โดนอีกร้าน คาเฟ่ดังหาดใหญ่ เจอโนติส 2 ล้าน ฐานใช้ภาชนะเหมือน เจ้าของโวย ซื้อมาเป็น 10 ปีที่จตุจักร เจอแบบนี้เปลี่ยนแทบไม่ทัน
ดราม่าปังชา คำนี้ร้านค้าใช้ได้หรือไม่ได้ กลายเป็นข่าวดังเมื่อมีร้านหนึ่งใน จ.เชียงราย ถูกโนติสเรียก 102 ล้าน ขอให้เปลี่ยนชื่อร้านเป็นคำอื่น ไม่ให้ใช้คำว่าปังชา ส่วนอีกที่หนึ่งอยู่ใน จ.สงขลา โดนเรียก 7 แสนบาท หลังมีเมนูปังชาติดหน้าร้าน
ภายหลังคุณแก้ม เจ้าของแบรนด์ปังชาร้านดัง ก็ประกาศชัดเจน คำว่า "ปังชา" สามารถใช้ได้ทุกคน ก็ถือว่าสถานการณ์เคลียร์ขึ้นในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีควันหลง เพราะมีผู้ถูกร้องเรียนรายอื่นมาแฉเพิ่มว่า เคยโดนเรียกโนติสแบบนี้มานานแล้ว
อ่านข่าว : เจ้าของแบรนด์ ลั่นกลางรายการ คำว่า ปังชา ใช้ได้หมด ขออภัยพลาด ยื่นโนติส 102 ล้าน
ล่าสุด วันที่ 1 กันยายน 2566 เฟซบุ๊ก Nuk Sae-iao ของคุณนุ๊ก เจ้าของคาเฟ่ตั้งใจชง ได้โพสต์เล่าประสบการณ์การถูกยื่นโนติสจากแบรนด์ดังกล่าว พร้อมกับลงหนังสือเป็นหลักฐานยืนยันว่าเป็นความจริง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
คุณนุ๊กเล่าว่า สาเหตุที่โดนเป็นเพราะทางแบรนด์ไม่ต้องการให้ใช้ถ้วยใส่ปังชาเหมือนร้านเขา ทั้งที่ถ้วยของทางร้าน ซื้อมาจากตลาดนัดจตุจักรเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ถ้าหากร้านไม่ยอมเปลี่ยนภาชนะ อาจจะถูกเรียกเงิน 2 ล้านบาท เจอแบบนี้เปลี่ยนถ้วยแทบไม่ทัน
เมื่อส่องในรายละเอียดหนังสือที่ยื่นมา ระบุเหตุผลชัดเจนว่า คุณนุ๊กมีการผลิตถ้วยไอศกรีมด้วยการปลอม ทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเลียนแบบ มีการนำมาขาย ซึ่งถ้วยนี้มีการจดสิทธิบัตรแล้ว รวมถึงทางร้านมีความตั้งใจลงรูปโฆษณาเพื่อทำให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดว่า ผลิตภัณฑ์นี้เป็นของร้าน เป็นการใช้แบบผลิตภัณฑ์ตามสิทธิบัตรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัท
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nuk Sae-iao
ส่องประวัติร้านเปิดมากว่า 9 ปี ก่อนจดทะเบียนสิทธิบัตร
ด้านชาวเน็ตเห็นโพสต์ดังกล่าวก็แซวกันในแนวขบขันว่า ร้านนี้มาก่อนกาลจริง ๆ ไม่ตกเทรนด์ แบบนี้ต้องไปโหนกระแสให้รู้แล้วรู้รอด
ทางกระปุกดอทคอม ก็มีการตรวจสอบเพจของทางร้าน พบว่า ร้านมีการโพสต์ภาพครั้งแรกในวันที่ 22 กรกฎาคม 2557 เท่ากับว่าร้านนี้เปิดมานานกว่า 9 ปีแล้ว และเปิดก่อนที่จะมีการจดสิทธิบัตรของแบรนด์ดังเสียอีก
ในขณะเดียวกัน เพจ มนุษย์เลเวล1 ก็ได้เผยว่า ถ้วยทองมีขาตั้งที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านปังชานั้น ในความเป็นจริงก็เป็นถ้วยที่มีขายในแอปพลิเคชันขายของของจีน โดยส่วนที่แตกต่างคือขาตั้งและถาดรองถ้วยเท่านั้น ไม่นับรวมโลโก้ของทางร้านที่ไปคล้ายคลึงกับปฏิทินเหล้าชื่อดังจนศิลปินที่คิดต้องออกมาฉะ ทำให้เกิดคำถามว่า ในการจดลิขสิทธิ์ครั้งนี้ของทางร้าน ทางร้านได้คิดอะไรเป็นของตัวเองบ้าง !