ปิดเกมล่า ! รวบ ชาฮ์รูค แก๊งโหด เปิดพฤติการณ์โหดแช่แข็งก่อนหั่น

 

          รวบครบทีม "ชาฮ์รูค" ผู้ต้องหารายสุดท้ายแก๊งโหดหั่นศพ นักธุรกิจชาวเยอรมัน หนีซุกโรงแรมเมืองกาญ เปิดประวัติสุดเหี้ยมแก๊ง Outlaw ตั้งตัวเป็นมาเฟียธุรกิจเทา ปิดพฤติการณ์โหดนำร่างแช่แข็งก่อนหั่น คล้ายคดีฆ่าชาวสเปน

          จากกรณีนายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม ที่ผ่านมา กระทั่งมีคนเจอรถเบนซ์ และจากนั้นไม่นานก็พบศพนายฮันส์ ถูกฆ่าหั่นศพซ่อนในตู้แช่แข็งของบ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง ต่อมาได้มีการออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุ 3 ราย และสามารถจับตัว นางเพธา นกต่อ และนายโอลาฟ ผู้บงการ และวางแผน ตามที่ไปแล้วนั้น

          อ่านข่าว : ออกหมายจับ 3 แก๊งมาเฟีย outlaw ลวงฆ่าหั่นศพนักธุรกิจเยอรมัน

          อ่านข่าว : จนมุมกลางกรุง ! ตร. บุกรวบ โอลาฟ ตัวบงการลวงรีดเงิน ฆ่าหั่นศพนักธุรกิจเยอรมัน
          ล่าสุดวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 INN รายงานว่า พล.ต.ต.  ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจาก เจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ว่า มีชาวต่างชาติเข้ามาพักที่โรงแรม ซึ่งมีใบหน้าคล้ายกับ นายชาฮ์รูค คารีม ผู้ต้องหารายสุดท้ายที่ยังหลบหนีหมายจับในคดีฆ่าหั่นศพนักธุรกิจชาวเยอรมัน จึงสั่งการให้ตำรวจที่เกี่ยวข้องรีบเข้าตรวจสอบโรงแรมดังกล่าว

          เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบนายชาฮ์รูค คารีม อุดดิน อายุ 27 ปี สัญชาติไทย เชื้อชาติปากีสถาน ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับ "ร่วมกันฆ่า และอำพรางซ่อนเร้น" นักธุรกิจชาวเยอรมันอยู่ที่โรงแรมดังกล่าวจึงเชิญตัวมาสอบปากคำ

          เบื้องต้นผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ฆ่า นายฮันส์ ปีเตอร์ นักธุรกิจชาวเยอรมัน และได้ร้องขอพบทนายกับขอให้ทางตำรวจติดต่อญาติ ซึ่งทางตำรวจจึงส่งล่ามมาช่วยในการสื่อสารและสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ก่อนนำตัวส่งมอบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อประสานต่อไปยัง สภ.หนองปรือ ให้มารับตัวไปสอบสวนดำเนินคดีต่อไป



          ขณะที่ เดลินิวส์ รายงานว่า พล.ต.ต. สุพิไชย ลิ่มศิวะวงศ์ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวถึงความคืบหน้าการชันสูตร นายฮันส์ ปีเตอร์ ว่า ตามขั้นตอนของทางนิติเวชจะมีการผ่าพิสูจน์โดยละเอียด คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน โดยชิ้นส่วนร่างกายที่ส่งมาตรวจชันสูตรมีทั้งหมด 11 ชิ้น สอดคล้องกับที่พนักงานสอบสวนให้ข้อมูลมา ระบุได้ว่าศพถูกแช่แข็งไว้ไม่เปลี่ยนสภาพ หน้าตายังสามารถจำได้อยู่ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เก็บลายพิมพ์นิ้วมือไปตรวจเปรียบเทียบตัวบุคคลแล้ว สามารถยืนยันว่าเป็นนายฮันส์ ปีเตอร์    

          จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบบาดแผลที่เกิดก่อนการเสียชีวิต เป็นบาดแผลฟกช้ำเล็กน้อยตามใบหน้า แขน ขา ซึ่งสาเหตุการตายที่เกิดจากบาดแผลยังไม่เจอ ฉะนั้นยังต้องรอผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการ บาดแผลที่ปรากฏที่เป็นบาดแผลก่อนตายพวกฟกช้ำถลอก ไม่สามารถทำให้ถึงตายได้ จึงเชื่อว่านายฮันส์ ปีเตอร์ เสียชีวิตก่อนนำศพไปแช่ เพราะแผลการตัดเป็นบาดแผลที่เกิดหลังตาย ทั้งนี้ยังไม่เจอเหตุการณ์เสียชีวิตที่ชัดเจนเพียงพอที่จะบอก จึงยังต้องรอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการต่อไป

          ส่วนข้อสงสัยที่ว่าชิ้นส่วนร่างกายผู้ตายถูกหั่นหลังจากแช่จนแข็งแล้วนั้น เป็นไปได้เนื่องจากไม่พบรอยเลือดในที่เกิดเหตุ หากเทียบเคียงกับคดีเก่าฆ่าชาวสเปนในลักษณะพฤติการณ์ในการนำศพไปแช่แข็ง มองว่าวัตถุประสงค์เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือเพื่อทำให้เกิดหลักฐานหรือวัตถุพยานน้อยที่สุด
          อย่างไรก็ตาม จากคดีสุดสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นทำให้ชื่อของเเก๊ง Outlaw เป็นที่สนใจว่ามาเฟียกลุ่มนี้ที่มีนายโอลาฟ เป็นหัวหน้า มีความเป็นมาอย่างไร โดยเรื่องนี้ตำรวจ ตม. และชุดคลี่คลายคดี ให้ข้อมูล นายโอลาฟ หัวหน้าแก๊งมาเฟียชาวเยอรมัน Outlaw เข้ามาอาศัยอยู่เมืองไทยมานานหลายปี โดยจะยึดหัวหาดพัทยา จ.ชลบุรี ในทำธุรกิจสีเทา

          ก่อนหน้านี้ นายโอลาฟ เคยทำหนังสือพิมพ์ แถมยังได้รับรางวัลบุคคลต้นแบบจากสโมรสรโรตารี จนเป็นที่รู้จักของสื่อมวลชนท้องถิ่น และตำรวจในพื้นที่พัทยา เจ้าตัวจึงใช้โอกาสนี้แผ่ขยายอิทธิพลให้เติบโตอย่างรวดเร็ว และเป็นที่รู้จักดีในกลุ่มชาวเยอรมันที่ทำธุรกิจสีเทา และยังเคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดมาแล้ว

          หากชาวเยอรมันต้องการมาอยู่ในเมืองไทย และมาทำธุรกิจที่พัทยา จะต้องมาเเนะนำตัวกับนายโอลาฟ และจะต้องจ่ายค่าคุ้มครองให้นายโอลาฟ โดยเฉพาะชาวเยอรมันที่มีหมายจับติดตัว และต้องการกบดานอยู่พัทยา หากยินยอมจ่ายเงิน และอยู่ภายใต้การแนะนำของนายโอลาฟ จะสามารถหลบหนีได้อย่างปลอดภัยไม่มีใครกล้ารบกวน แต่หากไม่ยอมทำตาม ชะตาชีวิตอาจไม่แตกต่างอะไรกับนายฮันส์ ปีเตอร์