เขมรไม่สนไทย 2 ก.ค. มุ่งขึ้นเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก



เขาพระวิหาร

เขาพระวิหาร 



สมัคร ฮัลโหลเคลียร์ ฮุนเซน เขมรไม่สนมุ่งขึ้นเขาพระวิหาร

สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

          วันที่ 2 กรกฎาคม 2551 เป็นกำหนดการที่คณะกรรมการยูเนสโกจะนำเรื่องที่กัมพูชา ยื่นให้พิจารณารับเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยมีกระแสข่าวออกมาว่าคณะกรรมการชุดนี้จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณาเป็นวาระที่ 4 ของการประชุมคณะกรรมการครั้งนี้ ซึ่งจัดประชุมที่ประเทศแคนาดา 

          เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทวงเกษตรและสหกรณ์ และรองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียว เพราะตามเงื่อนไขตามสนธิสัญญาของยูเนสโก สิ่งที่จะเป็นมรดกโลกและคาบเกี่ยวกับดินแดนภาคี 2 ประเทศนั้นต้องได้รับการยินยอมของทั้งสองฝ่าย

          อย่างไรก็ตามประเทศไทยจะส่งมติ ครม.วันที่ 1 กรกฎาคม โดยทำหนังสือส่งไปให้รัฐบาลกัมพูชา ยูเนสโก และคณะกรรมการมรดกโลก ส่งไปให้เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศแคนาดาและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้จำเป็นที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศต้องไปชี้แจงด้วย อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม ครม.ไม่ได้มีการทวงถามเรื่องความรับผิดชอบทางการเมืองของนายนพดลในเรื่องดังกล่าว 

          ส่วนที่หลายฝ่ายยังระบุว่าไทยยังมีสิทธิ์เรียกร้องปราสาทพระวิหารคืน นายกฤต ไกรจิตติ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมายระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าวจะทำให้เกิดผลกระทบกับความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา และต่อความมั่นคงของชาติ เนื่องจากแผนที่แสดงที่ตั้งของปราสาทพระวิหารซึ่งสอดคล้องกับมติ ครม.ปี 2505 ระบุชัดเจนว่า ไทยได้ปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลโลกและสละอธิปไตยเหนือพื้นที่ซึ่งเป็นที่ตั้งปราสาทพระวิหารตามแผนที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันว่าปราสาทพระวิหารอยู่ภายใต้ดินแดนและอธิปไตยของกัมพูชามาตั้งแต่ปี 2505 

          "ขณะนี้เราต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล ส่วนการเดินทางไปร่วมประชุมกับคณะกรรมการมรดกโลก ในวันที่ 5-8 กรกฎาคม ที่เมืองควิเบก ประเทศแคนาดา ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับใด" นายกฤตกล่าว 

          ขณะที่ ที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง มีรายงานว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงกรณีปัญหาปราสาทพระวิหารว่าเป็นเรื่องการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ เพราะกว่าจะประคับประคองไมตรีระหว่างสองประเทศให้กลับคืนมาได้ เมื่อศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามดำเนินการใดๆ รัฐบาลก็ต้องปฏิบัติตาม 

          "ก็เรียกได้ว่าศาลมาช่วยเพื่อให้จบเรื่องไป เราไม่เคยได้ ไม่เคยเสีย แต่การอภิปรายในสภามันรุนแรง เหมือนรัฐบาลนี้ไปสมคบทางโน้น เสียดินแดน ทั้งที่ไม่มีอะไรเลย กระทรวงการต่างประเทศก็รับรอง ทหารก็รับรอง กรมแผนที่ของทหารก็รับรอง และข่าวที่บอกว่าจะทำให้ไทยเสียดินแดน ความโชคไม่ดี เรานึกว่าทางกัมพูชาได้ประโยชน์ แต่ทางโน้นเสียประโยชน์เหมือนกัน เป็นทำนองว่าถูกประเทศไทยหลอก ทางไทยบอกว่า ถูกเขมรหลอก ตกลงรัฐบาลสองรัฐบาลซวย เมื่อครู่นายกรัฐมนตรี 2 ประเทศ เพิ่งคุยโทรศัพท์กัน ว่าไม่มีอะไร เมื่อศาลสั่งก็ต้องปฏิบัติตาม เราต้องเคารพศาล" นายสมัครกล่าว 

          นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีที่โทรศัพท์คุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาว่า ไม่ต้องการให้เกิดความตึงเครียด และในฐานะหัวหน้ารัฐบาลทั้งสอง ก็จะช่วยกันรักษาสถานการณ์ โดยให้รัฐบาลกัมพูชาช่วยดูแลสถานทูตไทยในกัมพูชา และตนจะดูแลสถานทูตกัมพูชาในไทย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขาพระวิหาร และที่ให้ช่วยดูแล เพราะเคยเกิดเรื่องกันมาแล้ว ส่วนปัญหาประชาชนมีปัญหาความขัดแย้งกันนั้น นายสมัครยอมรับว่า กังวลใจ 

