อดีตชุดจับกุม นาย จ. เปิดภาพวันที่จับกุม เชื่อเสี่ยแป้ง นาโหนด ถูกอัยการ บ. หักหลัง ตามที่ออกมาทำคลิปตัดพ้อ หลอกให้วางแผนปล้นผู้ต้องหา สุดท้ายโดนคดีคนเดียว
จากกรณี นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด อัดคลิประบายความในใจถึงเรื่องราวที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจ จากคดีปล้นผู้ต้องหาคดียาเสพติดจากตำรวจ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2562 แต่ถูกดำเนินคดีเพียงคนเดียว ส่วนกลุ่มคนวางแผนที่มีทั้ง อัยการ บ., ตำรวจยศจ่า 2 คน, ประธาน ต. และพ่อนาย จ. ผู้ต้องหาคดียาเสพติด กลับลอยนวล และยืนกรานจะไม่มอบตัวจนกว่าจะมีการนำตัวอัยการรายดังกล่าวมาดำเนินคดีนั้น
อ่านข่าว : เสี่ยแป้ง นาโหนด แจงหนีเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม ชี้ ตร. ไม่ได้ไปจับ แต่ตั้งใจวิสามัญฯ !
อ่านข่าว : เสี่ยแป้ง นาโหนด ปล่อยคลิปรอบ 2 ลั่นมอบตัวก็คือตาย จี้ไปถาม ตร. ตนยิงสวนจริงไหม
ล่าสุด (26 พฤศจิกายน 2566) รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ เสาร์-อาทิตย์ ทางช่อง 3 รายงานว่า พันตำรวจโท วีระศักดิ์ คงเพชร อดีต ผบ.ร้อย ตชด.434 พัทลุง หนึ่งในตำรวจชุดจับกุมนาย จ. เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2562 ออกมาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว ระบุว่า ก่อนที่ตนเองจะจับกุมนาย จ. ได้จับเครือข่ายยาเสพติด 1 คนจาก จ.สุราษฎร์ธานี จึงขยายผลทราบว่ามีหัวหน้าใหญ่คือ นายต้น ฉายา "ต้น พม่า" โดยมีข้อมูลการแชตระหว่างเครือข่ายรายนี้กับนายต้น ว่ามีการซื้อขายยาบ้ากับ นาย จ.
โดยมีการนำยาบ้าไปให้ 17 เป้ รวม 850 มัด มัดละ 15,600 บาท รวมเป็นเงิน 13 ล้านกว่าบาท ซึ่ง นาย จ. มีการจ่ายเงินมาแล้วแค่ 2.9 ล้านบาท ยังค้างจ่ายอยู่อีกกว่า 10 ล้านบาท
ด้วยเหตุนี้จึงมีการขยายผลไปจับกุม นาย จ. ที่บ้านพัก ซึ่งระหว่างนั้นมีการถ่ายภาพและบันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐาน จึงมีคลิปเสียงตำรวจที่คุยกับ นาย จ. ให้นำยาบ้าที่เอาไปมาส่งคืน โดยนัดให้นำยาบ้าที่เหลือ 5 เป้ จำนวน 300 นัดมาวางไว้ ซึ่ง นาย จ. พยายามต่อรองว่าจะขอไม่ถูกจับถ้ายอมทำตาม และจะไปบวช
ต่อมา นาย จ. ได้โทรศัพท์ไปหาลูกพี่ ซึ่งทราบภายหลังว่าคือ "อัยการ บ." เพื่อให้ลูกน้องนำยาเสพติดของกลางที่เหลือมาให้ตำรวจ โดยอ้างว่าเจ้าของยาบ้ามาทวงคืน เพราะจ่ายเงินไม่ครบ ซึ่งระหว่างนั้นตำรวจได้ถ่ายคลิปและบันทึกบทสนทนาไว้ทั้งหมด
ระหว่างนั้นชุดจับกุมได้ให้ พันตำรวจโท วีระศักดิ์ ขอกำลังเสริม เพื่อจะบุกรวบตัวเครือข่ายที่นำยาบ้ามาส่ง กระทั่งถึงเวลานัดหมายในอีก 1 ชั่วโมงต่อมา ในพื้นที่ ต.นาขยาด อ.ควนขนุน จ.พัทลุง กลับมีรถตู้ปริศนา 1 คัน และกระบะสีดำ 2 คัน ขับมาประกบหน้า-หลัง รถของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม
ตอนนั้นจึงมีชายคนหนึ่ง ทราบภายหลังว่าคือ เสี่ยแป้ง นาโหนด ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดที่บุกมาชิงตัว ถามตำรวจว่า "อ่าว เป็นตำรวจจริง ๆ เหรอ ไหนเอาบัตรตำรวจมาดู" ชุดจับกุมจึงแสดงบัตรให้ดู
ตอนนั้นเสี่ยแป้งจึงพูดกลางวงที่ชิงตัวประกัน ต่อว่า นาย จ. ว่า ไหนลูกพี่มึงบอกว่าเป็นโจรมาชิงตัวมึงไป อัยการบอกว่าโจรจับมึงไป ถ้ากูรู้ว่าเป็นตำรวจกูไม่มาหรอก ทำไมหลอกกูแบบนี้
ระหว่างนั้น นาย จ. หนีลงจากรถของชุดจับกุม และยังเข้าไปแย่งปืนของเจ้าหน้าที่ แม้เสี่ยแป้งจะเตือนว่าห้ามยิงตำรวจ แต่ นาย จ. ไม่ฟัง และยิงใส่ตำรวจ 1 คนจนบาดเจ็บที่ขา ไม่ใช่เสี่ยแป้งเป็นคนยิง จากนั้นได้พากันหลบหนี โดย นาย จ. นำโทรศัพท์มือถือที่ตำรวจบันทึกการจับกุมไปด้วย
ทั้งนี้ พันตำรวจโท วีระศักดิ์ ยืนยันว่าเรื่องที่เสี่ยแป้งมาอัดคลิปเปิดเผยนั้น เป็นเรื่องจริง
ข่าวช่อง 3 มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากที่ พันตำรวจโท วีระศักดิ์ ทราบว่าคนที่นำทีมมาชิงตัว นาย จ. ไปคือเสี่ยแป้ง ก็ได้โทรศัพท์ไปถามเรื่องราวจากเสี่ยแป้ง ว่าทำไมจึงทำแบบนี้ โดยเสี่ยแป้งบอกว่า ไม่ทราบว่าคนที่จับกุมนาย จ. ไปคือตำรวจ เพราะก่อนที่จะเกิดเรื่อง เสี่ยแป้งได้รับโทรศัพท์จาก อัยการ บ. และประธาน ต. รวมถึงพ่อของ นาย จ. ขอให้ไปช่วยเหลือ นาย จ. ซึ่งโดนกลุ่มรีดไถเกี่ยวกับกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดอุ้มไป ไม่ได้บอกความจริงว่าถูกตำรวจจับ
พันตำรวจโท วีระศักดิ์ จึงให้นายแป้งนำอาวุธปืนที่พรรคพวกปล้นตำรวจไปมาคืน ซึ่งเสี่ยแป้งชี้ว่าตัวเองไม่ได้เอาไป คนที่เอาปืนตำรวจไปคือ ประธาน ต. จ่าคนหนึ่ง และนาย จ. รวม 3 กระบอก ซึ่งเสี่ยแป้งได้ขอเวลา 2 วันในการนำปืนทั้งหมดมาคืนให้ตำรวจ โดยให้ลูกน้องใส่ถุงมาคืนให้ ก่อนที่เสี่ยแป้งและพวกทั้งหมดจะถูกจับกุมในภายหลัง แต่ต่อมาตนไม่รู้ว่ากระบวนการแจ้งข้อหาเกิดอะไรขึ้น เพราะกลุ่มที่เข้าไปชิงตัวประกันกลับไม่มีใครโดนคดี บางรายประกันตัวออกมาได้ แต่กลับดำเนินคดีและคัดค้านการประกันตัวเสี่ยแป้งเพียงคนเดียว
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้ เสาร์-อาทิตย์
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้ เสาร์-อาทิตย์
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้ เสาร์-อาทิตย์
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้ เสาร์-อาทิตย์
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้ เสาร์-อาทิตย์
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเด่นเย็นนี้ เสาร์-อาทิตย์, ช่อง 3