สรุปดราม่า #ตายทิพย์ เมื่อมีข่าวแม่น้องเปา หญิงสาวชีวิตรันทดเสียชีวิต จนมีคนบริจาคไปหลักแสน แต่ที่ไหนได้ เป็นเรื่องโอละพ่อ แถมช่วยให้มีเงินซื้อรถ ซื้อทองสบาย ๆ ด้านเพื่อนบ้านแฉ ทุกอย่างเป็นเรื่องโกหก มีเรื่องเดียวที่เป็นความจริง
วันที่ 21 เมษายน 2565 กำลังมีดราม่าผ่านแฮชแท็ก #ตายทิพย์ โดยเป็นเหตุการณ์ที่มีบุคคลหนึ่งได้ประกาศว่าตัวเองเสียชีวิตแล้ว ทำให้มีคนสงสารต่างโอนเงินเข้ามาบริจาคจำนวนมาก แต่สุดท้ายเรื่องดังกล่าวกลับเป็นเรื่องโอละพ่อ กลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตจนถึงขั้นแจ้งความกันแล้ว ซึ่งกระปุกดอทคอมจะมาสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกัน
ทวิตเตอร์ @Cake_JKN18 เล่าว่า เริ่มต้นเรื่องนั้น นางโสภา หงส์ทอง หรือเธอมักเรียกตัวเองว่า แม่น้องเปา ผู้ก่อเหตุ มีการโพสต์ในกลุ่มไลน์กลุ่มหนึ่งว่า ตัวเองนั้นป่วยเป็นโรคไต ลูกเป็นดาวน์ซินโดรม สามีทิ้ง มีชีวิตที่ค่อนข้างลำบาก เมื่อมีคนเห็นโพสต์ดังกล่าว ก็เกิดความสงสาร มีการโอนเงินช่วยเหลือ ซื้อของให้ด้วยความสงสาร
จากนั้น เบล หนึ่งในผู้เสียหายที่โอนเงินช่วยเหลือ ตั้งแต่ปี 2563 ก็ถูกแม่น้องเปาทักมาขอยืมเงิน ด้วยความสงสารก็โอนเงินไปช่วยหลายพันบาท ยิ่งนานวันยิ่งขอเงินถี่ขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งมาเริ่มสงสัยตอนเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่แม่น้องเปาทักมาขอยืมเงินไปจ่ายค่ารักษาโรคไต แต่เบลกลับสงสัยว่า ในเมื่อมีบัตรทองอยู่แล้ว ทำไมยังต้องใช้เงินในการรักษาอีก จึงถามเรื่องเอกสาร แต่แม่น้องเปาก็ไม่ให้ และเงียบหายไปเลย
กระทั่งวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา เบลไปเห็นโพสต์ของแม่น้องเปาในเฟซบุ๊ก แต่คิดว่านั่นไม่ใช่โพสต์ที่แม่น้องเปาโพสต์เอง น่าจะเป็นคนอื่นโพสต์ จึงเริ่มออกหาตัวแม่น้องเปา จนได้ข่าวจากเฟซบุ๊ก อังเปา XXX ว่า เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อน้องเขื่อน เป็นลูกแม่น้องเปา คุณแม่กินยาฆ่าตัวตายอยู่ในป่ายูคาลิปตัส ขอให้ทุกคนอโหสิกรรมให้แม่ด้วย ต่อจากนี้ผมจะทำยังไงต่อไม่รู้เลย ฝากอโหสิกรรมให้แม่ผมด้วย
ด้วยเหตุนี้ ทำให้เบลตกใจมาก เอาเรื่องนี้ไปโพสต์ลงเพจ เพราะแม่น้องเปายังมีลูกที่เป็นดาวน์ซินโดรมอยู่อีกคน ชีวิตอาจจะลำบาก เผื่อจะช่วยเหลือเรื่องเงินได้ ก็ทำให้มีคนโอนเงินมาให้เพียบ บางคนก็โอนถึง 5 แสนบาท แล้วเงินก็ถูกถอนออกจากบัญชีทันที ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าใครถอนเงินนี้
