x close

อัยการสูงสุด เผย ทักษิณ คดี ม.112 แจ้งอายัดตัวแล้ว เจ้าตัวปฏิเสธข้อหา-ขอความเป็นธรรม

          อัยการสูงสุด แถลงปม ทักษิณ ถูกแจ้งข้อหา ม.112 - พ.ร.บ.คอมพ์ แจ้งอายัดตัวกับกรมราชทัณฑ์แล้ว เจ้าตัวปฏิเสธข้อหา ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม

          วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักงานอัยการสูงสุด แถลงความคืบหน้า คดีนายทักษิณ ชินวัตร ถูกกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยระบุว่า คดีนี้เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 สำนักงานอัยการสูงสุดได้รับสำนวนคดีการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร จากพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ต.อ. โอฬาร สุขเกษม ผู้กล่าวหานายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหา ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ


          เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2558 ที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) และประเทศไทยเกี่ยวพันกัน อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยคณะทำงานพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้อง

          เนื่องจากคดีนี้ เป็นคดีความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทย ได้กระทำลงนอกราชอาณาจักรไทย จึงเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของอัยการสูงสุดเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินคดี ซึ่ง ร.ต.ต. พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุดในขณะนั้น ได้มีความเห็นเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2559 ตรวจพิจารณาสำนวนแล้ว ได้มีความเห็นควรสั่งฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร ตามข้อกล่าวหา


          แต่เนื่องจากขณะนั้นผู้ต้องหาหลบหนี อัยการสูงสุดจึงแจ้งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการออกหมายจับและพนักงานสอบสวนได้มีคำขอต่อศาลอาญาและออกหมายจับเรียบร้อยแล้ว


          ต่อมา เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 นายทักษิณ ชินวัตร ได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยและถูกควบคุมเพื่อรับโทษในคดีอาญาเรื่องอื่น พนักงานสอบสวนได้นำหมายจับไปแจ้งอายัดผู้ต้องหาไว้กับกรมราชทัณฑ์เรียบร้อยแล้ว ต่อมาวันที่ 17 มกราคม 2567

          นายกุลธนิต มงคลสวัสดิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน และคณะ ร่วมกับพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดี ได้เข้าแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมกับพฤติการณ์และข้อเท็จจริงทางคดีให้กับนายทักษิณ ชินวัตร ทราบแล้ว ปรากฏว่าผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ พร้อมกับยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด

          ซึ่งอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ได้ส่งบันทึกคำให้การชั้นสอบสวน และหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหาให้กับพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบดำเนินคดี ประกอบสำนวนเพื่อส่งให้กับอัยการสูงสุดพิจารณา ขณะนี้สำนวนคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคดีกิจการอัยการสูงสุด ตรวจพิจารณา และทำความเห็นเบื้องต้นเสนออัยการสูงสุดเพื่อพิจารณามีความเห็นและคำสั่งทางคดีต่อไป


          โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดขอเรียนเพิ่มเติมว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งอายัดตัวนายทักษิณ ชินวัตร ไว้กับทางกรมราชทัณฑ์ตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว ส่วนผลความคืบหน้าทางคดีเป็นประการใด สำนักงานอัยการสูงสุดจะแถลงให้ทราบต่อไป
     
          ด้าน นายประยุทธ เพรชคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงช่วงหนึ่งถึงกรณีนี้ ระบุว่า  ทางอัยการสูงสุดมีอำนาจในการออกความเห็น 3 อย่างของสำนวนนี้ คือ

          1. หากเห็นว่าข้อเท็จจริงครบถ้วน สามารถสั่งให้พนักงานอัยการไปสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม

          2. หากข้อเท็จจริงเพียงพอแล้วให้ยืนตามความเห็นเดิมที่ว่า ให้สั่งฟ้องนายทักษิณ ตามข้อกล่าวหา

          3. หากพิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติกรรมไม่เข้าข่ายความผิดสามารถมีความเห็นไม่สั่งฟ้องนายทักษิณได้

          ทั้งนี้ ต้องพิจารณาตามคำร้องหนังสือขอความเป็นธรรมที่นายทักษิณ แย้งมาว่ามีข้อต่อสู้อะไรที่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงในสำนวนได้ หากไม่มีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมได้

          ส่วนประเด็นการอายัดตัวนายทักษิณ ต้องรอคำสั่งความชัดเจน จากกรมราชทัณฑ์ หากนายทักษิณ ได้รับการพักโทษในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้  กรมราชทัณฑ์จะต้องแจ้งพนักงานสอบสวน ล่วงหน้า 7 วันก่อนปล่อยตัว เพื่อให้ไปรับตัวนายทักษิณ มาดำเนินคดีในคดี ม.112 และเมื่อพนักงานสอบสวนไปรับตัวแล้วจะพิจารณาเรื่องให้ประกันตัวหรือปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นพนักงานสอบสวน หรือจะไปดำเนินการขั้นตอนการฝากขังผัดแรกของในคดี 112 ก่อนส่งหนังสือมาแจ้งมายังอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาเอกสารการร้องขอความเป็นธรรมและพิจารณาสำนวนคดี

          ประเด็นความกังวลสำหรับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของนายทักษิณ จะทำให้คดียืดเยื้อหรือไม่นั้น  โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ยืนยันว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้น เนื่องจากได้ถอดบทเรียนจากกรณีของบอส อยู่วิทยา พร้อมปรับแก้ระเบียบในกรณีการร้องขอความเป็นธรรม โดยผู้ถูกกล่าวหาจะต้องเป็นผู้มายื่นคำร้องด้วยตัวเอง ไม่สามารถให้ทนายความหรือบุคคลบุคคลอื่นที่รับมอบอำนาจมายื่นให้โดยเด็ดขาด และหากเห็นว่าเป็นการยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเพื่อประวิงเวลา อัยการสูงสุดก็มีอำนาจในการยุติการร้องขอความเป็นธรรมได้เช่นกัน พร้อมขอให้สังคมเชื่อมั่นการทำงานของอัยการสูงสุด ว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักอัยการสูงสุด, ข่าวช่อง 3
 
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อัยการสูงสุด เผย ทักษิณ คดี ม.112 แจ้งอายัดตัวแล้ว เจ้าตัวปฏิเสธข้อหา-ขอความเป็นธรรม โพสต์เมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 15:21:30 12,084 อ่าน
TOP