ดราม่าลูกค้าให้ 1 ดาว เหตุคาเฟ่เขาใหญ่เก็บค่าแรกเข้า เจอสวน ทำธุรกิจไม่ได้ทำการกุศล !

         ดราม่า Bucolic Khaoyai คาเฟ่เขาใหญ่ เจอลูกค้าให้ 1 ดาว บอกเก็บค่าแรกเข้าเหมือนอุทยานไทย งานนี้เจอสวนกลับแซ่บ ๆ นี่คือธุรกิจไม่ใช่การกุศล ไม่เก็บเงินแล้วจะเอาที่ไหนมาบริหาร ?!
         วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 กำลังมีดราม่าเดือดปุด ๆ ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก เนื่องจากมีลูกค้ารายหนึ่งที่ใช้บริการคาเฟ่ Bucolic Khaoyai คาเฟ่กึ่งสวนสัตว์ ที่เปิดให้ลูกค้าเข้ามาแวะเล่นกับสัตว์ได้ โดยที่ลูกค้าคนนี้ให้รีวิวใน Google แค่ 1 ดาว พร้อมให้เหตุผลว่า "ไม่ดีครับ บังคับค่าแรกเข้าเหมือนพิพิธภัณฑ์อุทยานไทยเลยครับ"


         เจอ 1 ดาวเข้าไปแบบนี้ ทางคาเฟ่ก็คอมเมนต์ตอบโต้ทันควันว่า นี่คือการทำธุรกิจ ไม่ใช่ทำการกุศล ก็เลยไม่เปิดให้เข้าไปถ่ายรูปฟรี ๆ แล้วคูปองนี้ ก็สามารถนำไปเป็นส่วนลดทุกอย่างได้ในคาเฟ่ ไม่ได้เสียเปล่า มีโปรโมชั่นแถม แล้วคาเฟ่เราจะเหมือนอุทยานตรงไหน ถ้าหากลูกค้าไม่พอใจในกฎระเบียบของคาเฟ่ การเดินออกก็ไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่ถ้าเข้ามาแล้ว ก็ต้องเคารพกฎระเบียบของสถานที่

         ด้านคาเฟ่ยังทิ้งท้ายประเด็นเปรียบเทียบกับอุทยานไว้ด้วยว่า "อุทยานสร้างมาจากภาษีประชาชน ก็ยังมีการเก็บเงิน แล้วนี่สร้างมาจากเงินเก็บตรูเอง ทำไมต้องให้เข้าฟรี ฝากไว้ให้คิด"



         ทั้งนี้ บูโคลิก เขาใหญ่  เป็นคาเฟ่กึ่งรีสอร์ตที่อยู่ในสไตล์ธรรมชาติ นอกจากมีโซนที่พักแล้ว ก็ยังมีโซนคาเฟ่ โซนสวนสัตว์เล็ก ๆ ชมสัตว์ต่าง ๆ ที่อยู่ในคาเฟ่ ซึ่งตรงจุดนี้คาดว่า จะมีการเก็บค่าแรกเข้าด้วย

บุโคลิก เขาใหญ่ เคยตกเป็นข่าวดังมาแล้ว จากปมเด็กกรี๊ดจนเหยียบกระต่ายขาหัก

         ในเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา Bucolic Khaoyai เคยตกเป็นข่าวมาแล้ว หลังจากที่มีการติดป้ายว่า "ลูกค้าเด็ก ห้ามกรี๊ด ห้ามวิ่งในนี้ ฝ่าฝืนเชิญออกทันที ถ้ากลัว แนะนำว่าไม่ต้องเข้า" ทำเอาหลายคนดราม่า มองว่าคาเฟ่ติดป้ายแรงเกินไปไหม ถ้าหากไม่พร้อมที่จะให้บริการ ก็ไม่ควรเอากระต่ายออกมาเป็นจุดขาย ควรเอาไปไว้ในบ้าน ส่วนทางคาเฟ่ก็ตอบกลับว่า "เสือXค่ะไอ้เหี้X" จนคนที่โวยวายต้องลบคอมเมนต์ออกไป


         ทางคาเฟ่อธิบายเพิ่มเติมว่า สาเหตุเป็นเพราะก่อนหน้านี้มีเด็กเข้าไปในคอกกระต่าย แล้วเกิดกลัวจนส่งเสียงกรี๊ดออกมา เหยียบกระต่ายขาหัก จนต้องส่งน้องไปรักษาตัว ฉะนั้นการติดป้ายแบบนี้ก็เพื่อช่วยให้กระต่ายในคอกไม่ได้รับบาดเจ็บ และเป็นการกระทำที่ได้ผล แถมยังลดการเสียงดังในโซนนี้ถึง 90%


         ทั้งนี้ ร้านไม่ได้ห้ามเรื่องการให้เด็กเข้าไปในคอกกระต่าย แต่ถ้าลูกเป็นเด็กเปรตก็ไม่ควรให้เข้า ถ้าเป็นเด็กปกติเข้าได้ และที่สำคัญคือ เด็กที่สร้างปัญหาในสวนสัตว์นี้ มีมากกว่าที่คิด เป็นประสบการณ์ตรงที่ชวนทำให้ปวดหัวทั้งเจ้าของ พนักงาน และสัตว์เลี้ยง อีกทั้งยังมีกรณีศึกษาคาเฟ่กระต่ายจากที่อื่น ที่พ่อแม่ไม่สนใจลูก พาเข้าคอกกระต่ายแล้วไปทำร้ายทั้งกระโดดเหยียบ บีบคอ จนบาดเจ็บหรือตายก็มี


         อ่านข่าว : คาเฟ่ดังดัดนิสัยลูกค้าเด็ก ติดป้ายห้ามกรี๊ดไม่งั้นเชิญออก หลังแหกปากร้อง เหยียบกระต่ายขาหัก

บูโคลิก เขาใหญ่ เพิ่มมาตรการโซนสวนสัตว์ ห้ามอุ้ม ห้ามปีนรั้ว ห้ามเสียงดัง จำเป็นต้องทำทั้งนั้น  

         วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทางร้านมีโพสต์ข้อความว่า มีลูกค้ามาบ่นว่า โซนสวนสัตว์มีป้ายข้อห้ามติดเยอะมาก อุ้มสัตว์ก็ไม่ได้ ปีนรั้วก็ไม่ได้ เสียงดังก็ไม่ได้ บาดเจ็บไม่รับผิดชอบ เห็นแล้วรู้สึกอึดอัด ทางร้านก็ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง แต่ยืนยันว่า ทุกข้อห้ามที่ห้ามไป เคยเกิดขึ้นทั้งนั้น ไม่งั้นคงไม่จำเป็นต้องมีป้ายเยอะขนาดนี้ เปลืองเงินด้วย

         เมื่อตรวจสอบย้อนไปเรื่อย ๆ หลังเกิดเหตุดราม่าในเดือนตุลาคม 2566 ก็ยังคงมีผู้ปกครอง เด็ก ฝ่าฝืนกฎอยู่เสมอ บางเคสถึงแม้มีข้อห้ามว่า ห้ามเข้าคอกแกะ แต่ก็ยังแอบเข้าไป หรือบางเคสก็มีการนำหมามาคาเฟ่ แต่ไปกัดลูกค้าคนอื่นก็มี