ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ฟาด พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น อ้างรัฐประหาร 49 ถูกคุมตัวไปงานศพพ่อไม่ทัน - ถูกคุมเรื่องการเงินจนต้องยืมคนอื่น ชี้อย่าใช้ความเกลียดชังมาหาเสียง
จากกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดใจในการสัมภาษณ์ กับนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ช่วงหนึ่งพูดถึงผลกระทบจากรัฐประหารปี 2549 ที่ขณะนั้นเป็นผู้ช่วยของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ โดยเมื่อคณะเดินทางไปประชุมที่นิวยอร์ก ขณะมีรัฐประหาร ทำให้ตนไม่สามารถเดินทางมางานศพของคุณพ่อได้ทัน โดยหลังจากบินกลับมานั้น ตนเองยังถูกควบคุมด้านการเงินต่าง ๆ จนต้องหยิบยืมเงินคนรู้จักเพื่อมาจ่ายค่าใช้จ่ายเรื่องพิธีทางศาสนาของคุณพ่อ จนถูกจับผิดดราม่าว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
อ่านข่าว : พิธา เคลียร์ดราม่า ถูกจับผิดสัมภาษณ์เรื่องงานศพพ่อ ช่วงรัฐประหาร 49 สรุปไปทันไหม
ภาพจาก พรรคพลังประชารัฐ
วันที่ 27 เมษายน 2566 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติของนักการเมือง เมื่อถึงเวลาหาเสียงเลือกตั้ง มักจะพูดจาเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น บางทีก็พูดให้มีดราม่าให้คนสงสารเรียกคะแนน แต่ความจริงอาจจะมั่วบ้าง เท็จบ้าง ประชาชนก็ต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ ที่สําคัญวันนี้มีโซเชียลมีเดียมีข้อมูล การออกมายุยงปลุกปั่น หรือพูดในทางลบ พูดให้คนเกลียดชังกัน พูดให้คนเกลียดประเทศ เพราะคิดว่าการเกลียดประเทศ ทําให้ตัวเองชนะเลือกตั้งให้คนมาอยากเปลี่ยนประเทศกัน
ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นพลังลบมากเกินไป ทำแบบนี้ประเทศอยู่ไม่ได้ มาสร้างความเกลียดชัง โดยเฉพาะเกลียดประเทศตัวเอง แทนที่เราจะสร้างค่านิยมให้คนรู้สึกรักประเทศ ช่วยกันเสียสละเพื่อประเทศ และให้ทุกคนแทนที่จะโทษคนอื่น โทษประเทศ ทําไมเราไม่โทษตัวเอง เราควรมาทําตัวเองให้ดี ช่วยกันทําหน้าที่ให้ดี ตั้งใจเรียน ตั้งใจทํางาน ตั้งใจทํามาหากิน ประเทศชาติก็ดีเองไม่ใช่มาโทษกัน มัวแต่โทษคนอื่น การเมืองมันต้องสร้างสรรค์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
จากกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดใจในการสัมภาษณ์ กับนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ช่วงหนึ่งพูดถึงผลกระทบจากรัฐประหารปี 2549 ที่ขณะนั้นเป็นผู้ช่วยของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ โดยเมื่อคณะเดินทางไปประชุมที่นิวยอร์ก ขณะมีรัฐประหาร ทำให้ตนไม่สามารถเดินทางมางานศพของคุณพ่อได้ทัน โดยหลังจากบินกลับมานั้น ตนเองยังถูกควบคุมด้านการเงินต่าง ๆ จนต้องหยิบยืมเงินคนรู้จักเพื่อมาจ่ายค่าใช้จ่ายเรื่องพิธีทางศาสนาของคุณพ่อ จนถูกจับผิดดราม่าว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
อ่านข่าว : พิธา เคลียร์ดราม่า ถูกจับผิดสัมภาษณ์เรื่องงานศพพ่อ ช่วงรัฐประหาร 49 สรุปไปทันไหม
ภาพจาก พรรคพลังประชารัฐ
วันที่ 27 เมษายน 2566 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เป็นเรื่องปกติของนักการเมือง เมื่อถึงเวลาหาเสียงเลือกตั้ง มักจะพูดจาเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น บางทีก็พูดให้มีดราม่าให้คนสงสารเรียกคะแนน แต่ความจริงอาจจะมั่วบ้าง เท็จบ้าง ประชาชนก็ต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ ที่สําคัญวันนี้มีโซเชียลมีเดียมีข้อมูล การออกมายุยงปลุกปั่น หรือพูดในทางลบ พูดให้คนเกลียดชังกัน พูดให้คนเกลียดประเทศ เพราะคิดว่าการเกลียดประเทศ ทําให้ตัวเองชนะเลือกตั้งให้คนมาอยากเปลี่ยนประเทศกัน
ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นพลังลบมากเกินไป ทำแบบนี้ประเทศอยู่ไม่ได้ มาสร้างความเกลียดชัง โดยเฉพาะเกลียดประเทศตัวเอง แทนที่เราจะสร้างค่านิยมให้คนรู้สึกรักประเทศ ช่วยกันเสียสละเพื่อประเทศ และให้ทุกคนแทนที่จะโทษคนอื่น โทษประเทศ ทําไมเราไม่โทษตัวเอง เราควรมาทําตัวเองให้ดี ช่วยกันทําหน้าที่ให้ดี ตั้งใจเรียน ตั้งใจทํางาน ตั้งใจทํามาหากิน ประเทศชาติก็ดีเองไม่ใช่มาโทษกัน มัวแต่โทษคนอื่น การเมืองมันต้องสร้างสรรค์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว