ไฟไหม้โรงงานกระดาษ อ.บางบ่อ พนักงานหนีตายนับร้อยชีวิต เพลิงโหมหนักทำเหล็กโครงถล่ม กู้ภัยเจ็บ 5 ราย 1 ในนั้นเป็นอาสา อายุแค่ 14 ปี ล่าสุดคุมเพลิงได้แล้ว ยังไม่ทราบสาเหตุไหม้
วันที่ 3 ธันวาคม 2564 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า เมื่อเวลา 17.20 น. วันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้บริษัทชัยสิทธิ์บรรจุภัณฑ์และแกนกระดาษ อยู่ในซอยวัดบางบ่อ ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เป็นโรงงานผลิตกล่องกระดาษลูกฟูก มีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่เศษ
จุดต้นเพลิงอยู่ในโกดังที่ 4 ขณะเกิดเหตุเป็นเวลาเลิกงาน พนักงานส่วนใหญ่กลับบ้าน เหลือเพียงบางส่วนที่ต้องอยู่ทำโอทีประมาณไม่เกิน 100 คน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือติดค้างอยู่ภายในโรงงาน
สอบถามพนักงานหญิงที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ตึก 4 เป็นโรงงานผลิตขนาดใหญ่ เวลานั้น พวกตนกำลังนั่งเขียนใบรายงาน อยู่ระหว่างรอการทำโอทีในเวลา 18.00 น. หลังเกิดเหตุพยายามช่วยกันดับไฟ แต่เอาไม่อยู่ จึงรีบวิ่งหนีตายกันออกมาอยู่ด้านหน้าโรงงาน
![ไฟไหม้โรงงานกระดาษ บางบ่อ ไฟไหม้โรงงานกระดาษ บางบ่อ]()
หลังเกิดเหตุอาสาสมัครเข้าช่วยดับไฟแต่เพลิงยังลุกลามต่อเนื่อง จึงประสานขอรถดับเพลิงของ อบต. และเทศบาลบางบ่อ โดยมีทีมดับเพลิงจากทั้งพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และ กทม. เข้าร่วม อย่างไรก็ดี แม้จะมีรถดับเพลิงนับสิบคัน แต่ไม่สามารถเข้าได้ทั้งหมด เนื่องจากทางเข้าเป็นซอยแคบ ที่เหลือต้องจอดรอให้การสนับสนุนอยู่ด้านนอก ยังโชคดีที่ในโรงงานมีบ่อน้ำ เจ้าหน้าที่จึงดูดน้ำในบ่อใช้ดับเพลิงได้สะดวกขึ้น
จุดต้นเพลิงอยู่ในโกดังที่ 4 ขณะเกิดเหตุเป็นเวลาเลิกงาน พนักงานส่วนใหญ่กลับบ้าน เหลือเพียงบางส่วนที่ต้องอยู่ทำโอทีประมาณไม่เกิน 100 คน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือติดค้างอยู่ภายในโรงงาน
สอบถามพนักงานหญิงที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ตึก 4 เป็นโรงงานผลิตขนาดใหญ่ เวลานั้น พวกตนกำลังนั่งเขียนใบรายงาน อยู่ระหว่างรอการทำโอทีในเวลา 18.00 น. หลังเกิดเหตุพยายามช่วยกันดับไฟ แต่เอาไม่อยู่ จึงรีบวิ่งหนีตายกันออกมาอยู่ด้านหน้าโรงงาน

ภาพจาก ข่าวช่อง 3
หลังเกิดเหตุอาสาสมัครเข้าช่วยดับไฟแต่เพลิงยังลุกลามต่อเนื่อง จึงประสานขอรถดับเพลิงของ อบต. และเทศบาลบางบ่อ โดยมีทีมดับเพลิงจากทั้งพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และ กทม. เข้าร่วม อย่างไรก็ดี แม้จะมีรถดับเพลิงนับสิบคัน แต่ไม่สามารถเข้าได้ทั้งหมด เนื่องจากทางเข้าเป็นซอยแคบ ที่เหลือต้องจอดรอให้การสนับสนุนอยู่ด้านนอก ยังโชคดีที่ในโรงงานมีบ่อน้ำ เจ้าหน้าที่จึงดูดน้ำในบ่อใช้ดับเพลิงได้สะดวกขึ้น

ภาพจาก ข่าวช่อง 3
เวลา 20.30 น. ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันดับเพลิง ปรากฏว่าโครงหลังคาโรงงานทรุดตัว ส่งผลให้ประตูเหล็กหลุดร่วงลงมา และมีกำแพงโรงงานบางส่วนล้มทับโดนเจ้าหน้าที่อาสาสมัครบาดเจ็บ จำนวน 5 คน และ 1 ในนั้นเป็นอาสาสมัครอายุ 14 ปี รวมอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำส่งผู้บาดเจ็บส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลรวมชัยประชารักษ์ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร
เวลา 21.30 น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ได้ประมาณ 70% แต่ยังคงมีกองเปลวเพลิงที่ทับถม คุกรุ่น เจ้าหน้าที่จึงนำรถแบคโฮเข้ามาในโรงงาน เพื่อทำการขุดขยายกองเพลิง พร้อมทั้งใช้น้ำฉีดดับไฟ เพื่อลดการประทุของกองไฟ และช่วยให้ไฟมอดดับลงเร็วขึ้น
เวลา 24.00 น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมกองเพลิงให้สงบได้ คงเหลือแต่เฝ้าระวังไม่ให้เกิดการประทุขึ้นใหม่ ยังต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่ให้ทำงานอยู่ คาดว่าคงต้องใช้เวลาอีกหลายชั่วโมงถึงจะสงบ 100 %
นายพชร ศศิชาชยามร หัวหน้า ปภ.จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้สั่งให้เข้ามาดู เนื่องจากกลัวว่าจะมีผลกระทบกับประชาชนเหมือนเหตุเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้ อ.บางพลี แต่จากการสำรวจเบื้องต้น มีเพียงกองกระดาษและอาคารของโรงงานที่ได้รับความเสียหาย ไม่มีสารเคมี หรือวัตถุอันตรายใด ๆ
รวมทั้งควันไฟก็ไม่ได้ลอยไปถึงโรงพยาบาลใกล้เคียง หลังจากนี้ต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบแล้วสรุปผลสาเหตุเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป

ภาพจาก ข่าวช่อง 3
ประชาชนละแวกใกล้เคียง เผยว่า ก่อนหน้านี้โรงงานดังกล่าวเคยไฟไหม้มาแล้ว แต่ครั้งนั้นไฟไม่ได้ลุกลามมากจึงดับไฟได้ทัน และไม่ได้เป็นข่าวออกไปในวงกว้างเหมือนครั้งนี้ แต่ก็ไม่ได้ตกใจอะไร เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังโรงงาน จึงยังไม่ได้รับผลกระทบอะไรมาก
ส่วนความคืบหน้าเรื่องอาการบาดเจ็บของอาสาสมัคร เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานเพิ่มเติมดังนี้
รายชื่อนักดับเพลิงที่ได้รับบาดเจ็บ
1. ด.ช.ณัฐสิทธิ์ อิ๋งสวัสดิ์ อายุ 14 ปี อาการสำลักควัน
2. รายรังสิมันต์ เลี่ยมวงษา อายุ 17 ปี อาการเจ็บขาทั้ง 2 ข้าง
3. นายณัฐภัทร ฉิมสุวรรณ อายุ 16 ปี อาการเจ็บขา
4. นายวีระ โพธิ์จินดา อายุ 20 ปี อาการเจ็บขา
5. รายชัยดิษฐ ไทยภักดี อายุ 25 ปี อาการเจ็บและชาขาขวา (อาการสาหัส)
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3, เรื่องเล่าเช้านี้

















