คืบหน้า เรือหลวงสุโขทัย ถูกคลื่นซัดจมกลางทะเลก่อนอับปาง ช่วยกำลังพลได้แล้ว 78 นายจาก 106 นาย เปิดประวัติหลังประจำการมา 35 ปี
จากกรณี เรือหลวงสุโขทัย ประสบปัญหาหลังเผชิญกับสภาพคลื่นลมแรง ทำให้น้ำย้อนไหลกลับเข้าไปในตัวเรือ ส่งผลให้เรือหลวงเอียง โดยทหารเรือทั้ง 110 นายได้สละเรือแล้วนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 18 ธันวาคม 2565 เพจเฟซบุ๊ก Army times Thailand โพสต์ข้อความระบุว่า เรือหลวงสุโขทัยอับปางจมสู่ใต้ทะเลอ่าวไทยแล้ว พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ยืนยันว่า เมื่อเวลา 23.30 น. เรือรบหลวงสุโขทัยได้จมลงแล้ว หลังพยายามที่จะเข้ากอบกู้สถานการณ์แต่ไม่สำเร็จจากคลื่นลมที่ยังคงแรงมาก ส่วนกำลังพลทั้งหมดปลอดภัย อยู่ระหว่างลำเลียงขึ้นบนเรือหลวงกระบุรี
ทั้งนี้ในการช่วยเหลือ กองทัพเรือ สั่งการให้เรือรบและอากาศยานของกองทัพเรือ ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงกระบุรี และเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2 ลำ พร้อมชุดป้องกันความเสียหายและกู้ภัยเรือ เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน นอกจากนี้ได้ประสานหน่วยภายนอกเข้าร่วมให้การช่วยเหลือ เรือหลวงกระบุรีเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุแล้ว อยู่ระหว่างเร่งให้ช่วยเหลือกำลังพลของเรือหลวงสุโขทัยเป็นอันดับแรก
ล่าสุด (19 ธันวาคม) เวลา 07.00 น. กองทัพเรือ ROYAL THAI NAVY รายงานความคืบหน้ากรณีเรือหลวงสุโขทัย ว่า กองทัพเรือร่วมกับเรือบริเวณใกล้เคียง ทำการค้นหากำลังพลของเรือหลวงสุโขทัยตลอดคืน ปัจจุบันสามารถช่วยเหลือกำลังพลได้ 78 นาย จาก 106 นาย เหลืออยู่ในน้ำ 28 นาย ในจำนวนนี้สาหัส 3 นาย
ระบบตรวจการณ์
- เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ Decca 1226
- เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ/อากาศ ZW-06
- เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ/อากาศ DA-05
- โซนาร์ติดใต้ตัวเรือ STN Atlas DSQS-21C
- เรดาร์ควบคุมการยิง WM-25
- LIROD-8 optical
ระบบอาวุธ
- ปืน 76/62 มม. จำนวน 1 กระบอก
- ปืน 40L70 มม. แท่นคู่ 1 กระบอก
- ปืน 20 มม. 2 กระบอก
- ระบบอาวุธปล่อยนำวิถี พื้น-สู่-พื้น แบบ ฮาร์พูน 2 แท่น (8 ท่อยิง)
- ระบบอาวุธปล่อยนำวิถี พื้น-สู่-อากาศ แบบ อัลบราทรอส 1 แท่น (8 ท่อยิง)
- ท่อตอร์ปิโด 2 แท่น (6 ท่อยิง)
ระบบขับเคลื่อนและเครื่องจักรช่วย
- เครื่องจักรใหญ่ดีเซล MTU 20V1163 TB83 2 เครื่อง
- เพลาใบจักร 2 เพลา
ทั้งนี้เรือในชุดเดียวกัน เรือหลวงรัตนโกสินทร์ (ลำที่ 2) เรือหลวงสุโขทัย (ลำที่ 2)

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Army times Thailand

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Army times Thailand

ภาพจาก ข่าวช่อง 3

ภาพจาก ข่าวช่อง 3
ขอบคุณข้อมูลจาก กองทัพเรือ, เดลินิวส์, เฟซบุ๊ก Army times Thailand