ท็อฟฟี่เป็นตุ๊ดซ่อมคอม ไล่เรียงประสบการณ์ โดนภาษีย้อนหลัง 2.6 ล้านบาท ต้องเอาเงินก้อนมาโปะจ่ายเป็นล้านแม้ลดแล้ว บทเรียนสำคัญสำหรับอินฟลูฯ ดาว TikTok และคนทำงานออนไลน์ ทุกรายได้ สรรพากรรับรู้หมด
![ท็อฟฟี่เป็นตุ๊ดซ่อมคอม โดนภาษีย้อนหลัง 2.6 ล้าน]( "ท็อฟฟี่เป็นตุ๊ดซ่อมคอม โดนภาษีย้อนหลัง 2.6 ล้าน")
จากกรณีที่ เฟซบุ๊ก ท็อฟฟี่เป็นตุ๊ดซ่อมคอม ได้ออกมาเผยว่า ตนโดนภาษีย้อนหลัง 2.6 ล้านบาท ทั้งที่ยื่นภาษีตลอด จ่ายทุกปี จนคนอยากรู้ที่มาที่ไปของเรื่องนี้กันมาก
อ่านเพิ่มเติม อินฟลูฯ ไอทีดัง โดนภาษีย้อนหลัง 2.6 ล้านบาท ทั้งที่จ่ายปกติ คนงงจัด เกิดอะไรขึ้น !?
ล่าสุด 16 พฤศจิกายน 2566 เฟซบุ๊ก ท็อฟฟี่เป็นตุ๊ดซ่อมคอม ได้โพสต์ถึงเรื่องราวเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคนที่ทำงานออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นดาว TikTok อินฟลูเอนเซอร์ แม่ค้าออนไลน์ ต้องศึกษาเรื่องภาษีเอาไว้ให้ดี เพราะทุกรายได้ที่เข้ามา อย่าคิดว่าสรรพากรไม่รู้
ท็อฟฟี่บอกว่า ก่อนหน้านี้ท็อฟฟี่เป็นพนักงานออฟฟิศ และทำอาชีพอินฟลูเอนเซอร์เป็นงานเสริมตั้งแต่ปลายปี 2557 แม้ว่าจะเริ่มทำงานมานาน แต่ตอนนั้นท็อฟฟี่ยังไม่มีชื่อเสียง ไม่มีรายได้จากการเป็นอินฟลูฯ รายได้ที่เข้ามาจึงเป็นรายได้จากการทำงานบริษัททางเดียว และตอนนั้นรายได้ของท็อฟฟี่ยังน้อย เงินเดือนอย่างเดียวจึงไม่ถึง 150,000 บาทต่อปี และไม่ต้องเสียภาษี แต่ท็อฟฟี่ยื่นภาษีปกติ
ช่วงปี 2560 ท็อฟฟี่เริ่มมีชื่อเสียง มีลูกค้ามาจ้างงาน มีสปอนเซอร์ จึงมีรายได้เข้ามาเพิ่ม ตอนนั้นรายได้ของท็อฟฟี่มากกว่า 150,000 ต่อปีแน่นอน แต่ตอนนั้นท็อฟฟี่รับงานเอง ดีลงานเอง วางบิลเอง ทำเอกสารเองโดยไม่จ้างใคร เพราะคิดว่าทำคนเดียวได้สบายใจ และมีบางครั้งที่ตามเอกสารจากบริษัทได้ไม่ครบ ตอนยื่นภาษีจึงยื่นภาษีเฉพาะเอกสารที่มี ท็อฟฟี่ถามสรรพากรเขตว่าจะมีปัญหาอะไรไหม สรรพากรเขตก็บอกว่าเกณฑ์เสียภาษียังไม่ถึง 1.8 ล้านบาท ก็ให้เสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดาไปก่อน หากเกิน 1.8 ล้าน ต้องมีการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตอนนั้นท็อฟฟี่คิดว่า เสียภาษีมากกว่าเดิม แต่แลกกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นก็คือรับได้ แล้วค่อยไปตั้งใจเก็บเอกสารมากขึ้นแทน
อย่างไรก็ตาม ท็อฟฟี่ได้เลือกยื่นภาษีออนไลน์ เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าดูแลเรื่องภาษีเองได้ก็ไม่จำเป็นต้องมาที่เขต แต่หายนะมันเริ่มจากตรงนี้
![ท็อฟฟี่เป็นตุ๊ดซ่อมคอม โดนภาษีย้อนหลัง 2.6 ล้าน]( "ท็อฟฟี่เป็นตุ๊ดซ่อมคอม โดนภาษีย้อนหลัง 2.6 ล้าน")
ในตอนปี 2560 ที่รายได้ของท็อฟฟี่เริ่มมาก แต่สรรพากรยังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับการเสียภาษีสำหรับทำงานและมีรายได้จากการทำงานออนไลน์ ที่เพิ่งมามีเมื่อปี 2564 ทำให้ตอนนั้นท็อฟฟี่ต้องไปอยู่ในหมวดฟรีแลนซ์ และไม่ว่าเราจะได้เงินมาจากไหน ทั้งรายได้จากการสตรีม รับรีวิวสินค้า ส่วนแบ่งโฆษณายูทูบ หรือเงินที่ได้จากแพลตฟอร์มสตรีมเกม ไม่ว่าเงินทั้งหมดจะเป็นแบบไหน แต่ทุกอย่างคือ รายได้ และรายได้ก็ต้องเสียภาษี
และในตอนนั้น ท็อฟฟี่เลือกหัวข้อการเสียภาษีผิด เพราะคิดไม่รู้จะใส่ว่าอะไร จึงเลือกให้ตัวเองเสียภาษีน้อยที่สุด เจ้าหน้าที่แนะนำให้เสียภาษีเงินได้พึงประเมินประเภทที่ 7 มาตรา 40 (7) ซึ่งเป็นการรับเหมา เพราะท็อฟฟี่คิดว่าตัวเองทำงานเหมา ทำงานเอง โพสต์เอง โชว์ตัวเอง และเปลี่ยนมายื่นเสียภาษีตามมาตรา 40(8) อันเป็นเงินได้จากธุรกิจการ รวมไปถึงการเป็นนักร้องนักแสดงทีหลัง
ในปี 2564 เมื่อมีกฎหมายเรื่องการเก็บภาษีจากการทำงานออนไลน์เข้ามา และให้คนเป็นอินฟลูฯ เปิดบริษัท รับงานผ่านบริษัท จ้างบัญชีอย่างจริงจัง ท็อฟฟี่ก็ทำแบบนั้น แต่ไม่ได้บอกบริษัทว่าที่ผ่านมาเสียภาษีบุคคลธรรมดาอย่างไร
ในตอนที่เสียภาษีบุคคลธรรมดา ช่วงปี 2560-2564 ท็อฟฟี่ได้ลดหย่อนทุกปี ตั้งแต่การซื้อกองทุน ส่งเสียพ่อแม่ บริจาคการกุศล บางปีเสียภาษี 20,000 บาท บางปีเสียภาษี 50,000 บาท มีได้คืนมาบ้างในบางปีที่มีรายได้น้อย และนับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา รายได้ของท็อฟฟี่ก็น้อยลงแล้ว แต่ท็อฟฟี่คิดว่าไม่น่าเกิน 1.8 ล้านบาท เลยเลือกไปจดทะเบียนบริษัทเพื่อให้เสียภาษีได้น้อยลง แต่ท็อฟฟี่คิดไม่ถึงเลยว่า ทุกรายได้ที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย สรรพากรรับรู้ได้ 100%
ในปี 2566 ท็อฟฟี่ได้รับจดหมายให้ไปเสียภาษี ท็อฟฟี่ก็ไปตามปกติ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่ามีเบี้ยปรับนะแต่ยังไม่สรุปยอดมา และขอไล่เช็กข้อมูลก่อนเพราะเห็นว่าท็อฟฟี่มีรายได้สูง และถามถึงแหล่งรายได้ ท็อฟฟี่ก็บอกว่ามาจากการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งท็อฟฟี่คิดว่าโดนรวม ๆ แล้วอาจจะประมาณ 400,000-500,000 บาท
![ท็อฟฟี่เป็นตุ๊ดซ่อมคอม โดนภาษีย้อนหลัง 2.6 ล้าน]( "ท็อฟฟี่เป็นตุ๊ดซ่อมคอม โดนภาษีย้อนหลัง 2.6 ล้าน")
จนสุดท้าย เจ้าหน้าที่คำนวณภาษีที่ต้องเสียพร้อมเบี้ยปรับคือ 2.6 ล้านบาท ท็อฟฟี่ถามถึงสาเหตุว่าทำไมโดนถึงขนาดนั้น เจ้าหน้าที่บอกว่า
- ท็อฟพี่มีรายได้สุทธิเกิน 1.8 ล้านตั้งแต่ปี 2561 และถ้าเกิน 1.8 ล้านต้องมีการจดแจ้งเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ท็อฟฟี่เสียภาษีผิด จึงต้องมีเบี้ยปรับ โดยวิธีคิดคือ เบี้ยปรับx2 + ภาษีมูลค่าเพิ่ม x2 + ค่าปรับ x2 จากเงินต้น 1.5 ล้านบาท จึงกลายเป็นว่าเสียภาษีรวมกันที 2.6 ล้านบาท
- เจ้าหน้าที่คำนวณตั้งแต่ปี 2561-2566 ที่เป็นยอดภาษีหัก ณ ที่จ่าย ส่วนยอดโอนลอยเข้าบัญชีอันนี้ไม่มีผล
- ที่อยู่อยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมและติดอยู่ในรายชื่อของผู้ที่มีรายได้สูงในเขตนั้น
พอได้ยินดังนั้น ท็อฟฟี่ก็ขาสั่นทันที
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่แจ้งว่าท็อฟฟี่ไม่มีเจตนาหนีภาษี เพราะยื่นภาษีทุกปี เช็กจากแบบ ภ.ง.ด. 90 และ ภ.ง.ด. 91 ได้ แต่ท็อฟฟี่ยื่นภาษีผิดประเภท ท็อฟฟี่พยายามออดอ้อนขอลดจากยอด 2.6 ล้านบาทเพราะไม่มีจ่าย แต่เรื่องนี้มีทางออกคือ เจ้าหน้าที่ให้ทำเรื่องขอละเว้นค่าปรับ แต่มีเงื่อนไขคือต้องจ่ายเงินต้นให้หมดในก้อนเดียว จึงทำให้ท็อฟฟี่ต้องไปหาเงิน 1.5 ล้านมาปิดยอด และหากปิดยอดนี้ไม่ได้ ก็อาจจะถูกฟ้อง สรรพากรจะมายึดทรัพย์สินที่มีไปขายทอดตลาด หากไม่มีทรัพย์สิน สรรพากรก็จะฟ้องล้มละลาย
ด้านท็อฟฟี่ได้หาเงินมาจ่ายเงินก้อนใหญ่ไปหมด เหลือก้อนที่สามารถผ่อนได้ไม่มีดอกเบี้ย 2 แสนกว่าบาทเท่านั้น และตอนนี้รายได้ของท็อฟฟี่ไม่ถึง 1.8 ล้านบาท มานาน และต้องการจะออกจาก Vat แต่ออกยากมาก ๆ
![ท็อฟฟี่เป็นตุ๊ดซ่อมคอม โดนภาษีย้อนหลัง 2.6 ล้าน]( "ท็อฟฟี่เป็นตุ๊ดซ่อมคอม โดนภาษีย้อนหลัง 2.6 ล้าน")
ท็อฟฟี่สรุปว่า ต่อให้เรายื่นภาษีทุกปีก็ต้องยื่นภาษีให้ถูกประเภท หากยื่นออนไลน์แล้วไม่มั่นใจว่าเราเข้าหมวดไหนแล้วใส่มั่ว ถือว่าอันตรายมาก ๆ แนะนำว่าให้ไปยื่นภาษีกับสรรพากรใกล้บ้าน ให้เขาเช็กยอดให้ว่าเราเกินหรือยัง ต้องทำอย่างไร คุยให้รู้เรื่อง และสรรพากรก็มองแต่รายได้ หากมีค่าใช้จ่ายต้องเป็นเราที่ต้องหาเอกสารมาประกอบเอง หากจ่ายบุคคลก็ต้องมีเอกสารสำเนาบัตรประชาชน บิลปลอมก็ใช้ไม่ได้ วิชามารทั้งหลายก็ใช้ไปหมดแล้วและไม่ได้ผล ท็อฟฟี่พลาดตั้งแต่ต้นและแก้ไขอะไรไม่ได้ ทำได้แค่เริ่มต้นใหม่เท่านั้น
สุดท้าย ท็อฟฟี่บอกว่า ใครเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ดาว TikTok จ้างบัญชีได้ก็จ้างดีกว่า เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย แม่ค้าออนไลน์มียอดเข้าเยอะก็ต้องแจ้ง เพราะเขานับแต่ยอดเข้า ไม่นับยอดออก ถ้าเราไม่แจกแจง อยู่ต่อหน้าสรรพากร ตัวเลขไม่เคยโกหก เพราะถ้าเราไปเถียงอาจจะเจอเขาเปิดตัวเลขกลับมา เพราะท็อฟฟี่โดนมาแล้ว
ในขณะที่เพจ Taxbugnoms ได้ยืนยันว่า ภาษีเงินได้ทำให้คุณเจ็บ แต่ภาษีมูลค่าเพิ่มจะทำให้คุณล้ม คนทั่วไปมักจะคิดว่าเป็นบุคคลธรรมดาไม่ต้องจด Vat แต่ในความเป็นจริง ไม่ว่าใครก็ตามที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท ต้องจด Vat เสมอ และเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% จากยอดรายได้ และรายได้นั้นคือเงินเข้าก่อนหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด
และหากสรรพากรตรวจสอบพบว่า คุณมีรายได้เกิน 1.8 ล้านแต่ไม่จด Vat สรรพากรจะคิดยอด 7% ตั้งแต่วันที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านมาเรื่อย ๆ จนถึงวันที่คุณยังมีรายได้ และยังต้องบวกค่าปรับ เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม ตามความผิดที่กระทำ เช่น ไม่ยื่นแบบเบี้ยปรับ คิดตามจำนวนภาษีสูงสุด 2 เท่า เงินเพิ่มคิด 1.5% ต่อเดือนไปเรื่อย ๆ จนไม่เกินภาษี ซึ่งส่วนใหญ่จะมาล้มกันตรงนี้ เพราะคิดมาแล้วเงินที่จ่ายมันเกินไปมาก
1. คำนวณเงินได้ให้เป็น, เข้าใจประเภทเงินได้ หักค่าใช้จ่ายให้ถูก และวางแผนลดหย่อนภาษีตามสมควร
2. รู้ว่าหากรายได้เกิน 1.8 ล้านต้องจด Vat เพราะอาชีพกลุ่มนี้รอดยาก ทำให้ถูกต้องจะไม่มีปัญหาภายหลัง ไม่อย่างนั้นก็มาทำธุรกิจในรูปแบบบริษัท เพื่อให้จัดการได้ง่ายกว่าและประหยัดภาษี
จากกรณีที่ เฟซบุ๊ก ท็อฟฟี่เป็นตุ๊ดซ่อมคอม ได้ออกมาเผยว่า ตนโดนภาษีย้อนหลัง 2.6 ล้านบาท ทั้งที่ยื่นภาษีตลอด จ่ายทุกปี จนคนอยากรู้ที่มาที่ไปของเรื่องนี้กันมาก
อ่านเพิ่มเติม อินฟลูฯ ไอทีดัง โดนภาษีย้อนหลัง 2.6 ล้านบาท ทั้งที่จ่ายปกติ คนงงจัด เกิดอะไรขึ้น !?
ล่าสุด 16 พฤศจิกายน 2566 เฟซบุ๊ก ท็อฟฟี่เป็นตุ๊ดซ่อมคอม ได้โพสต์ถึงเรื่องราวเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคนที่ทำงานออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นดาว TikTok อินฟลูเอนเซอร์ แม่ค้าออนไลน์ ต้องศึกษาเรื่องภาษีเอาไว้ให้ดี เพราะทุกรายได้ที่เข้ามา อย่าคิดว่าสรรพากรไม่รู้
ท็อฟฟี่เล่าย้อนหลัง จากพนักงานออฟฟิศ สู่อินฟลูฯ ด้านไอที มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ทำบัญชีเอง หายนะบังเกิด
ท็อฟฟี่บอกว่า ก่อนหน้านี้ท็อฟฟี่เป็นพนักงานออฟฟิศ และทำอาชีพอินฟลูเอนเซอร์เป็นงานเสริมตั้งแต่ปลายปี 2557 แม้ว่าจะเริ่มทำงานมานาน แต่ตอนนั้นท็อฟฟี่ยังไม่มีชื่อเสียง ไม่มีรายได้จากการเป็นอินฟลูฯ รายได้ที่เข้ามาจึงเป็นรายได้จากการทำงานบริษัททางเดียว และตอนนั้นรายได้ของท็อฟฟี่ยังน้อย เงินเดือนอย่างเดียวจึงไม่ถึง 150,000 บาทต่อปี และไม่ต้องเสียภาษี แต่ท็อฟฟี่ยื่นภาษีปกติ
ช่วงปี 2560 ท็อฟฟี่เริ่มมีชื่อเสียง มีลูกค้ามาจ้างงาน มีสปอนเซอร์ จึงมีรายได้เข้ามาเพิ่ม ตอนนั้นรายได้ของท็อฟฟี่มากกว่า 150,000 ต่อปีแน่นอน แต่ตอนนั้นท็อฟฟี่รับงานเอง ดีลงานเอง วางบิลเอง ทำเอกสารเองโดยไม่จ้างใคร เพราะคิดว่าทำคนเดียวได้สบายใจ และมีบางครั้งที่ตามเอกสารจากบริษัทได้ไม่ครบ ตอนยื่นภาษีจึงยื่นภาษีเฉพาะเอกสารที่มี ท็อฟฟี่ถามสรรพากรเขตว่าจะมีปัญหาอะไรไหม สรรพากรเขตก็บอกว่าเกณฑ์เสียภาษียังไม่ถึง 1.8 ล้านบาท ก็ให้เสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดาไปก่อน หากเกิน 1.8 ล้าน ต้องมีการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตอนนั้นท็อฟฟี่คิดว่า เสียภาษีมากกว่าเดิม แต่แลกกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นก็คือรับได้ แล้วค่อยไปตั้งใจเก็บเอกสารมากขึ้นแทน
อย่างไรก็ตาม ท็อฟฟี่ได้เลือกยื่นภาษีออนไลน์ เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าดูแลเรื่องภาษีเองได้ก็ไม่จำเป็นต้องมาที่เขต แต่หายนะมันเริ่มจากตรงนี้
ท็อฟฟี่ เลือกจ่ายภาษีผิดประเภท แบบที่รับเหมาให้ตัวเองเสียน้อยที่สุด หารู้ไม่ ทุกรายได้ต้องเสียภาษีหมด
ในตอนปี 2560 ที่รายได้ของท็อฟฟี่เริ่มมาก แต่สรรพากรยังไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับการเสียภาษีสำหรับทำงานและมีรายได้จากการทำงานออนไลน์ ที่เพิ่งมามีเมื่อปี 2564 ทำให้ตอนนั้นท็อฟฟี่ต้องไปอยู่ในหมวดฟรีแลนซ์ และไม่ว่าเราจะได้เงินมาจากไหน ทั้งรายได้จากการสตรีม รับรีวิวสินค้า ส่วนแบ่งโฆษณายูทูบ หรือเงินที่ได้จากแพลตฟอร์มสตรีมเกม ไม่ว่าเงินทั้งหมดจะเป็นแบบไหน แต่ทุกอย่างคือ รายได้ และรายได้ก็ต้องเสียภาษี
และในตอนนั้น ท็อฟฟี่เลือกหัวข้อการเสียภาษีผิด เพราะคิดไม่รู้จะใส่ว่าอะไร จึงเลือกให้ตัวเองเสียภาษีน้อยที่สุด เจ้าหน้าที่แนะนำให้เสียภาษีเงินได้พึงประเมินประเภทที่ 7 มาตรา 40 (7) ซึ่งเป็นการรับเหมา เพราะท็อฟฟี่คิดว่าตัวเองทำงานเหมา ทำงานเอง โพสต์เอง โชว์ตัวเอง และเปลี่ยนมายื่นเสียภาษีตามมาตรา 40(8) อันเป็นเงินได้จากธุรกิจการ รวมไปถึงการเป็นนักร้องนักแสดงทีหลัง
ในปี 2564 เมื่อมีกฎหมายเรื่องการเก็บภาษีจากการทำงานออนไลน์เข้ามา และให้คนเป็นอินฟลูฯ เปิดบริษัท รับงานผ่านบริษัท จ้างบัญชีอย่างจริงจัง ท็อฟฟี่ก็ทำแบบนั้น แต่ไม่ได้บอกบริษัทว่าที่ผ่านมาเสียภาษีบุคคลธรรมดาอย่างไร
ความจริงที่ต้องทำขาสั่น กับรายได้ของท็อฟฟี่ ที่เกิน 1.8 ล้านมา 4 ปี เงินต้น 1.5 ล้าน บวกค่าปรับเป็น 2.6 ล้าน
ในตอนที่เสียภาษีบุคคลธรรมดา ช่วงปี 2560-2564 ท็อฟฟี่ได้ลดหย่อนทุกปี ตั้งแต่การซื้อกองทุน ส่งเสียพ่อแม่ บริจาคการกุศล บางปีเสียภาษี 20,000 บาท บางปีเสียภาษี 50,000 บาท มีได้คืนมาบ้างในบางปีที่มีรายได้น้อย และนับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา รายได้ของท็อฟฟี่ก็น้อยลงแล้ว แต่ท็อฟฟี่คิดว่าไม่น่าเกิน 1.8 ล้านบาท เลยเลือกไปจดทะเบียนบริษัทเพื่อให้เสียภาษีได้น้อยลง แต่ท็อฟฟี่คิดไม่ถึงเลยว่า ทุกรายได้ที่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย สรรพากรรับรู้ได้ 100%
ในปี 2566 ท็อฟฟี่ได้รับจดหมายให้ไปเสียภาษี ท็อฟฟี่ก็ไปตามปกติ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่ามีเบี้ยปรับนะแต่ยังไม่สรุปยอดมา และขอไล่เช็กข้อมูลก่อนเพราะเห็นว่าท็อฟฟี่มีรายได้สูง และถามถึงแหล่งรายได้ ท็อฟฟี่ก็บอกว่ามาจากการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งท็อฟฟี่คิดว่าโดนรวม ๆ แล้วอาจจะประมาณ 400,000-500,000 บาท
จนสุดท้าย เจ้าหน้าที่คำนวณภาษีที่ต้องเสียพร้อมเบี้ยปรับคือ 2.6 ล้านบาท ท็อฟฟี่ถามถึงสาเหตุว่าทำไมโดนถึงขนาดนั้น เจ้าหน้าที่บอกว่า
- ท็อฟพี่มีรายได้สุทธิเกิน 1.8 ล้านตั้งแต่ปี 2561 และถ้าเกิน 1.8 ล้านต้องมีการจดแจ้งเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ท็อฟฟี่เสียภาษีผิด จึงต้องมีเบี้ยปรับ โดยวิธีคิดคือ เบี้ยปรับx2 + ภาษีมูลค่าเพิ่ม x2 + ค่าปรับ x2 จากเงินต้น 1.5 ล้านบาท จึงกลายเป็นว่าเสียภาษีรวมกันที 2.6 ล้านบาท
- เจ้าหน้าที่คำนวณตั้งแต่ปี 2561-2566 ที่เป็นยอดภาษีหัก ณ ที่จ่าย ส่วนยอดโอนลอยเข้าบัญชีอันนี้ไม่มีผล
- ที่อยู่อยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมและติดอยู่ในรายชื่อของผู้ที่มีรายได้สูงในเขตนั้น
พอได้ยินดังนั้น ท็อฟฟี่ก็ขาสั่นทันที
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่แจ้งว่าท็อฟฟี่ไม่มีเจตนาหนีภาษี เพราะยื่นภาษีทุกปี เช็กจากแบบ ภ.ง.ด. 90 และ ภ.ง.ด. 91 ได้ แต่ท็อฟฟี่ยื่นภาษีผิดประเภท ท็อฟฟี่พยายามออดอ้อนขอลดจากยอด 2.6 ล้านบาทเพราะไม่มีจ่าย แต่เรื่องนี้มีทางออกคือ เจ้าหน้าที่ให้ทำเรื่องขอละเว้นค่าปรับ แต่มีเงื่อนไขคือต้องจ่ายเงินต้นให้หมดในก้อนเดียว จึงทำให้ท็อฟฟี่ต้องไปหาเงิน 1.5 ล้านมาปิดยอด และหากปิดยอดนี้ไม่ได้ ก็อาจจะถูกฟ้อง สรรพากรจะมายึดทรัพย์สินที่มีไปขายทอดตลาด หากไม่มีทรัพย์สิน สรรพากรก็จะฟ้องล้มละลาย
ด้านท็อฟฟี่ได้หาเงินมาจ่ายเงินก้อนใหญ่ไปหมด เหลือก้อนที่สามารถผ่อนได้ไม่มีดอกเบี้ย 2 แสนกว่าบาทเท่านั้น และตอนนี้รายได้ของท็อฟฟี่ไม่ถึง 1.8 ล้านบาท มานาน และต้องการจะออกจาก Vat แต่ออกยากมาก ๆ
ท็อฟฟี่ยัน เรื่องนี้เป็นบทเรียน ใครมีรายได้ออนไลน์ แนะจ้างทำบัญชี ยื่นภาษีให้ถูกต้อง
