อ้างเป็นเจ้าหน้าที่สรรพสามิต บุกค้นร้านหม่าล่า ยึดใบอนุญาตขายเหล้า - บุหรี่ จนต้องร้องเรียน สุดท้ายเป็นเจ้าหน้าที่จริง เหตุเกิดจากความเข้าใจผิด
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ข่าวช่องวัน รายงานว่า ที่ร้านหม่าล่าแห่งหนึ่งมีการลงคลิปวงจรปิด ที่มีรถตู้คันหนึ่งจอดหน้าร้าน จากนั้นมีชาย 4 คน มีคนหนึ่งสวมชุดสีน้ำเงินเข้ม ติดป้ายเป็นเจ้าหน้าที่สรรพสามิต เข้ามาขอดูใบอนุญาตการประกอบธุรกิจ ใบอนุญาตการขายเหล้า บุหรี่ ก่อนที่จะหยิบใบอนุญาตที่ติดบนกำแพงร้านมาดู
ส่วนคนอื่น ๆ ที่ติดตามมาด้วยอีก 3 คน ก็กระจายไปดูตามจุดต่าง ๆ ของร้าน เช่น ห้องน้ำ ห้องนอน แล้วก็ยึดใบอนุญาตตัวจริงไป
หลังจากนั้น คุณสมสกุล และทนายความ จึงเดินทางมาร้องเรียนที่กรมสอบสวนกลาง พร้อมให้ข้อมูลว่า เธอเพิ่งจะเปิดร้านแค่ 4 เดือน วันที่ 2 พฤศจิกายน มีชาย 4 คนอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สรรพสามิตมาขอตรวจใบอนุญาต ไม่มีหมายค้น แล้วก็ยึดใบอนุญาตจำหน่ายสุราและบุหรี่ กลัวว่าในอนาคตจะย้อนกลับมาเรียกเงินหรือกลั่นแกล้งร้านอีก เพราะมีคนโดนกันเยอะ ยืนยันว่า ร้านทำมาหากินสุจริต ลูกน้องเป็นคนไทยและเมียนมาถูกกฎหมาย
ส่วนความผิด เจ้าหน้าที่ระบุว่า อาจมีความผิดเข้าตรวจโดยไม่มีหมายค้น กับลักทรัพย์เอาใบอนุญาตได้
สรรพสามิต ชี้แจง ทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ต่อมา เฟซบุ๊ก กระทรวงการคลัง : Ministry of Finance ชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่า บุคคลที่อยู่ในข่าวเป็นเจ้าหน้าที่สรรพสามิตภาคที่ 10 จำนวน 6 ราย ประกอบด้วยข้าราชการ 2 ราย ลูกจ้างชั่วคราว 2 ราย และพนักงานขับรถ 2 ราย ได้เข้าตรวจสอบใบอนุญาตขายสุราและยาสูบที่ร้านขายอาหารจีน (ร้านหม่าล่า) เขตห้วยขวาง โดยการตรวจสอบนั้นพบว่ามีใบอนุญาตถูกต้อง จึงขอให้เจ้าของร้านเซ็นในใบอนุญาตตรวจค้น ไม่มีการดำเนินคดีใด ๆ
ส่วนประเด็นการนำใบอนุญาตสุราและยาสูบไป ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝง แต่เกิดจากเหตุสุดวิสัย ตอนนี้มีการนำใบอนุญาตดังกล่าวไปคืนเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องที่เจ้าหน้าที่ไปยังชั้น 2 ของร้านโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอชี้แจงว่า ร้านมีลักษณะ 2 ชั้น ในขณะเข้าตรวจค้นแม้ชั้น 2 จะยังไม่เปิดให้บริการ ก็ยังสามารถตรวจสอบได้
นอกจากนี้ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มาตรา 123 เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบสิ่งผิดกฎหมายได้ในเวลาทำการของสถานประกอบการโดยไม่ต้องมีหมายค้นและแจ้งให้เจ้าของร้านทราบมาก่อน จึงเป็นการกระทำที่มีความชอบธรรม ปฏิบัติตามระเบียบราชการ ไม่มีเจตนาให้ผู้ประกอบการเสียหาย
ในเรื่องข้อกังวลของผู้ประกอบการที่ถูกนำใบอนุญาตขายสุราและยาสูบไป ทางกรมไม่ได้เอาไปดำเนินคดีใด ๆ เพราะผู้ประกอบการปฏิบัติถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย แต่ถ้าใบอนุญาตของท่านเกิดความสูญเสีย สามารถขอออกใบอนุญาตใหม่ได้ที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ที่ร้านค้าตั้งอยู่
ส่วนเรื่องการแต่งกายที่ไม่เหมาะสม ไม่สวมเครื่องแบบระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ทางกรมจะมีบทลงโทษตามกฎ และกำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบราชการอย่างเคร่งครัด
