บทเรียนเตือนใจ หนุ่มขายไตซื้อ iPhone เมื่อ 14 ปีก่อน เผยชะตากรรมล่าสุด จุดจบเศร้ากว่าที่คิด ราคาที่ต้องจ่ายทั้งชีวิต

ภาพจาก Weibo
วันที่ 25 กันยายน 2568 เว็บไซต์ Soha เผยเรื่องราวของชายชาวจีนรายหนึ่ง
ในอดีตเมื่อ 14 ปีก่อน สมัยที่เขายังเป็นวัยรุ่น
เขาตัดสินใจยอมแลกอวัยวะสำคัญในร่างกาย
เพียงเพื่อเป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือ iPhone แต่ปรากฏว่าหลังจากเวลาผ่านไป
มันกลับกลายเป็นบทเรียนสุดเศร้ากว่าที่คิด
เพราะมันไม่ใช่แค่ส่วนหนึ่งส่วนใดในร่างกายของเขาที่หายไป
แต่มันคือทั้งชีวิต
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2553 โทรศัพท์มือถือ iPhone 4 ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรก ในเดือนมิถุนายน หลังจากนั้นไม่นาน สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และถือเป็นเครื่องชี้วัด "ความมีระดับ" ในหมู่คนหนุ่มสาว เสี่ยวหวัง ในวัย 17 ปี ซึ่งขณะนั้นกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย เห็นเพื่อน ๆ ในชั้นเรียนมีโทรศัพท์ iPhone 4 กันหลายคน ส่วนเขาได้เพียงแค่มอง
หวัง อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทของมณฑลอานฮุย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ครอบครัวของเขามีฐานะลำบาก จึงไม่มีกำลังที่จะสานฝันให้เขาเหมือนคนอื่น แต่แล้วในวันหนึ่งหวังได้บังเอิญไปพบโฆษณาที่ดึงดูดใจบนอินเทอร์เน็ตระบุว่า "คนเราไม่จำเป็นต้องมีไตสองข้าง แค่ข้างเดียวก็เพียงพอต่อการดำรงชีวิตแล้ว ทำไมไม่ขายไตข้างหนึ่งเพื่อให้มีเงินใช้บ้างล่ะ"
ในปี 2554 หวังตัดสินใจติดต่อกลุ่มคนแปลกหน้าตามในโฆษณา โดยที่ปิดเรื่องนี้ไม่ให้ครอบครัวรู้ ก่อนที่จะตกลงยินยอมขายไตหนึ่งข้าง ซึ่งเป็นการดำเนินการผ่าตัดที่ผิดกฎหมาย หลังจากขายไตไป หวังได้รับเงินมา 20,000 หยวน (ราว 100,000 บาทในขณะนั้น) ซึ่งเพียงพอให้เขาซื้อ iPhone 4 แถมยังเหลือพอให้ซื้อ iPad 2 อีกเครื่อง
หวังรู้สึกภาคภูมิใจที่สามารถเชิดหน้าชูตาได้ในหมู่เพื่อน ๆ แต่ความลับไม่มีในโลก เมื่อครอบครัวของเขาเห็นอุปกรณ์ราคาแพง จึงซักถามว่าหวังเอาเงินมาจากไหน จนกระทั่งเขายอมรับสารภาพว่าไปขายไตมาหนึ่งข้าง ซึ่งทำให้แม่ของเขารู้สึกช็อกราวกับฟ้าถล่ม และในขณะนั้นหวังยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ แต่เขาเชื่อตามคำรับรองของผู้ที่ดำเนินการผ่าตัดว่า "แผลจะหายภายใน 1 สัปดาห์"
ต่อมาในปี 2555 ทางการจีนสามารถทลายแก๊งค้าอวัยวะนี้ได้ โดยผู้จัดตั้งกลุ่มต้องจ่ายค่าชดเชยให้ครอบครัวของหวังเป็นเงิน 1.48 ล้านหยวน (ราว 7.4 ล้านบาทในขณะนั้น) แม้จะเป็นเงินจำนวนมาก แต่ก็ไม่อาจทดแทนสิ่งที่สูญเสียไปได้ รายงานเผยว่า หวังต้องเข้ารับการฟอกไตเป็นประจำ และต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยครั้ง เนื่องจากภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น มีไข้สูง อ่อนเพลีย รวมถึงมีเลือดปนในปัสสาวะ
ปัจจุบัน หวังอายุ 31 ปี เป็นเสมือนผู้ป่วยที่ต้องนอนติดเตียง โดยจัดอยู่ในกลุ่มความพิการระดับ 3 มีภาวะไตวาย 75 เปอร์เซ็นต์ และไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป เมื่อนึกย้อนไปเมื่อ 14 ปีก่อน เขายอมรับว่าได้รับบทเรียนที่มีราคาแพงมากกว่าชีวิต เขารู้สึกเสียใจอย่างที่สุดกับความหุนหันพลันแล่นในวัยเยาว์ แค่เพียงเพราะไม่อยากด้อยกว่าเพื่อน จุดจบจึงเศร้ามากกว่าที่คิด
ทุกครั้งคิดถึงเรื่องนี้ แม่ของหวังก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่ และอดไม่ได้ที่โทษตัวเอง โดยกล่าวว่า "ถ้าฉันซื้อโทรศัพท์ให้เขาตั้งแต่แรก บางทีเขาคงไม่เลือกเส้นทางนี้"






