เปิดความโหด ฆ่าล้างหนี้ 6 ศพ กลางโรงแรมดังในย่านราชประสงค์ พบคนวางยานัดแค่เจ้าหนี้ แต่เจ้าหนี้ดันไปนัดคนอื่นเพิ่ม ด้านตัวเองใส่ไซยาไนด์เข้าในน้ำชา แจกให้ดื่มรอบวง ส่วนลูกหนี้ดื่มคนสุดท้าย
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
จากกรณีข่าวสะเทือนขวัญ ที่มีการพบศพคนเวียดนาม และคนอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม 6 คน ในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านราชประสงค์ ซึ่งล่าสุดมีการสรุปแล้วว่า คนที่ลงมือนั้นคือ น.ส.เชอรีน ชอง คนอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม และเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตด้วย
อ่านเพิ่มเติม รู้ตัวแล้ว คนวางยาไซยาไนด์ 6 ศพคนเวียดนาม คาดเป็นการฆ่าล้างหนี้ ลูกหนี้ขอตายตามเจ้าหนี้ !
ด้านข่าวช่องวัน รายงานว่า จากการตรวจสอบสารที่อยู่ในแก้วเครื่องดื่ม พบว่า มีไซยาไนด์ผสมอยู่ในเครื่องดื่มดังกล่าว โดยคาดว่าผู้ที่วางยาคือ น.ส.เชอรีน ชอง (Sherine Chong) คนอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม อายุ 56 ปี
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
พล.ต.ต. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า เมื่อวานได้มีการเรียกลูกสาวของผู้ตายมาสอบปากคำ และเรียกสอบพยานแวดล้อมเพิ่มเติม แต่ละคนให้การเป็นประโยชน์ คาดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของการฆ่าล้างหนี้จากการกู้ยืมเงินกันทำธุรกิจ ในที่เกิดเหตุไม่มีคนนอกเข้า-ออก ไม่มีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง และน้องสาวของ น.ส. ธิ เหงียน เฟือง ลาน ที่บินเข้ามาพร้อมกัน แต่บินกลับไปก่อนตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม และมีการคาดการณ์ว่าเป็นคนที่ 7 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ทั้งนี้ เชอรีน ชอง
(สัญชาติอเมริกัน อายุ 56 ปี) ในฐานะเจ้าของห้องและผู้ก่อเหตุ ได้นัดกับนาย
ฮง ฟาม ธาน (สัญชาติเวียดนาม อายุ 49 ปี) และ น.ส. ธิ เหงียน เฟือง ลาน
(สัญชาติเวียดนาม อายุ 47 ปี) สองสามีภรรยา ให้มาเจอกันที่ห้อง จากนั้นทั้งสองสามีภรรยา ก็ไปนัดกับนาย ฮุง ดังวาน (สัญชาติอเมริกัน อายุ
55 ปี), นาย ดิน ซาน ฟู (สัญชาติเวียดนาม อายุ 37 ปี) และ น.ส. ธิ เหงียน
เฟือง (สัญชาติเวียดนาม อายุ 46 ปี) ให้มาเจออีก
จึงทำให้ในห้องมีทั้งห้องมีทั้งหมด 6 คน
เรื่องนี้เกิดจากการที่ นาง เชอรีน ชอง ได้ชักชวน นาย ฮง ฟาม ธาน และ ธิ เหงียน เฟือง ลาน สองสามีภรรยา มาร่วมลงทุนในธุรกิจก่อสร้าง มูลค่าประมาณสิบล้านบาท แต่มีปัญหาเรื่องหนี้สินและอาจมีการหลอกให้ลงทุน มีการฟ้องร้องกัน ในตอนแรกทั้งหมดจะนัดไปเจอกันที่ญี่ปุ่น เพื่อเคลียร์ปัญหานอกรอบ แต่มีปัญหาเรื่องวีซ่า จึงเปลี่ยนมาเจอที่ไทยแทน และมีนัดหมายจะไปไหว้พระที่วัดยานนาวา นางเชอรีนจึงเตรียมวางยา โดยเอาไซยาไนด์ใส่ในน้ำชาให้ทุกคนดื่ม และตัวเองดื่มคนสุดท้ายเพื่อฆ่าตัวตายหนีความผิด และในกล้องวงจรปิด ยังมีภาพของ เชอรีน ชอง ที่ตามประกบนาง ธิ เหงียน เฟือง ลาน เจ้าหนี้ เข้าไปในห้องที่เธอเปิดไว้อีกด้วย