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน, เฟซบุ๊ก กระทรวงการคลัง : Ministry of Finance
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ข่าวช่องวัน รายงานว่า ที่ร้านหม่าล่าแห่งหนึ่งมีการลงคลิปวงจรปิด ที่มีรถตู้คันหนึ่งจอดหน้าร้าน จากนั้นมีชาย 4 คน มีคนหนึ่งสวมชุดสีน้ำเงินเข้ม ติดป้ายเป็นเจ้าหน้าที่สรรพสามิต เข้ามาขอดูใบอนุญาตการประกอบธุรกิจ ใบอนุญาตการขายเหล้า บุหรี่ ก่อนที่จะหยิบใบอนุญาตที่ติดบนกำแพงร้านมาดู
ส่วนคนอื่น ๆ ที่ติดตามมาด้วยอีก 3 คน ก็กระจายไปดูตามจุดต่าง ๆ ของร้าน เช่น ห้องน้ำ ห้องนอน แล้วก็ยึดใบอนุญาตตัวจริงไป
หลังจากนั้น คุณสมสกุล และทนายความ จึงเดินทางมาร้องเรียนที่กรมสอบสวนกลาง พร้อมให้ข้อมูลว่า เธอเพิ่งจะเปิดร้านแค่ 4 เดือน วันที่ 2 พฤศจิกายน มีชาย 4 คนอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สรรพสามิตมาขอตรวจใบอนุญาต ไม่มีหมายค้น แล้วก็ยึดใบอนุญาตจำหน่ายสุราและบุหรี่ กลัวว่าในอนาคตจะย้อนกลับมาเรียกเงินหรือกลั่นแกล้งร้านอีก เพราะมีคนโดนกันเยอะ ยืนยันว่า ร้านทำมาหากินสุจริต ลูกน้องเป็นคนไทยและเมียนมาถูกกฎหมาย
ส่วนความผิด เจ้าหน้าที่ระบุว่า อาจมีความผิดเข้าตรวจโดยไม่มีหมายค้น กับลักทรัพย์เอาใบอนุญาตได้
สรรพสามิต ชี้แจง ทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ต่อมา เฟซบุ๊ก กระทรวงการคลัง : Ministry of Finance ชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่า บุคคลที่อยู่ในข่าวเป็นเจ้าหน้าที่สรรพสามิตภาคที่ 10 จำนวน 6 ราย ประกอบด้วยข้าราชการ 2 ราย ลูกจ้างชั่วคราว 2 ราย และพนักงานขับรถ 2 ราย ได้เข้าตรวจสอบใบอนุญาตขายสุราและยาสูบที่ร้านขายอาหารจีน (ร้านหม่าล่า) เขตห้วยขวาง โดยการตรวจสอบนั้นพบว่ามีใบอนุญาตถูกต้อง จึงขอให้เจ้าของร้านเซ็นในใบอนุญาตตรวจค้น ไม่มีการดำเนินคดีใด ๆ
ส่วนประเด็นการนำใบอนุญาตสุราและยาสูบไป ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝง แต่เกิดจากเหตุสุดวิสัย ตอนนี้มีการนำใบอนุญาตดังกล่าวไปคืนเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องที่เจ้าหน้าที่ไปยังชั้น 2 ของร้านโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอชี้แจงว่า ร้านมีลักษณะ 2 ชั้น ในขณะเข้าตรวจค้นแม้ชั้น 2 จะยังไม่เปิดให้บริการ ก็ยังสามารถตรวจสอบได้
นอกจากนี้ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มาตรา 123 เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบสิ่งผิดกฎหมายได้ในเวลาทำการของสถานประกอบการโดยไม่ต้องมีหมายค้นและแจ้งให้เจ้าของร้านทราบมาก่อน จึงเป็นการกระทำที่มีความชอบธรรม ปฏิบัติตามระเบียบราชการ ไม่มีเจตนาให้ผู้ประกอบการเสียหาย
ในเรื่องข้อกังวลของผู้ประกอบการที่ถูกนำใบอนุญาตขายสุราและยาสูบไป ทางกรมไม่ได้เอาไปดำเนินคดีใด ๆ เพราะผู้ประกอบการปฏิบัติถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย แต่ถ้าใบอนุญาตของท่านเกิดความสูญเสีย สามารถขอออกใบอนุญาตใหม่ได้ที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ที่ร้านค้าตั้งอยู่
ส่วนเรื่องการแต่งกายที่ไม่เหมาะสม ไม่สวมเครื่องแบบระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ทางกรมจะมีบทลงโทษตามกฎ และกำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบราชการอย่างเคร่งครัด
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน, เฟซบุ๊ก กระทรวงการคลัง : Ministry of Finance