พร้อมกันนั้น เบล ยังคอยประสานตำรวจให้เข้าไปดูแลเด็กดาวน์ซินโดรม ทำให้ความจริงทุกอย่างถูกเปิดเผย เรื่องที่แม่น้องเปากินยาฆ่าตัวตายไม่เป็นความจริง และคุณแม่ยังไม่เสียชีวิต ซ้ำยังเป็นคุณแม่เองที่เป็นคนถอนเงินออกจากบัญชีด้วยตัวเองด้วย ตอนนี้อยู่สุขสบายดี มีทอง มีเงินสดซื้อรถ
จุดเริ่มต้นที่ทำให้คนโอนเงินให้แม่น้องเปา
ทวิตเตอร์ @Cake_JKN18 เล่าว่า เริ่มต้นเรื่องนั้น นางโสภา หงส์ทอง หรือเธอมักเรียกตัวเองว่า แม่น้องเปา ผู้ก่อเหตุ มีการโพสต์ในกลุ่มไลน์กลุ่มหนึ่งว่า ตัวเองนั้นป่วยเป็นโรคไต ลูกเป็นดาวน์ซินโดรม สามีทิ้ง มีชีวิตที่ค่อนข้างลำบาก เมื่อมีคนเห็นโพสต์ดังกล่าว ก็เกิดความสงสาร มีการโอนเงินช่วยเหลือ ซื้อของให้ด้วยความสงสาร
จากนั้น เบล หนึ่งในผู้เสียหายที่โอนเงินช่วยเหลือ ตั้งแต่ปี 2563 ก็ถูกแม่น้องเปาทักมาขอยืมเงิน ด้วยความสงสารก็โอนเงินไปช่วยหลายพันบาท ยิ่งนานวันยิ่งขอเงินถี่ขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งมาเริ่มสงสัยตอนเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่แม่น้องเปาทักมาขอยืมเงินไปจ่ายค่ารักษาโรคไต แต่เบลกลับสงสัยว่า ในเมื่อมีบัตรทองอยู่แล้ว ทำไมยังต้องใช้เงินในการรักษาอีก จึงถามเรื่องเอกสาร แต่แม่น้องเปาก็ไม่ให้ และเงียบหายไปเลย
กระทั่งวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา เบลไปเห็นโพสต์ของแม่น้องเปาในเฟซบุ๊ก แต่คิดว่านั่นไม่ใช่โพสต์ที่แม่น้องเปาโพสต์เอง น่าจะเป็นคนอื่นโพสต์ จึงเริ่มออกหาตัวแม่น้องเปา จนได้ข่าวจากเฟซบุ๊ก อังเปา XXX ว่า เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อน้องเขื่อน เป็นลูกแม่น้องเปา คุณแม่กินยาฆ่าตัวตายอยู่ในป่ายูคาลิปตัส ขอให้ทุกคนอโหสิกรรมให้แม่ด้วย ต่อจากนี้ผมจะทำยังไงต่อไม่รู้เลย ฝากอโหสิกรรมให้แม่ผมด้วย
ด้วยเหตุนี้ ทำให้เบลตกใจมาก เอาเรื่องนี้ไปโพสต์ลงเพจ เพราะแม่น้องเปายังมีลูกที่เป็นดาวน์ซินโดรมอยู่อีกคน ชีวิตอาจจะลำบาก เผื่อจะช่วยเหลือเรื่องเงินได้ ก็ทำให้มีคนโอนเงินมาให้เพียบ บางคนก็โอนถึง 5 แสนบาท แล้วเงินก็ถูกถอนออกจากบัญชีทันที ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าใครถอนเงินนี้
พร้อมกันนั้น เบล ยังคอยประสานตำรวจให้เข้าไปดูแลเด็กดาวน์ซินโดรม ทำให้ความจริงทุกอย่างถูกเปิดเผย เรื่องที่แม่น้องเปากินยาฆ่าตัวตายไม่เป็นความจริง และคุณแม่ยังไม่เสียชีวิต ซ้ำยังเป็นคุณแม่เองที่เป็นคนถอนเงินออกจากบัญชีด้วยตัวเองด้วย ตอนนี้อยู่สุขสบายดี มีทอง มีเงินสดซื้อรถ
เมื่อวันหนึ่งโป๊ะแตก คนเดือดเพียบ ลุยแจ้งความเอาผิด
เมื่อเรื่องโป๊ะแตก เฟซบุ๊ก Red Skull Beauty Clinic. ก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหาย ออกมาโพสต์ระบายว่า เสียแรงที่ช่วยเหลือไปไม่น้อย แต่สุดท้ายกลายเป็นเรื่องแกล้งตายเพื่อจะเอาเงินบริจาค พอเรื่องโป๊ะแบบนี้ จากนี้ชีวิตที่เหลือของคุณจะทำยังไงต่อไป เพราะทุกคนรู้ความจริงหมดแล้ว ถ้าหากพูดเองบาปบุญตามศาสนาพุทธก็คือ ชีวิตคุณที่ลำบากเพราะชาติก่อนทำกรรมไว้ ชาตินี้ยังจะสร้างเพิ่มไม่เข็ดอีกเหรอ ยิ่งทำแบบนี้ยิ่งหาทางออกไม่ได้
ขณะที่ผู้เสียหายรายอื่น ๆ ที่เคยโอนเงินไป เตรียมเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับแม่น้องเปาฐานหลอกลวงแล้ว
เพื่อนบ้าน แฉ ทุกอย่างเป็นเรื่องโกหก มีเพียงเรื่องเดียวที่เป็นความจริง
ข่าวช่อง 3 รายงานว่า นางสาวดาบส กูดกิ่ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 เป็นคนบ้านเดียวกับแม่น้องเปา เล่าถึงวีรกรรมผู้ก่อเหตุให้ฟังว่า รู้จักกับอีกฝ่ายจริง แต่ไม่ได้สนิทมาก เรื่องที่บอกว่าเป็นโรคไต ลูกเป็นดาวน์ซินโดรม สามีทิ้ง ชีวิตลำบาก เป็นจริงแค่เรื่องเดียวคือ มีลูกเป็นดาวน์ซินโดรมเท่านั้น
ทั้งนี้ แม่น้องเปามีลูก 2 คน คนหนึ่งชื่อ เขื่อน คนหนึ่งชื่ออังเปา ชีวิตความเป็นอยู่ไม่ได้ลำบากขนาดนั้น สามีก็ออกไปทำงานที่บริษัทแป้งมันแห่งหนึ่ง ส่วนแม่น้องเปาก็ขายของออนไลน์ ก่อนที่จะไปพักกับสามีที่โรงงาน และไม่เคยเห็นกลับมาที่บ้านเก่าอีกเลย เท่าที่สืบ ๆ มาล่าสุดกับทางโรงงาน ก็พอรู้ว่า แม่น้องเปาไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว
นอกจากนี้ แม่น้องเปายังมีวีรกรรมอื่น ๆ อีก เช่น หลอกคนคนหนึ่งมานาน 5 ปี ให้เสียค่าเลี้ยงดูเดือนละ 2,000 บาท คาดว่าได้ใช้ความพิการของลูกตัวเองเป็นตัวหลอกให้คนสงสารและโอนเงินให้
ขณะที่เจ้าของโรงงานแป้งมัน ยังไม่สะดวกในการให้สัมภาษณ์ เพราะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ แต่โดยส่วนตัวเพิ่งทราบข่าวไม่นานนัก
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3







