นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า MEA ได้มีมาตรการเร่งรัดตรวจสอบหม้อแปลงไฟฟ้าวงจรตาข่าย (Network Transformer) จำนวนทั้งสิ้น 454 ลูก ในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ เขตพระนคร ซึ่งเป็นการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับประชาชน พร้อมตอบสนองนโยบายการดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิดของกระทรวงมหาดไทย
โดยล่าสุด MEA ได้ตรวจสอบด้วยวิธี Dissolved Gas Analysis (DGA) หรือ การวิเคราะห์ก๊าซที่ละลายในน้ำมัน ได้เสร็จสิ้นแล้วทั้งหมด 454 ลูก ซึ่งเป็นไปตามแผนงานที่ได้วางไว้ โดยผลทดสอบหม้อแปลงที่พบ ยังอยู่ในระดับปกติ มีความปลอดภัย และเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานทางวิศวกรรมที่ MEA กำหนด
ผู้ว่าการ MEA กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน MEA ได้ติดตั้งระบบควบคุมและติดตามการทำงานของหม้อแปลงไฟฟ้า (Online Transformer Control & Monitoring System) เพื่อตรวจสอบสถานะการทำงาน ไปจนถึงอุณหภูมิที่ผิดปกติในหม้อแปลงไฟฟ้าได้ในรูปแบบ Real Time สามารถควบคุมการทำงานของหม้อแปลงได้จากศูนย์สั่งการ รวมถึงการลงพื้นที่แก้ไขได้อย่างรวดเร็ว เสริมความปลอดภัยจากการทำงานของหม้อแปลงไฟฟ้าได้มากยิ่งขึ้น โดยมีแผนดำเนินการติดตั้งกับหม้อแปลงไฟฟ้าในพื้นที่หม้อแปลงวงจรตาข่ายทั้งหมด 454 ลูก ปัจจุบันสามารถติดตั้งและใช้งานแล้วจำนวนทั้งสิ้น 270 ลูก
ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นระบบไฟฟ้าของ MEA มีความมั่นคง เสถียรภาพ และมีความปลอดภัย มีการดูแลให้สามารถรองรับความต้องการใช้งานของคนเมืองหลวงได้อย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง
หากประชาชนพบเห็นสายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าของ MEA ชำรุดอยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย หรือต้องการความช่วยเหลือด้านระบบไฟฟ้ารวมถึงขอเลื่อนเครื่องวัด ฯ สามารถแจ้งการไฟฟ้านครหลวงเขตใกล้บ้าน ทุกเขต หรือแจ้งเหตุผ่านช่องทางออนไลน์ สะดวก รวดเร็ว ได้ที่ MEA Smart Life Application ดาวน์โหลดฟรี คลิก หรือช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้แก่
Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA
Line : MEA Connect
Twitter : @mea_news
MEA Call Center โทร. 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
#หม้อแปลงไฟฟ้า #454ลูก
#DGA #NetworkTransformer
#วงจรตาข่าย
#MEASmartEnergy
#MEA #การไฟฟ้านครหลวง
#พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร






