ดราม่าคุกกี้รสพระธรรม เป็นรูปพระเครื่องกินได้ เสียงแตกเหมาะไม่เหมาะ บางคนมองว่า ไม่มีอะไร บางคนมองว่าลบหลู่ไม่ควรทำ บากกรรมเปล่า ๆ เจอสวน ทีปลัดขิกยังไหว้กันได้
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กกำลังมีการดราม่าร้านเบเกอรี่แห่งหนึ่ง ซึ่งผลิตคุกกี้พระเครื่อง ถ้าดูเผิน ๆ ก็คล้ายพระเครื่องมาก ทั้งสี ทั้งขนาด และลวดลาย แต่พอกัดเข้าไปคำหนึ่งเห็นไส้ในแล้วรู้ทันทีว่าเป็นของกิน
ด้านชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นกันหลากหลายประเด็น บางคนไม่คิดอะไรก็แซว ๆ กันว่า คุกกี้รสพระธรรม ส่วนฝั่งที่ไม่เห็นด้วยก็มองว่า การเอาพระเครื่องมาทำแบบนี้คือการลบหลู่ศาสนาและเป็นบาป ลบหลู่พระบรมศาสดา เป็นสิ่งที่เหยียดหยาม สะเทือนใจชาวพุทธเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนคนที่เห็นด้วย มองว่า มันเป็นโอกาสทางการตลาด และเราไม่ควรยึดติดกับสิ่งที่เป็นนามธรรมขนาดนั้น อย่างญี่ปุ่นก็เคยทำขนมลายพระมาแล้ว ก็ไม่มีใครดราม่าอะไร แถมขายดีอีกต่างหาก สิ่งที่สำคัญที่สุดของการนับถือศาสนาคือ สามารถนำคำสอนพระพุทธเจ้ามาใช้ได้จริงไหม ไม่ใช่เรื่องรูปเคารพ อีกประเด็นหนึ่งที่ฝั่งคนเห็นด้วยสวนไปคือ ทีปลัดขิกยังกราบไหว้กันได้ เรื่องแค่นี้กลับอ่อนไหว
ก่อนหน้านี้ เคยมีร้านทำขนมอาลัวพระเครื่องมาแล้ว และเจอดราม่าทำนองเดียวกัน จนสุดท้ายสำนักพุทธศาสนาฯ ก็ได้ออกมาติงว่า การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เพราะพระเครื่องเป็นสิ่งที่หลายคนเคารพ ไม่ควรทำมาทำเป็นขนม พร้อมกับนำกำลังทหารบุกถึงบ้าน จนเจ้าของเลิกทำขาย
อ่านข่าว : สำนักพุทธฯ พาทหารบุกบ้าน คุยอาลัวพระเครื่อง เล่นเกินเบอร์ไปไหม - เจ้าของหยุดผลิตแล้ว