x close

สาวไส้เส้นทางบัญชี แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โอนถ่ายเงินหลายทอดจนจับไม่ได้ เผยใครคือตัวการใหญ่

          เปิดอภิมหาเส้นทางบัญชีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โอนถ่ายเงินจนจับไม่ได้ พวกที่โดนจับคือพวกปลายแถว รับจ้างเปิดบัญชี ส่วนตัวใหญ่ ๆ ยังอยู่ห่างไกลเหลือเกิน

แก๊งคอลเซนเตอร์
ภาพจาก ช่อง 3

          วันที่ 27 กันยายน 2564 ไทยพีบีเอส รายงานว่า พล.ต.ท. สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 มีการแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงเหยื่อ เสียหายร่วม 2.4 ล้านบาท สามารถไล่เรียงเหตุการณ์ บทสรุป และเบื้องหลังของคดีดังกล่าวได้ดังนี้

จุดเริ่มต้นของคดี


แก๊งคอลเซนเตอร์

          นางสาวเอ (นามสมมติ) วัย 39 ปี ถูกมิจฉาชีพโทรศัพท์มาหลอกลวง ให้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารชื่อบัญชีนางสมศรี จำนวน 218,470 บาท ซึ่งเหยื่อก็หลงเชื่อ โอนเงินไปตามจำนวนที่ระบุ แต่เมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอก จึงมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครราชสีมา ให้เอาผิดคนก่อเหตุ

กระบวนการก่อเหตุ ใช้กลเม็ดอะไรในการหลอกจนเหยื่อเชื่อ


          มิจฉาชีพจะปลอมตัวเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรศัพท์มาหาผู้เสียหาย อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่ง DHL (สาขาเชียงใหม่) แล้วบอกกับผู้เสียหายว่า ผู้เสียหายได้ส่งของไปยังประเทศจีน เช่น พาสปอร์ต บัตรเอทีเอ็ม เสื้อผ้า ซึ่งมันติดค้างอยู่ที่ศุลกากร ไม่สามารถขนส่งไปปลายทางได้

          เมื่อผู้เสียหายได้รับแจ้งแบบนี้ ทุกคนย่อมงงว่า ส่งไปตอนไหน ทางมิจฉาชีพจึงสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการแนะนำว่า สามารถโอนสายเพื่อแจ้งความตำรวจ สภ.เชียงใหม่ และพูดคุยผ่านไลน์กัน ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง จากนั้นก็บอกว่า ผู้เสียหายมีส่วนพัวพันกับการฟอกเงิน ถ้าไม่อยากมีปัญหาจะให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบบัญชีให้ โดยผู้เสียหายต้องแจ้งข้อมูลในบัญชีทั้งหมดและยอดเงินในบัญชี เพื่ออ้างถึงการตรวจสอบทางการเงิน

          จากนั้น ขอให้ผู้เสียหายโอนเงินทุกบัญชีไปยังบัญชีที่ชื่อ สมศรี เพื่อตรวจสอบว่าตรงกันหรือไม่ ซึ่งผู้เสียหายก็โอนเงินไปยังบัญชีดังกล่าวจริง แต่พอสงสัยว่า เรื่องนี้มันแปลก ๆ โทรศัพท์กลับไปที่เบอร์เดิมกลับไม่ติดต่อได้อีกแล้ว จึงมั่นใจว่าถูกหลอก


          คดีทำนองนี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้วและกระปุกดอทคอมก็เคยนำเสนอข่าวไป กรณีนี้ผู้เสียหายไม่ได้โอนเงินไป แต่วิธีการที่ใช้ของมิจฉาชีพก็ถือว่าเนียนจริง ๆ แต่พลาดไปจุดเดียวทำให้โดนจับได้

          อ่านข่าว : แก๊งคอลเซ็นเตอร์อาละวาด โทร. บอกส่งของผิดกฎหมายไปจีน พลาดจุดเดียว...โป๊ะแตกทันที

เบื้องหลังของมิจฉาชีพ

แก๊งคอลเซนเตอร์
ภาพจาก สำนักข่าว INN

          เจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบทราบถึงกระบวนการที่อยู่เบื้องหลังของมิจฉาชีพว่า แก๊งนี้เป็นเครือข่ายข้ามชาติ หัวหน้าแก๊งเป็นชาวกัมพูชา จะมีการจ้างคนไทยมาเป็นนายหน้าจัดหาบัญชีม้าส่งไปให้แก๊งนี้ใช้ ซึ่งก็คือ บัญชีที่มิจฉาชีพเผลอโอนไปนั่นเอง

          ส่วนในเรื่องความคืบหน้าของคดี ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นคนไทยได้ 4 คน ส่วนอีก 1 คน เป็นชาวกัมพูชาที่ยังไม่สามารถจับกุมได้ มีรายชื่อคนถูกจับดังนี้

          - นางสมศรี บุญเลี้ยง วัย 61 ปี (รับจ้างเปิดบัญชี)

          - นายคงเดช งามขำ วัย 22 ปี (รับจ้างเปิดบัญชี)

          - นางพรพมล สุขสมจิตต์ วัย 41 ปี (นายหน้าจัดหาคนเปิดบัญชี)

          - นางสาวเสาวลักษณ์ หล่อทอง วัย 26 ปี (คนส่งบัญชีไปให้เครือข่ายที่กัมพูชา)


          สำหรับข้อหาที่โดนนั้นคือ ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

ส่องแผนผังขยายผลการจับกุม


แก๊งคอลเซนเตอร์
ภาพจาก ไทยพีบีเอส

          จากการตรวจสอบแผนผังของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ทราบถึงขั้นตอนการหลอกหลวงของมิจฉาชีพ จะมีการรับช่วงโอนเป็นทอด ๆ ดังนี้

          1. เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ จะมีการโอนเงินไปยังบัญชีของนางสมศรี ขั้นตอนนี้นับเป็นบัญชีรับโอนช่วงที่ 1

          2. เมื่อนางสมศรีได้รับเงิน ก็จะมีการโอนเงินไปยังบัญชีของนายคงเดช ขั้นตอนนี้นับเป็นบัญชีรับโอนช่วงที่ 2

          3. เมื่อนายคงเดช ได้รับเงิน รอบนี้จะมีการถ่ายโอนต่อออกไปอีก 3-4 บัญชี ทำให้ยอดเงินที่หลอกเอามาได้ กระจัดกระจายออกไป ซึ่งบัญชีรับโอนช่วงที่ 3 นี้ จะมีชาวกัมพูชาเป็นเจ้าของบัญชีทั้งหมด ยอดเงินบัญชีตรงจุดนี้จะมีการหมุนเวียนสูงมาก


          บทสรุปของคดีนี้คือ คนที่ถูกจับนั้นเป็นเพียงแค่ปลายแถว  รับจ้างเปิดบัญชี ซึ่งพวกนี้ได้โอนเงินต่อไปยังต้นทางแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องขยายผลให้ลึกขึ้นกว่าเดิม ถึงจะเอาเงินคืนมาได้หมด

เพจดังแฉเครือข่ายมิจฉาชีพ ไม่ได้โกงเพียงเรื่องเดียว


          ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก Drama-addict มีการนำรายชื่อของผู้รับจ้างเปิดบัญชี ไปค้นหาในเว็บ blackseller ซึ่งเป็นเว็บที่รวบรวมบัญชีของมิจฉาชีพเอาไว้ พบว่า มีชื่อของเจ้าของบัญชีครบทั้ง 3 คน และมีผู้เสียหายร้องเรียนเพียบ

          นอกจากนี้ ยังพบว่า เครือข่ายดังกล่าวไม่ได้มีเรื่องการหลอกลวงเรื่องส่งของไปประเทศจีนเพียงอย่างเดียว ยังมีชนเล่นพนันและเงินกู้นอกระบบด้วย ทุกอย่างเชื่อมโยงกันหมด

ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยพีบีเอส


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สาวไส้เส้นทางบัญชี แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โอนถ่ายเงินหลายทอดจนจับไม่ได้ เผยใครคือตัวการใหญ่ อัปเดตล่าสุด 27 ตุลาคม 2564 เวลา 10:37:29 12,934 อ่าน
TOP