สาวโพสต์คลิปนาทีระทึก ไรเดอร์แอปฯ ดัง ดักรอหน้าคอนโด ขับรถตามข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย โมโหถูกรายงานขับขี่อันตราย พฤติกรรมแย่ รถไม่เหมาะสม จนถูกแบน
ในยุคนี้หลายคนมักจะเรียกใช้บริการเรียกรถจักรยานยนต์หรือรถยนต์ด้วยแอปพลิเคชันมากขึ้น เพราะรู้ว่าคนขับเป็นใคร ลูกค้าสามารถร้องเรียนหรือให้คะแนนในเรื่องการบริการได้ จึงมีความมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง ทว่าในบางครั้ง ก็มักจะมีเหตุการณ์ที่ผู้โดยสารที่ให้คะแนนไม่ดี ถูกคนขับรังควาน นำมาซึ่งความหวาดกลัวและกลายเป็นภัยต่อสังคมได้ เช่นในกรณีล่าสุด
วันที่ 3 สิงหาคม 2566 ผู้ใช้ทวิตเตอร์
@p15669 ซึ่งเป็นหญิงสาวคนหนึ่งได้โพสต์คลิปเหตุระทึกที่เธอได้เจอ ขณะที่เธอถูกไรเดอร์ตามคุกคามและข่มขู่หลัง จากการที่เธอรายงานความประพฤติของคนขับรถรายนี้
โดยเธอระบุว่า เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 เธอได้เรียกรถผ่านแอปพลิเคชันไปทำงานตามปกติ โดยได้คนขับคือไรเดอร์เสื้อดำคนนี้มีพฤติกรรมการขับรถที่แย่ ใช้คำพูดในเชิงคุกคาม และถามเรื่องส่วนตัว อีกทั้งคนขับรายนี้ยังมีพฤติกรรมขับรถที่อันตราย มีการฝ่าไฟแดง ไม่สวมหมวกกันน็อก และไม่มีกระจกมองข้าง หลังใช้บริการเสร็จ เธอจึงรายงานผ่านแอปฯ
แต่วันถัดมาตนเองกลับถูกไรเดอร์คนนี้
มารอดักที่หน้าที่พัก และขับรถตามประกบพร้อมกับต่อว่า
และเข้ามาทำร้ายร่างกาย โดยหลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว
แต่จนวันนี้ยังไม่คืบหน้า เพราะผลตรวจร่างกายจากทางโรงพยาบาลยังไม่ออก
และยังมารู้ภายหลังอีกว่าคนขับที่ก่อเหตุ
ไม่ใช่คนเดียวกับที่ขึ้นในแอปพลิเคชัน จากนั้น
เธอได้โพสต์ภาพรายละเอียดการแชตที่ส่งไปยังแอปฯ ต้นเรื่อง
ตั้งแต่การร้องเรียนถึงพฤติกรรม
ถึงการสอบถามกรณีที่คนขับรู้ข้อมูลของลูกค้าที่กดรีพอร์ตไปได้อย่างไร
เพราะคนขับทั้งโทร. มา และดักรอถึงที่พัก แม้ว่าทางแอปฯ
จะปฏิเสธว่าไม่มีการให้ข้อมูลของผู้โดยสารก็ตาม
หลังจากทวีตกลายเป็นไวรัล ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย
อีกสิ่งหนึ่งที่ถูกพูดถึงคือพฤติกรรมของคนขับอีกรายที่เจ้าของทวิตเตอร์รายนี้ใช้บริการขณะเกิดเหตุโดนไล่ตาม
โดยหลังจากที่เรื่องรายดังกล่าวถูกแชร์ออกไป
ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
โดยส่วนใหญ่ต่างสงสัยว่าทำไมคนขับถึงรู้ข้อมูลว่าใครเป็นคนรายงาน
และยังทราบข้อมูลต่าง ๆ เช่น เบอร์โทร. และที่อยู่ของผู้ใช้บริการอีกด้วย
นอกจากนี้ชาวเน็ตหลายคนยังตำหนิคนขับไรเดอร์อีกคน
ที่ผู้หญิงเจ้าของคลิปซ้อนอยู่ ว่าทำไมไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือหรือห้ามปราม
ปล่อยให้ลูกค้าถูกทำร้ายต่อหน้า โดยไม่พยายามขับหนี
หรือขับไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็น่าจะทำให้ผู้โดยสารปลอดภัยมากกว่านี้