนไข้มา 1 เตียง

          ตอนที่ลูกชายรักษาตัวที่บ้าน ตนเห็นนายทองไสว สามี ยืนมองน้ำตาคลอ สงสารลูกชาย แต่ก็ไม่ได้ปริปากพูดอะไร เพราะปกติก็ไม่คุยกับใครอยู่แล้ว นายทองไสวไม่ได้มีพฤติกรรมเสพติดของมึนเมา มีหน้าที่เดียวคือคอยดูแลลูก คอยเปลี่ยนแพมเพิสให้ แล้วนอนใต้เตียงผู้ป่วยเพื่อเฝ้าลูกชายอยู่เสมอ

พ่อฆ่าลูก
แม่เล่าวันเกิดเหตุ กลับมาเห็นลูกตาย ถามหาพ่ออยู่ไหน จนรู้ว่าพ่อก็หนีไปตายเช่นกัน

          ส่วนในวันเกิดเหตุ ตนกับลูกสาวคนเล็กวัย 10 ขวบ ขี่จักรยานยนต์ไปดูต้นข้าวในนาว่าจะเก็บเกี่ยวได้เมื่อไร จึงบอกสามีว่า ถ้าลูกหิวข้าวก็ป้อนเขา เดี๋ยวพอตนกลับมาจะล้างแผลกดทับเอง สามีก็พยักหน้า ไม่ตอบอะไร แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านใน 1 ชั่วโมงให้หลัง ประตูหน้าบ้านกับหน้าต่างปิด ซึ่งถือว่าผิดปกติมาก

          ตนจึงเปิดประตูเข้าไป ไม่เห็นลูกชายบนเตียง เดินอ้อมมาอีกด้านเห็นสภาพลูกนอนอยู่ที่พื้น ที่คอมีเชือกไนลอนสีแดงที่ใช้ผูกควายรัด ด้วยความตกใจจึงเรียกเพื่อนบ้านให้รีบเอาลูกขึ้นเตียง พยายามปั๊มหัวใจ เรียกชื่อสามีว่าอยู่ไหน แต่ก็ไม่สามารถช่วยลูกได้ กระทั่งคนเลี้ยงควายมาเจอศพสามีที่ศาลาริมน้ำ


          นางสังวรณ์ ยังกล่าวทั้งน้ำตาอีกว่า สามีรักลูกชายคนนี้มาก และน่าจะทนเห็นสภาพลูกต้องมาป่วยติดเตียงแบบนี้ไม่ไหว จึงใช้เชือกรัดคอลูก แล้วหยิบมีดพร้าเดินข้ามทุ่งนาฆ่าตัวตายตามลูกรักไปในที่สุด

น้องชายเผยลางบอกเหตุ มีการเตรียมการล่วงหน้า สั่งเสียไว้ว่า ถ้าไม่มีตนแล้ว ฝากดูแลครอบครัวด้วย

          ล่าสุด วันนี้ (24 ตุลาคม 2564) เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า มีการจัดงานศพของพ่อลูกที่บ้าน ตั้งโลงศพไว้เคียงข้างกัน โดยเพื่อนบ้านและญาติเข้ามาแสดงความเสียใจกับนางสังวรณ์ที่เสียสามีกับลูกไปพร้อมกัน

          ด้านนายแววดาว (สงวนนามสกุล) วัย 42 ปี น้องชายของนายทองไสว กล่าวว่า พี่ชายไม่ดื่มของมึนเมา เป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่มีปัญหากลับใคร แต่ตอนที่ลูกชายกลายเป็นคนพิการ ก็มีความเสียใจ แต่ไม่บ่นให้ใครฟัง และด้วยความรักลูกมาก ก็นอนใต้เตียงเป็นเพื่อนลูกทุกวัน คอยดูแลเปลี่ยนแพมเพิสเพื่อเช็ดอุจจาระ ทำความสะอาดแผลที่กดทับเสมอ

          ก่อนเกิดเหตุประมาณ 4-5 วัน พี่ชายถางหญ้ารอบรั้วบ้าน ทำความสะอาดจนโล่งเตียน คล้ายกับเตรียมตัวเรื่องนี้เอาไว้ จะได้มีสถานที่จัดงานศพตัวเอง นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยกับเพื่อนบ้าน ให้ช่วยดูครอบครัวตัวเองด้วยหากตนไม่อยู่แล้ว คล้ายเป็นการสั่งเสีย ซึ่งสาเหตุที่พี่ชายทำไปนั้น เพราะไม่ต้องการเห็นลูกชายต้องอยู่ในสภาพพิการ และต้องการให้ลูกพ้นจากความทรมาน แล้วฆ่าตัวตายตาม

พ่อฆ่าลูก
ภรรยาอยากถามสามี ทำแบบนี้ถูกต้องหรือ ?

          ขณะที่นางสังวรณ์ กล่าวว่า เมื่อญาติ ๆ มากันครบก็มีความเห็นว่า จะฌาปนกิจศพวันที่ 25 ตุลาคม นี้ ณ ป่าช้าประจำหมู่บ้าน หลังจากนี้ยังนึกภาพไม่ออกว่าจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร หากวิญญาณสามีรับรู้ อยากถามว่า การทำแบบนี้มันถูกต้องเหรอ ที่ทิ้งคนข้างหลังต้องเผชิญชะตาชีวิตเพียงลำพัง


ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว, เรื่องเล่าเช้านี้





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ย้อนปมพ่อไม่ไหว ลูกอนาคตไกลป่วยติดเตียง ฆ่าลูก-ฆ่าตัวตายตาม เหตุการณ์เดียวทุกอย่างพลิก อัปเดตล่าสุด 24 ตุลาคม 2564 เวลา 12:22:05 45,212 อ่าน
TOP