ท็อฟฟี่สรุปว่า ต่อให้เรายื่นภาษีทุกปีก็ต้องยื่นภาษีให้ถูกประเภท หากยื่นออนไลน์แล้วไม่มั่นใจว่าเราเข้าหมวดไหนแล้วใส่มั่ว ถือว่าอันตรายมาก ๆ แนะนำว่าให้ไปยื่นภาษีกับสรรพากรใกล้บ้าน ให้เขาเช็กยอดให้ว่าเราเกินหรือยัง ต้องทำอย่างไร คุยให้รู้เรื่อง และสรรพากรก็มองแต่รายได้ หากมีค่าใช้จ่ายต้องเป็นเราที่ต้องหาเอกสารมาประกอบเอง หากจ่ายบุคคลก็ต้องมีเอกสารสำเนาบัตรประชาชน บิลปลอมก็ใช้ไม่ได้ วิชามารทั้งหลายก็ใช้ไปหมดแล้วและไม่ได้ผล ท็อฟฟี่พลาดตั้งแต่ต้นและแก้ไขอะไรไม่ได้ ทำได้แค่เริ่มต้นใหม่เท่านั้น
สุดท้าย ท็อฟฟี่บอกว่า ใครเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ดาว TikTok จ้างบัญชีได้ก็จ้างดีกว่า เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย แม่ค้าออนไลน์มียอดเข้าเยอะก็ต้องแจ้ง เพราะเขานับแต่ยอดเข้า ไม่นับยอดออก ถ้าเราไม่แจกแจง อยู่ต่อหน้าสรรพากร ตัวเลขไม่เคยโกหก เพราะถ้าเราไปเถียงอาจจะเจอเขาเปิดตัวเลขกลับมา เพราะท็อฟฟี่โดนมาแล้ว
เพจดังชี้ ยังมีคนจำนวนมากไม่รู้ รายได้เกิน 1.8 ล้าน ต้องจด Vat พร้อมฝากไว้ 2 ข้อ
ในขณะที่เพจ Taxbugnoms ได้ยืนยันว่า ภาษีเงินได้ทำให้คุณเจ็บ แต่ภาษีมูลค่าเพิ่มจะทำให้คุณล้ม คนทั่วไปมักจะคิดว่าเป็นบุคคลธรรมดาไม่ต้องจด Vat แต่ในความเป็นจริง ไม่ว่าใครก็ตามที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท ต้องจด Vat เสมอ และเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% จากยอดรายได้ และรายได้นั้นคือเงินเข้าก่อนหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด
และหากสรรพากรตรวจสอบพบว่า คุณมีรายได้เกิน 1.8 ล้านแต่ไม่จด Vat สรรพากรจะคิดยอด 7% ตั้งแต่วันที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านมาเรื่อย ๆ จนถึงวันที่คุณยังมีรายได้ และยังต้องบวกค่าปรับ เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม ตามความผิดที่กระทำ เช่น ไม่ยื่นแบบเบี้ยปรับ คิดตามจำนวนภาษีสูงสุด 2 เท่า เงินเพิ่มคิด 1.5% ต่อเดือนไปเรื่อย ๆ จนไม่เกินภาษี ซึ่งส่วนใหญ่จะมาล้มกันตรงนี้ เพราะคิดมาแล้วเงินที่จ่ายมันเกินไปมาก
ทางเพจได้ให้คำแนะนำทิ้งท้ายว่า สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจเกี่ยวกับภาษีคือ
1. คำนวณเงินได้ให้เป็น, เข้าใจประเภทเงินได้ หักค่าใช้จ่ายให้ถูก และวางแผนลดหย่อนภาษีตามสมควร
2. รู้ว่าหากรายได้เกิน 1.8 ล้านต้องจด Vat เพราะอาชีพกลุ่มนี้รอดยาก ทำให้ถูกต้องจะไม่มีปัญหาภายหลัง ไม่อย่างนั้นก็มาทำธุรกิจในรูปแบบบริษัท เพื่อให้จัดการได้ง่ายกว่าและประหยัดภาษี
