กู้ภัยทางหลวง ทิ้งศพไว้ในรถเก๋งนาน 12 ชั่วโมง หลังเกิดอุบัติเหตุบนทางด่วน แต่กลับหาคนไม่เจอ สุดท้ายตำรวจเจอที่โรงพัก คนมองแบบนี้เรื่องใหญ่ ถ้าหากตอนเกิดเหตุเขามีชีวิตอยู่ จะเป็นยังไง
วันที่ 10 สิงหาคม 2565 ช่อง 3 รายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีป ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาเก็บศพผู้เสียชีวิต จากรถยนต์พลิกคว่ำกลางถนนมอเตอร์สาย 7 ที่สถานีย่อยเขาเขียว ท่ามกลางความมึนงงของเจ้าหน้าที่ว่า เหตุใดตำรวจต้องเรียกไปเก็บศพที่โรงพักด้วย
เมื่อไปถึง พบซากรถยนต์นิสสัน สีขาว สภาพหน้ารถและท้ายรถพังเสียหาย ในรถพบผู้เสียชีวิตคือ นายภัทรชัย วัย 68 ปี ขดตัวใต้พวงมาลัยรถ แขนซ้ายขวาหัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบนำร่างออกมาตรวจสอบ แล้วนำไปเก็บรักษาที่ รพ.แหลมฉบัง รอการติดต่อจากญาติของผู้ตาย
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงซึ่งเป็นคนที่เรียกกู้ภัยมา เปิดเผยว่า ระหว่างเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมอเตอร์เวย์สาย 7 ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ กลับไม่พบคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ได้แต่รอญาติมาติดต่อรับรถ แต่ก็ไม่มีใครมารับ กระทั่งตำรวจมาตรวจสภาพรถ พบว่ามีศพอยู่ข้างใน จึงโทรศัพท์แจ้งกู้ภัยเอกชนให้มาช่วยนำศพไปส่งโรงพยาบาล
เล่านาทีเกิดเหตุ ทำไมกู้ภัยไม่เห็นคนเจ็บ ถ้าตอนนั้นยังแค่บาดเจ็บ นี่คือเรื่องใหญ่
เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายธีระพงษ์ ทรัพยา วัย 34 ปี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเพียวเยี่ยงไท้ ศรีราชา เปิดเผยถึงอุบัติเหตุดังกล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเวลา 07.45 น. ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ในเขตรับผิดชอบหน่วยงานตน แต่ว่าหน่วยกู้ภัยทางหลวงที่ได้รับแจ้งเหมือนกันกลับถึงก่อน แล้วบอกกับพวกตนว่าไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต พวกตนจึงยกเลิกนำกำลังพลไปตรวจสอบ
ต่อมาตำรวจที่รับดูแลรถของกลางมาเจอผู้เสียชีวิตอยู่ในรถตอนมืด ห่างประมาณ 12 ชั่วโมง ทำให้ฉุกคิดได้ว่า หากตอนนั้นผู้บาดเจ็บยังมีชีวิตอยู่ ถ้าเป็นญาติเราจะคิดยังไง และใครเป็นคนรับผิดชอบ ถ้าเป็นเราเราคงไม่ยอม ถ้าตอนนั้นอย่างน้อยรู้ว่าเจ็บ จะมีการประสานกู้ภัยในท้องที่ให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล












