ชายแดนไทย–กัมพูชา ตึงเครียดอีก ฝั่งเขมรอ้างไทยเปิดฉากยิงก่อน สื่อลงภาพคนเจ็บถูกยิง แต่ขับรถไปโรงพยาบาลเอง เลือดเต็มท้องแต่ขับรถชิล อะไรจะขนาดไหน

เที่ยงวันทันเหตุการณ์
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 สถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (12 พฤศจิกายน)
ฝั่งจังหวัดสระแก้ว มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ซึ่งข่าวจากกัมพูชาอ้างว่า
ทหารไทยยิงใส่ชาวบ้านที่หมู่บ้านเปรยจัน แต่ต่อมากองทัพบก
ก็ตอบโต้ว่าเป็นการบิดเบือนของกัมพูชา ข้อเท็จจริงคือ
ฝ่ายกัมพูชามีการเปิดฉากยิงป่วนใส่ไทย
ทำให้ต้องตอบโต้เพื่อระงับเหตุและป้องกันตัวเอง
เมื่อวานนี้กัมพูชามีการเผยแพร่คลิป โดยกล่าวหาทหารไทยว่า มีการยิงใส่ชาวบ้านกัมพูชา ที่หมู่บ้านเปรยจัน ฝั่งตรงข้ามชายแดน จ.สระแก้ว ก็มีคลิปขณะที่ทหารกัมพูชา กำลังช่วยคนเจ็บส่งโรงพยาบาล โดยกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ออกแถงการณ์เรียกร้องให้ประชาคมโลกประณามไทย กับเหตุการณ์ทหารไทยเปิดฉากยิงใส่ประชาชนกัมพูชา อ้างว่ามีเจตนาที่จะสร้างการปะทะกันระหว่าง 2 ฝ่าย พร้อมขอให้ไทยรับผิดชอบต่อการละเมิด และกลับมาเคารพข้อตกลงหยุดยิง
ขณะที่ฝ่ายไทยออกมาตอบโต้กัมพูชาทันที มีทั้งเพจโซเชียลต่าง ๆ ที่โพสต์ทั้งภาพ และคลิป รวมถึงข้อมูลทางการจากกองทัพบก อย่างเพจชุมชนคนสุรินทร์ ก็มีการโพสต์ภาพ ระบุว่าเป็นชาวบ้านกัมพูชาที่ถูกยิงเมื่อวาน เขียนบอกว่า "โดนยิงเสร็จ ขับรถไปโรงพยาบาลเอง นักเลงพอ โอ๊ย เอ็งก็สุดเกิน"

ภาพ เฟซบุ๊ก Army Military Force
นอกจากนี้ เพจ Army military force ยังโพสต์ภาพ ระบุเป็นร่องรอยกระสุนปืน ที่ทหารกัมพูชา สร้างสถานการณ์ยิงใส่บังเกอร์ของฝ่ายทหารไทย ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ในช่วงเย็นเมื่อวานนี้

ภาพ เฟซบุ๊ก Army Military Force

ภาพ เฟซบุ๊ก Army Military Force
จากนั้น กองกำลังบูรพา จึงทำการเตือนและตอบโต้ ยึดตามกฎการใช้กำลังอย่างเคร่งครัดเพื่อระงับเหตุ ซึ่งการใช้อาวุธตอบโต้เป็นทางเลือกสุดท้ายในสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อปกป้องชีวิตและอธิปไตยของชาติ ย้ำว่ากำลังพลได้ใช้ความระมัดระวังไม่ให้ถูกเป้าหมายพลเรือน ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ
ขอบคุณข้อมูลจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์