นอกจากนี้ ทาง FBI ยังเข้ามาคลี่ปมด้วย เพราะมีคนอเมริกันเข้ามาเกี่ยว
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
จากกรณีข่าวสะเทือนขวัญ ที่มีการพบศพคนเวียดนาม และคนอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม 6 คน ในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านราชประสงค์ ซึ่งล่าสุดมีการสรุปแล้วว่า คนที่ลงมือนั้นคือ น.ส.เชอรีน ชอง คนอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม และเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตด้วย
อ่านเพิ่มเติม รู้ตัวแล้ว คนวางยาไซยาไนด์ 6 ศพคนเวียดนาม คาดเป็นการฆ่าล้างหนี้ ลูกหนี้ขอตายตามเจ้าหนี้ !
ด้านข่าวช่องวัน รายงานว่า จากการตรวจสอบสารที่อยู่ในแก้วเครื่องดื่ม พบว่า มีไซยาไนด์ผสมอยู่ในเครื่องดื่มดังกล่าว โดยคาดว่าผู้ที่วางยาคือ น.ส.เชอรีน ชอง (Sherine Chong) คนอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม อายุ 56 ปี
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
พล.ต.ต. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า เมื่อวานได้มีการเรียกลูกสาวของผู้ตายมาสอบปากคำ และเรียกสอบพยานแวดล้อมเพิ่มเติม แต่ละคนให้การเป็นประโยชน์ คาดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของการฆ่าล้างหนี้จากการกู้ยืมเงินกันทำธุรกิจ ในที่เกิดเหตุไม่มีคนนอกเข้า-ออก ไม่มีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง และน้องสาวของ น.ส. ธิ เหงียน เฟือง ลาน ที่บินเข้ามาพร้อมกัน แต่บินกลับไปก่อนตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม และมีการคาดการณ์ว่าเป็นคนที่ 7 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบน้ำที่อยู่ในก้นแก้ว พบยาพิษไซยาไนด์ ที่คาดว่า เชอรีน ชอง เป็นคนวางยาลงไป
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
เรื่องนี้เกิดจากการที่ นาง เชอรีน ชอง ได้ชักชวน นาย ฮง ฟาม ธาน และ ธิ เหงียน เฟือง ลาน สองสามีภรรยา มาร่วมลงทุนในธุรกิจก่อสร้าง มูลค่าประมาณสิบล้านบาท แต่มีปัญหาเรื่องหนี้สินและอาจมีการหลอกให้ลงทุน มีการฟ้องร้องกัน ในตอนแรกทั้งหมดจะนัดไปเจอกันที่ญี่ปุ่น เพื่อเคลียร์ปัญหานอกรอบ แต่มีปัญหาเรื่องวีซ่า จึงเปลี่ยนมาเจอที่ไทยแทน และมีนัดหมายจะไปไหว้พระที่วัดยานนาวา นางเชอรีนจึงเตรียมวางยา โดยเอาไซยาไนด์ใส่ในน้ำชาให้ทุกคนดื่ม และตัวเองดื่มคนสุดท้ายเพื่อฆ่าตัวตายหนีความผิด และในกล้องวงจรปิด ยังมีภาพของ เชอรีน ชอง ที่ตามประกบนาง ธิ เหงียน เฟือง ลาน เจ้าหนี้ เข้าไปในห้องที่เธอเปิดไว้อีกด้วย
นอกจากนี้ ทาง FBI ยังเข้ามาคลี่ปมด้วย เพราะมีคนอเมริกันเข้ามาเกี่ยว
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน