แม่โวย รพ. จ่ายยาลูก 2 เดือน ติดฉลากเป็นแคลเซียม
แต่แท้จริงเป็นคาลาไมน์ ลูกกินเข้าไปก่อนอาการไม่ดี ตอนนี้อยู่ไอซียู แม้
รพ. ปฏิเสธไม่เกี่ยวกับกินยาผิด คาใจถ้าไม่ผิดจริง
ทำไมโอนเงินมาให้เกือบแสน
จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์เล่าเรื่องอุทาหรณ์จากแม่
ที่พาลูกน้อยไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพราะไม่สบาย
ซึ่งหลังออกจากโรงพยาบาลหมอก็ให้กลับบ้านได้ โดยมีการให้ยากลับมาด้วย
ซึ่งตนอ่านสลากยาที่เป็นภาษาไทย เขียนว่าเป็นแคลเซียม รับประทานครั้งละ 1
เม็ด ซึ่ง 1 เม็ดก็คือ 1 ซีซีของยาน้ำ ตนจึงนำยาป้อนให้ลูก
โดยครั้งแรกลูกกิน แต่ครั้งที่ 2 ลูกไม่กิน คายออกและร้องไห้หนักมาก
แม่ตกใจจึงให้พ่อมาดู
แต่เมื่อพ่อชิมยาและนำไปสอบถามคนอื่น ๆ ก็พบว่าเป็นคาลาไมน์ ซึ่งเป็นยาใช้ภายนอกห้ามรับประทาน หลังจากนั้นลูกก็มีอาการอาเจียน อุจจาระเป็นน้ำ จึงพากลับมาที่โรงพยาบาล หมอให้แอดมิตดูอาการจนตอนนี้ก็ยังออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ น้องยังมีไข้ ถ่ายตลอดเวลา จนโรงพยาบาลเดิมต้องส่งตัวน้องมายังโรงพยาบาลใน จ.กระบี่ โดยยังอยู่ในห้องไอซียู อยู่โรงพยาบาลมา 20 กว่าวันแล้ว แต่กลับมีการบอกว่าการที่เด็กกินคาลาไมน์เข้าไป ไม่เกี่ยวข้อง
แต่เมื่อพ่อชิมยาและนำไปสอบถามคนอื่น ๆ ก็พบว่าเป็นคาลาไมน์ ซึ่งเป็นยาใช้ภายนอกห้ามรับประทาน หลังจากนั้นลูกก็มีอาการอาเจียน อุจจาระเป็นน้ำ จึงพากลับมาที่โรงพยาบาล หมอให้แอดมิตดูอาการจนตอนนี้ก็ยังออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ น้องยังมีไข้ ถ่ายตลอดเวลา จนโรงพยาบาลเดิมต้องส่งตัวน้องมายังโรงพยาบาลใน จ.กระบี่ โดยยังอยู่ในห้องไอซียู อยู่โรงพยาบาลมา 20 กว่าวันแล้ว แต่กลับมีการบอกว่าการที่เด็กกินคาลาไมน์เข้าไป ไม่เกี่ยวข้อง
วันแรกที่พากลับบ้าน ก็มาดูแลตามปกติและนำยาที่โรงพยาบาลจ่ายให้มาป้อนลูก เป็นยาน้ำแบบขวด ซึ่งมีฉลากยาเป็นภาษาอังกฤษ แต่ตนอ่านไม่ออก อย่างไรก็ตาม อีกด้านของขวดเป็นฉลากยาภาษาไทยที่โรงพยาบาลแปะไว้ ระบุว่าเป็นแคลเซียม ให้รับประทานครั้งละ 1 เม็ด หรือ 1 ซีซี

ภาพจาก ข่าวช่อง 3
ตอนนั้นตนตกใจมาก ไม่นานลูกก็มีอาการอาเจียน และถ่ายอุจจาระหลายครั้ง ตนจึงพากลับไปโรงพยาบาลเดิม หมอก็ให้นอนดูอาการ 6 คืนแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น โดยที่ทางโรงพยาบาลไม่ยอมบอกชัดเจนว่าลูกป่วยเป็นอะไร บอกแค่อาการไม่หนัก และปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวกับคาลาไมน์ที่กินเข้าไป
จนวันที่ 7 ธันวาคม อาการเด็กยังไม่ดีขึ้น น้าสาวของเธอจึงโวยวายขอให้โรงพยาบาลรีบส่งตัวเด็กไปที่โรงพยาบาลอีกแห่ง จนถึงวันที่ 11 ธันวาคม หมอให้กลับบ้านได้ พร้อมมีใบรับรองแพทย์ระบุว่า เด็กมีอาการผิวหนังอักเสบบริเวณถุงอัณฑะ ตอนนั้นก็คิดว่าน่าจะไม่เป็นอะไรแล้ว แต่พอกลับมาอยู่บ้านได้ 2 วัน ลูกก็ยังอาการไม่ดี ยังถ่ายเหลวตลอด จนวันที่ 14 ธันวาคม หมอก็ให้นอนดูอาการที่โรงพยาบาล จากนั้นวันที่ 21 ธันวาคม ลูกถูกพาเข้าห้องไอซียู ยาวมาจนถึงตอนนี้โดยหมอไม่บอกว่าลูกป่วยเป็นอะไร ทำให้เธอกับสามีเป็นกังวล
ทั้งนี้ เธอพยายามบอกหมอให้ทำเรื่องส่งตัวไปโรงพยาบาลที่รักษาได้ดีกว่านี้ เพราะเธอไม่มีเงินพอจะพาลูกไปรักษาเอง แต่หมอยืนยันว่ายังรักษาได้ ไม่ส่งตัวให้ เธอกังวลหนักจึงนำเรื่องมาโพสต์เพื่อขอความช่วยเหลือ และยังเชื่อว่าที่ลูกอาการหนักขึ้น น่าจะเกิดจากยาที่กินเข้าไปผิด แม้โรงพยาบาลทั้ง 2 แห่งจะปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ตนยังสงสัยว่าถ้าไม่ใช่ความผิดโรงพยาบาล เหตุใดโรงพยาบาลประจำอำเภอถึงโอนเงินมาให้ตน 70,000 บาท และให้เงินติดตัวมาอีก 5,000 บาทในวันที่ส่งตัวไปโรงพยาบาลกระบี่ จึงอยากให้ทางโรงพยาบาลออกมาอธิบายว่าลูกตนป่วยเป็นอะไร อาการหนักแค่ไหน และรับผิดชอบกับความผิดพลาดด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3