อาจารย์ มธ. เผยบทเรียนหลังเคยโดนศรีสุวรรณไล่ฟ้องไปเรื่อย ชีวิตแทบพังพินาศ รับทั้งโกรธและเกลียดอีกฝ่าย ทั้งที่ไม่รู้จักกัน เป็นความรุนแรงที่มองไม่เห็น เจ็บยิ่งกว่าโดนต่อยหน้ามาก
หลังจากเป็นข่าวโด่งดังขึ้นมา กรณีมีชายคนหนึ่งบุกต่อย นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ขณะเดินทางเข้าร้องเรียนต่อ บก.ปอท. ให้ตรวจสอบกรณี โน้ส อุดม แต้พานิช กล่าวพาดพิงเรื่องการทำงานของรัฐบาลและเรื่องม็อบ ขณะโชว์เดี่ยว 13
โดยพบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายวีรวิทย์ รุ่งเรืองศิริผล เจ้าของช่องยูทูบ ศักดินาเสื้อแดง ที่เคยก่อเหตุตบ แรมโบ้อีสาน มาแล้ว ทำให้โซเชียลเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง ซึ่งก็มีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่หลายฝ่ายมองว่าไม่ควรใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหา
อ่านข่าว : เดือด ! ศรีสุวรรณ โดยต่อยกลางวงสื่อ ขณะกล่าวโทษ โน้ส อุดม เจอหนักทั้งหมัด-เท้า
อ่านข่าว : เฉลยแล้ว มือต่อย ศรีสุวรรณ คือใคร - พบเป็นตัวตึงย่านลาดพร้าว ประวัติไม่ธรรมดา
ล่าสุด (19 ตุลาคม 2565) ที่เฟซบุ๊ก Sustarum Thammaboosadee ของ รศ. ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี อาจารย์วิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์เล่าถึงบทเรียนชีวิตที่ครั้งหนึ่งในอดีตเคยโดนศรีสุวรรณไล่ฟ้องเรื่อยเปื่อย จนส่งผลกระทบต่อชีวิตและอาชีพ พร้อมยกให้บทเรียนนี้ ส่งผลรุนแรงกว่าการต่อยหน้ามาก เพราะเป็นความรุนแรงที่มองไม่เห็น แต่มันคือการฆ่าคนทั้งเป็น !
โดย รศ. ดร.ษัษฐรัมย์ เล่าว่า ไม่มีใครติดตามว่าหลังจากศรีสุวรรณยื่นฟ้อง เรื่องนี้เป็นเท็จจริงอย่างไร คนที่ไม่ได้ติดตามหลายคนก็ไม่รู้ เพราะมีแต่ข่าวนี้ลง ตนถูกแหล่งทุนปฏิเสธ มีการยกเลิกการบรรยายพิเศษ ฯลฯ คนในครอบครัวเกิดความกังวลต้องคอยรับสายโทรศัพท์ จากการฟ้องเรื่อยเปื่อยที่เลือกคดีโทษสูงแบบไร้มูลเพื่อให้เป็นข่าว ฟ้องคนไปทั่ว
สิ่งที่ศรีสุวรรณทำกับตนและหลายคน รุนแรงกว่าการต่อยหน้ามาก เป็นความรุนแรงที่มองไม่เห็น แต่บ่อยครั้งมันฆ่าคนทั้งเป็น เหมือนวิทยุยานเกราะช่วง 6 ตุลา เหมือนความเห็นทางการเมืองของทมยันตี และฝ่ายขวาอีกหลายคน พวกนี้ก็อาจไม่เคยฆ่ามดสักตัว แต่ความเห็นของพวกเขาก็นำสู่ความเกลียดชังมากมาย
"ผมโกรธและเกลียดเขามาก ทั้งที่เราไม่เคยรู้จักอะไรกัน หน้าที่การงานไม่เกี่ยวกัน และผมก็ไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจทางการเมืองอะไร แต่ก็ยังอุตส่าห์ผูกกรรมต่อกัน"
ทว่า ช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้ยินข่าวศรีสุวรรณมีลูก จึงตัดสินใจให้อภัยเขา เห็นแก่ลูกของเขาที่เพิ่งเกิดมา และวันหนึ่งเขาก็จะเข้าใจว่าเรื่องสังคมที่เท่าเทียมและรัฐสวัสดิการที่ตนเรียกร้องสำคัญอย่างไร
ทั้งนี้ ตนตระหนักดีว่าการกล่าวว่าให้อภัยเขา ตนพูดด้วยอภิสิทธิ์บางอย่าง เพราะตนมีปากกา มีไมค์ มีพื้นที่ที่สามารถขยายความเห็นของตนเองเพื่อโต้แย้ง และทำให้เขาเป็นตัวตลกต่อไปได้ เครื่องมือแต่ละคนไม่เท่ากัน ภาวะการถูกกดขี่ของคนไม่เท่ากัน ผมเอาศีลธรรมที่ตัวเองยึดถือไปบอกให้แต่ละคนยักไหล่กับศรีสุวรรณก็ไม่ได้เช่นกัน
เรื่องนี้จึงตามแต่ละคนจะสะดวก จะถอดบทเรียนหรือปฏิรูปนิยามของคำว่าสันติวิธีก็ทำไป จะเน้นความถูกต้องทางการเมือง ก็ให้พูดถึงความรุนแรงประเภทที่เรามองไม่เห็นด้วย
![โพสต์]( "โพสต์")
หลังจากเป็นข่าวโด่งดังขึ้นมา กรณีมีชายคนหนึ่งบุกต่อย นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ขณะเดินทางเข้าร้องเรียนต่อ บก.ปอท. ให้ตรวจสอบกรณี โน้ส อุดม แต้พานิช กล่าวพาดพิงเรื่องการทำงานของรัฐบาลและเรื่องม็อบ ขณะโชว์เดี่ยว 13
โดยพบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายวีรวิทย์ รุ่งเรืองศิริผล เจ้าของช่องยูทูบ ศักดินาเสื้อแดง ที่เคยก่อเหตุตบ แรมโบ้อีสาน มาแล้ว ทำให้โซเชียลเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง ซึ่งก็มีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่หลายฝ่ายมองว่าไม่ควรใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหา
อ่านข่าว : เดือด ! ศรีสุวรรณ โดยต่อยกลางวงสื่อ ขณะกล่าวโทษ โน้ส อุดม เจอหนักทั้งหมัด-เท้า
อ่านข่าว : เฉลยแล้ว มือต่อย ศรีสุวรรณ คือใคร - พบเป็นตัวตึงย่านลาดพร้าว ประวัติไม่ธรรมดา
ล่าสุด (19 ตุลาคม 2565) ที่เฟซบุ๊ก Sustarum Thammaboosadee ของ รศ. ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี อาจารย์วิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์เล่าถึงบทเรียนชีวิตที่ครั้งหนึ่งในอดีตเคยโดนศรีสุวรรณไล่ฟ้องเรื่อยเปื่อย จนส่งผลกระทบต่อชีวิตและอาชีพ พร้อมยกให้บทเรียนนี้ ส่งผลรุนแรงกว่าการต่อยหน้ามาก เพราะเป็นความรุนแรงที่มองไม่เห็น แต่มันคือการฆ่าคนทั้งเป็น !
โดย รศ. ดร.ษัษฐรัมย์ เล่าว่า ไม่มีใครติดตามว่าหลังจากศรีสุวรรณยื่นฟ้อง เรื่องนี้เป็นเท็จจริงอย่างไร คนที่ไม่ได้ติดตามหลายคนก็ไม่รู้ เพราะมีแต่ข่าวนี้ลง ตนถูกแหล่งทุนปฏิเสธ มีการยกเลิกการบรรยายพิเศษ ฯลฯ คนในครอบครัวเกิดความกังวลต้องคอยรับสายโทรศัพท์ จากการฟ้องเรื่อยเปื่อยที่เลือกคดีโทษสูงแบบไร้มูลเพื่อให้เป็นข่าว ฟ้องคนไปทั่ว
สิ่งที่ศรีสุวรรณทำกับตนและหลายคน รุนแรงกว่าการต่อยหน้ามาก เป็นความรุนแรงที่มองไม่เห็น แต่บ่อยครั้งมันฆ่าคนทั้งเป็น เหมือนวิทยุยานเกราะช่วง 6 ตุลา เหมือนความเห็นทางการเมืองของทมยันตี และฝ่ายขวาอีกหลายคน พวกนี้ก็อาจไม่เคยฆ่ามดสักตัว แต่ความเห็นของพวกเขาก็นำสู่ความเกลียดชังมากมาย
"ผมโกรธและเกลียดเขามาก ทั้งที่เราไม่เคยรู้จักอะไรกัน หน้าที่การงานไม่เกี่ยวกัน และผมก็ไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจทางการเมืองอะไร แต่ก็ยังอุตส่าห์ผูกกรรมต่อกัน"
ทว่า ช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้ยินข่าวศรีสุวรรณมีลูก จึงตัดสินใจให้อภัยเขา เห็นแก่ลูกของเขาที่เพิ่งเกิดมา และวันหนึ่งเขาก็จะเข้าใจว่าเรื่องสังคมที่เท่าเทียมและรัฐสวัสดิการที่ตนเรียกร้องสำคัญอย่างไร
ทั้งนี้ ตนตระหนักดีว่าการกล่าวว่าให้อภัยเขา ตนพูดด้วยอภิสิทธิ์บางอย่าง เพราะตนมีปากกา มีไมค์ มีพื้นที่ที่สามารถขยายความเห็นของตนเองเพื่อโต้แย้ง และทำให้เขาเป็นตัวตลกต่อไปได้ เครื่องมือแต่ละคนไม่เท่ากัน ภาวะการถูกกดขี่ของคนไม่เท่ากัน ผมเอาศีลธรรมที่ตัวเองยึดถือไปบอกให้แต่ละคนยักไหล่กับศรีสุวรรณก็ไม่ได้เช่นกัน
เรื่องนี้จึงตามแต่ละคนจะสะดวก จะถอดบทเรียนหรือปฏิรูปนิยามของคำว่าสันติวิธีก็ทำไป จะเน้นความถูกต้องทางการเมือง ก็ให้พูดถึงความรุนแรงประเภทที่เรามองไม่เห็นด้วย