          ขณะที่ความเคลื่อนไหวในประเทศกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ของกัมพูชา รายงานอ้างคำให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ของนายพัย สีปาน โฆษกคณะรัฐมนตรีกัมพูชา เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ระบุว่ารัฐบาลกัมพูชาจะเดินหน้าผลักดันให้องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกต่อไป แม้ว่า ศาลปกครองของไทยจะตัดสินว่ารัฐบาลไทยไม่สามารถให้การสนับสนุนการเสนอชื่อปราสาทพระวิหารของรัฐบาลกัมพูชาได้ก็ตามโดยยูเนสโกจะมีการประชุมกันที่เมืองควิเบก ประเทศแคนาดา ในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ 

          นายพัย กล่าวอีกว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาภายในของไทย พร้อมกับยืนยันว่าปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา และกัมพูชาก็ต้องการให้ปราสาทพระวิหารได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ดังนั้นกัมพูชาจึงไม่ได้ให้ความสนใจต่อคำตัดสินของศาลปกครองของไทย พร้อมกับบรรเทาความวิตกที่ว่าอาจจะเกิดเหตุวุ่นวายในกัมพูชาจากความไม่พอใจในความพยายามขัดขวางเรื่องนี้ของคนไทยบางกลุ่ม โดยบอกว่า ตอนนี้ร้านอาหารไทยยังมีชาวกัมพูชาไปอุดหนุนแน่นร้าน 

          นอกจากนี้ นายพัยยังแสดงความไม่พอใจพรรคฝ่ายค้านของไทยที่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายสมัครและนายนพดล ต่อกรณีการลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาที่สนับสนุนให้กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยนายพัยยืนยันว่า รัฐบาลกัมพูชากำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลไทย ไม่ได้ทำงานกับฝ่ายค้าน เช่นเดียวกับรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา นายฮอ นัมฮง ที่แสดงความผิดหวังที่มีพรรคการเมืองและคนไทยบางกลุ่มนำเอาเรื่องเขาพระวิหารไปใช้เป็นประเด็นในการประท้วงรัฐบาลนายสมัคร และบอกว่าเรื่องนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดี และความร่วมมือระหว่างสองประเทศได้ 

          วันเดียวกัน มูลนิธิอารยธรรมเขมรได้นำอาหาร เช่น ข้าว 4 ตัน น้ำปลา ซีอิ๊ว เกลือ เส้นก๋วยเตี๋ยวไปแจกจ่ายให้แก่ชุมชนชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่รอบปราสาทพระวิหาร และร่วมสวดมนต์หลังจากที่ทางการกัมพูชาปิดด่านชายแดนที่บริเวณเขาพระวิหารเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเตรียมนำคณะแพทย์ไปช่วยรักษาชาวกัมพูชาที่เจ็บป่วย หนังสือพิมพ์ พนมเปญ โพสต์ รายงานว่า พรมแดนกัมพูชาบริเวณเขาพระวิหารจะยังคงปิดต่อไปจนกว่ากลุ่มผู้ประท้วงชาวไทยจะสลายตัว เพื่อเป็นการป้องกันชาวกัมพูชาไม่ให้ได้รับอันตรายจากกลุ่มผู้ประท้วง ทั้งนี้เป็นการออกมายืนยันของนายเปรี๊ยบ ตัน ผู้ว่าราชการจังหวัดพระวิหาร 

          รายงานข่าวระบุว่า รองนายกรัฐมนตรี นายสก อัน จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนของกัมพูชาในการเดินทางไปร่วมการประชุมขององค์การยูเนสโกที่เมืองควิเบก ประเทศแคนาดา ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ ที่จะมีการนำเรื่องการเสนอปราสาทพระวิหารให้เป็นมรดกโลกเข้าสู่การประชุม 

          ด้าน นายปองพล อดิเรกสาร ในฐานะประธานคณะกรรมการมรดกโลก กล่าวถึงการเตรียมเดินทางไปร่วมประชุมกรรมการมรดกโลก ว่า การเดินทางไปครั้งนี้จะยึดถือคำสั่งศาลคุ้มครองเป็นหลัก เพื่อไปเน้นย้ำขอให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องการพิจารณาขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารออกไปก่อน ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่รัฐบาลควรจะต้องรีบแจ้งต่อประเทศที่เป็นกรรมการมรดกโลก และประเทศกัมพูชาทราบ อย่างไรก็ตาม คาดว่าในการประชุม ครม. น่าจะมีเรื่องนี้เข้าวาระการประชุมด้วย เนื่องจากถือว่าเป็นเรื่องด่วน



ข้อมูลและภาพประกอบจาก
 

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เขมรไม่สนไทย 2 ก.ค. มุ่งขึ้นเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก อัปเดตล่าสุด 2 กรกฎาคม 2551 เวลา 13:41:53 18,223 อ่าน
TOP
x close