โจรใส่สูทฉกเพชรเลอค่า







นายจักรพันธ์ - นางรินทร์ลภัส ผู้เสียหาย



เพชร 2,100 กะรัตที่ถูกขโมย


         สาวใหญ่เอเยนต์ค้าเพชรแจ้งความเจอ 2 โจรแต่งสูทผูกไทด์ทำทีจะซื้อเพชร 2,100 กะรัต มูลค่ากว่า 300 ล้าน อ้างสนิทนักการเมือง จนหลงเชื่อนัดมาดูของถึงบริษัทย่านดอนเมือง ก่อนโจรร้ายเผยธาตุแท้อาศัยทีเผลอฉกเพชรเลอค่า เผ่นขึ้นซ้อน จยย.หน้าออฟฟิศลอยนวล ตร.คาดคนในรู้เห็น เร่งสืบแกะรอยวงจรปิด


         วันนี้ (24 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. พ.ต.ท.วิโรจน์ มาสง พงส.(สบ 2 ) สน.ดอนเมือง ได้รับแจ้งมีเหตุชิงทรัพย์ในบริษัทจัดหางาน ซาปา อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์วิส จำกัด เลขที่ 161/414-411 ภายในซอยวิภาวดี 76 ถนนวิภาวดี แขวงมีกัน เขตดอนเมือง กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบพร้อม  พล.ต.ต.วงศักดิ์ นพสิทธิพร ผบก.น. 2 พ.ต.อ.พัลลภ สุวรรณบัตร รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.พีรพงษ์ วงษ์สมาน รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.ดอนเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง


         ที่เกิดเหตุภายในบริษัทดังกล่าว เป็นอาคารพาณิชย์ 2 คูหา สูง 4 ชั้น พบ นางรินทร์ลภัส ปุณยจิรพัฒน์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 249/24 ถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 93 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กทม. ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทดังกล่าว และนายจักรพันธ์ ประมวลสุข อายุ 71 อยู่บ้านเลขที่ 94/1 หมู่ 1 ต.ทรายขาว อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ยืนรอพบเจ้าหน้าที่อยู่ในอาการตื่นตระหนก


         นางรินทร์ลภัส ให้การว่า ตนเป็นนายหน้าติดต่อซื้อขายเพชรให้กับลูกค้า โดยตนได้รู้จักกับ นายจักรพันธ์ ซึ่งเป็นพ่อค้าขายเพชร และทราบว่ามีเพชรใสแอฟริกา จำนวน 2 ก้อน ก้อนแรกมีน้ำหนัก 2,100 กระรัต ส่วนก้อนที่สองมีน้ำหนัก 1,750 กระรัต ซึ่งได้ซื้อมาประมาณ 15 ปีที่แล้วในราคา 5 แสนบาท โดยนายจักรพันธ์ ต้องการที่จะขายเพชรดังกล่าว ตนจึงได้ติดต่อหาลูกค้าให้ ซึ่งเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีลูกค้าเป็นชาวดูไบ ต้องการดูเพชรดังกล่าว ตนจึงนัดให้มาดูเพชรที่บริษัทตน ซึ่งทุกครั้งที่ตนนัดลูกค้ามาดูเพชรก็จะให้มาดูที่บริษัท
 

         นางรินทร์ลภัส กล่าวต่อไปว่า หลังจากที่ลูกค้าชาวดูไบมาดูเพชรแล้ว ก็ตอบตกลงซื้อเพชรดังกล่าว ซึ่งตนก็ได้นัดให้มาจ่ายค่ามัดจำจำนวน 30 เปอร์เซ็นต์ ก่อนในวันพรุ่งนี้ (25 ก.ค.) จนกระทั่งเมื่อวานที่ผ่านมา (23 ก.ค.) ได้มีชาย 2 คน รูปร่างสูงใหญ่ คนแรกเป็นชายผิวขาวคล้ายคนจีน ส่วนอีกคนเป็นชายไทยผิวคล้ำ และได้เข้ามาบอกกับตนว่าเป็นคนสนิทของนักการเมืองท่านหนึ่ง และได้ให้ตนมาขอดูเพชรที่ต้องการขาย จากนั้นตนจึงได้นัดให้ทั้ง 2 คน และ นายจักรพันธ์ เจ้าของเพชร เดินทางมาในวันนี้
 

         นางรินทร์ลภัส กล่าวว่า จนเวลาประมาณ 11.00 น. ชายทั้ง 2 คน โดยคนแรกเป็นชายผิวคล้ำสวมสูทสีดำ ผูกเน็กไทด์สีแดง และอีกคนสวมเสื้อเชิ้ตสีเหลือง กางเกงสีกรมท่า ได้เดินทางมาที่บริษัทตามนัดพร้อมกับ นายจักรพันธ์ จากนั้นตนจึงได้พาชายผิวคล้ำ และ นายจักรพันธ์ ขึ้นไปเจรจาและดูเพชรบริเวณชั้นที่ 2 ของบริษัท ส่วนอีกคนนั่งอยู่ในรถเก๋งสีครีม ไม่ทราบยี่ห้อ รุ่น และหมายเลขทะเบียน หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวได้ขอส่องดูเพชร จากนั้นอ้างว่าที่มืดมองไม่ค่อยเห็น ตนจึงได้พาลงมาส่องเพชรที่ชั้นล่าง ขณะที่ชายดังกล่าววางกระเป๋าเจมส์บอนด์สีเทาไว้ ขณะนั้นตนก็ได้สังเกตเห็นว่า มีรถจยย.ขับผ่านไปมาหลายรอบ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร ซึ่งคนร้ายก็ได้อาศัยจังหวะที่ตนเผลอฉวยเอาเพชรที่ส่องอยู่จำนวน 1 ก้อน เป็นเพชรใสแอฟฟริกา น้ำหนัก 420 กรัม หรือเท่ากับ 2,100 กระรัต มูลค่าประมาณ 315 ล้านบาท วิ่งหลบหนีขึ้นรถ จยย.ต้องสงสัยหลบหนีไป ส่วนคนร้ายอีกคนทราบว่าได้ขับรถออกไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนเพชรอีกเม็ด นายจักรพันธ์ ถือไว้อยู่ คนร้ายจึงได้เพชรไปเพียงเม็ดเดียว


         ด้าน พ.ต.อ.เจริญ กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อวานนี้คนร้ายได้มีการพูดคุยเจรจากับ นางรินทร์ลภัส และได้นำสมุดบัญชีมาแสดงว่า เจ้านายที่อ้างเป็นนักการเมืองได้โอนเงินเข้ามาในบัญชีจำนวนกว่า 100 ล้านบาท ทำให้ นางรินทร์ลภัส ได้เชื่อใจและขายเพชรดังกล่าวให้ ซึ่งเชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้คาดว่าน่าจะมีคนในมีส่วนรู้เห็น เพราะทราบว่า เมื่อนางรินทร์ลภัส จะติดต่อซื้อขายเพชรแต่ละครั้ง จะติดต่อผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจท่านหนึ่งเพียงคนเดียว ส่วนคนร้ายน่าจะเป็นคนที่รู้การเคลื่อนไหวและมีความรู้เรื่องวงการเพชรพลอยเป็นอย่างดี เบื้องต้นจะได้เร่งสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องและพยานแวดล้อม รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณใกล้เคียง เพื่อรวบรวมเป็นข้อมูลเพื่อติดตามคนร้ายและผู้ที่อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



ข้อมูลและภาพประกอบจาก
 

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
โจรใส่สูทฉกเพชรเลอค่า อัปเดตล่าสุด 25 กรกฎาคม 2551 เวลา 11:04:48 15,114 อ่าน
TOP
x close