คนสงสัยคนขับรถหายไปไหนหลังเกิดเหตุ ล่าสุดมอบตัวแล้วที่ จ.อ่างทอง ตกใจจนหนีไปบ้านญาติ วงจรปิดชี้ พยายามเอาถังดับเพลิงมาช่วยก่อนหนี ส่วนอายุรถ 54 ปี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
กรณีเหตุสะเทือนใจ ไฟไหม้รถบัสนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต (ขาเข้า) หน้าห้างสรรพสินค้าเซียร์ รังสิต จนมีผู้เสียชีวิตที่ 23 ราย ส่วนใหญ่คือเด็กอนุบาล
เรื่องนี้สังคมให้ความสนใจพร้อมกับมีข่าวลือว่า คนขับรถได้หนีไปตั้งแต่หลังเกิดเหตุ ไม่มีการช่วยเหลือคนที่อยู่บนรถ หรือไม่ก็ควรจะอยู่รอตำรวจที่จุดเกิดเหตุ ไม่ควรหนีไปแบบนี้
ภาพจาก TikTok @wiwat20052536
วงจรปิดชี้ คนขับไม่ได้หนีทันที แต่หาถังดับเพลิงมาช่วย
วันที่ 2 ตุลาคม 2567 ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กมีการแชร์คลิปที่ถ่ายได้ขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ พบว่า คนขับรถบัสสวมชุดสีขาว ลายสีน้ำเงินตรงกลางลำตัว ได้วิ่งออกมาจากรถเพื่อนำถังดับเพลิงเข้าไปฉีดดับไฟ ไม่ได้หนีไปทันทีตามที่ข่าวลือออก
นอกจากนี้ เมื่อดูกล้องวงจรปิดจากถนนฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ จะเห็นว่า หลังจากคนขับลงจากรถ ก็วิ่งไปที่จุดที่เก็บถังดับเพลิงที่อยู่ข้างขวาของรถ แต่เหมือนใช้งานไม่ได้ จึงวิ่งออกไปเอาถังดับเพลิงที่อื่นมาใช้แทน
เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายสมาน จันทร์พุธ วัย 48 ปี คนขับรถคันดังกล่าว เข้ามอบตัวที่ สภ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ก่อนนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ
ภาพจาก TikTok @wiwat20052536
เผยเหตุผลทำไมคนขับรถถึงหนี
พล.ต.ต. ชยานนท์ มีสติ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้ร่วมสอบสวนด้วย เปิดเผยหลังการสอบสวนว่า คนขับบอกว่า ขับรถบัสมาเป็นคันที่ 2 ในขบวน ขับด้วยความเร็ว 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พอมาถึงจุดเกิดเหตุ รถเสียหลักคล้ายตกหลุม ทำให้รถคล้ายมีอาการยางระเบิดหรือถุงลมแตก จนเฉี่ยวกับรถเบนซ์คู่กรณี ตนพยายามควบคุมรถ แต่รถก็ชนกับแบริเออร์ข้างทาง จนเกิดประกายไฟ
หลังเกิดเหตุ ตนวิ่งไปหยิบถังดับเพลิงที่รถคันหลังที่ตามมาในขบวน ตอนนั้นรู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงหลบหนีจากจุดเกิดเหตุไปที่บ้านญาติใน จ.อ่างทอง ก่อนที่จะมามอบตัว
ภาพจาก TikTok @wiwat20052536
แจ้ง 4 ข้อหาคนขับ รอพิสูจน์ว่าแจ้งข้อหาเจ้าของรถหรือไม่
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนแจ้ง 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ขับรถโดยประมาทหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตราย แก่บุคคลหรือทรัพย์สิน, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่ บุคคลและไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือ ไม่แสดงตัว และไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานเป็นเหตุให้บุคคล ถึงแก่ความตาย
หลังจากนี้จะแจ้งข้อกล่าวหากับเจ้าของรถหรือไม่ อยู่ระหว่างการพิสูจน์สภาพรถ รวมถึงถังก๊าซ ตอนนี้รถอยู่ที่อนุสรณ์สถาน เพื่อรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอีกครั้งในวันนี้ เวลาประมาณ 09.00 น.
สำหรับอาการผู้บาดเจ็บ 3 คน พบว่า มีอาการสีแดง 2 คน คือ เด็กอายุ 7 ขวบและ 9 ขวบ รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อีกคนหนึ่งอายุ 14 ปี รักษาที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิต
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
รถคันนี้จดทะเบียนมาแล้ว 50 ปี
จากการตรวจสอบข้อมูลบริษัทประกัน พบว่า รถบัสคันดังกล่าวจดทะเบียนครั้งแรก 19 กุมภาพันธ์ 2513 ระบุประเภทรถโดยสารไม่ประจำทาง 41 ที่นั่ง น้ำหนักรวม 16,600 กิโลกรัม มีการดัดแปลงเครื่องยนต์รถจากอีซูซุ เป็นยี่ห้อเบนซ์ แต่ตอนยื่นกรมการขนส่งฯ ไม่ได้ยื่นจดทะเบียนติดตั้งก๊าซเอ็นจีวี ไม่เหมือนตอนสมัครบริษัทประกัน บอกว่าติดตั้งก๊าซเอ็นจีวี
ขณะที่ทนายความพาผู้ประกอบการบริษัทรถบัส พบตำรวจ สภ.คูคต ยืนยันว่า ตัวรถมีการตรวจสอบตามระบบขนส่งตลอด การจดทะเบียนต่าง ๆ ครบถ้วน และแจ้งต่อนายทะเบียนทุกครั้ง ส่วนการติดตั้งก๊าซก็ติดตั้งตามระบบวิศวกรรมของขนส่ง ตัวรถก็ตรวจสภาพตลอดตามภาษีประจำปี ประตูฉุกเฉินได้รับการตรวจสอบตามปกติ เรื่องที่เปิดประตูไม่ได้ เพราะประตูฉุกเฉินมีน้ำหนักมาก เด็กและครูอาจใช้แรงไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการพร้อมเยียวยาและยอมรับผิดในทางแพ่งและพาณิชย์
ข่าวไฟไหม้รถนักเรียนที่เกี่ยวข้อง
- พยานเล่านาที ไฟไหม้รถบัส เพลิงโหมหนักจนช่วยไม่ไหว - เผยรายชื่อผู้เสียชีวิต ป.1 - ม.3
- เผยนาทีพบร่าง คุณครูผู้จากไปในเหตุไฟไหม้รถบัส ยังกอดนักเรียนไว้ในอ้อมแขน
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้