
"เอส" ลูกชาย "ยอดรัก สลักใจ" เผยไถ่ถอนบ้าน 5 ล้านจากธนาคารได้แล้ว หลังได้รับยอดบริจาคกว่า 6 ล้านบาท เตรียมขายทิ้งไปอยู่บ้านหลังเล็ก รับท้อถูกเขียนด่าไม่ทำงาน บอกไม่รู้ "เอสเอ็มเอส" การกุศล ประกาศลั่นเลิกรับเงินบริจาคทุกทาง
เมื่อค่ำวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่ ศาลาอเนกประสงค์วัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม นายเกรียงศักดิ์ ไพรวัลย์ บุตรชายนายยอดรักพร้อมด้วย นางจารุวรรณ ไพรวัลย์ ภรรยา เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 ส.ค. ได้ไปที่ธนาคารกรุงเทพ สาขา โลตัสพระราม 5 เพื่อทำเรื่องไถ่ถอนบ้านที่ติดจำนองอยู่เรียบร้อยแล้ว โดยยอดที่ไถ่ถอนคืนเป็นจำนวนเงิน 5,090,000 บาท เนื่องจากขณะนี้ได้รับทั้งบริจาคและเงินจากยอดจำหน่ายซีดีรวมกันเป็นเงิน 6,156,000 บาท แยกเป็นยอดเงินบริจาค 3,456,000 บาท ยอดจากการจำหน่ายซีดี 2,700,000 บาท นอกจากนั้นยังมียอดบริจาคกฐินอีก 560,000 บาท ซึ่งยอดเงินจากการสร้างกฐินก็จะนำไปทอดกฐินต่อไป แต่เงินทั้งหมดยังไม่รวมกับยอดเงินบริจาคผ่านทางเอสเอ็มเอสที่ทางตนไม่ทราบว่าได้จำนวนเท่าไหร่ เพราะไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการ
ลูกชายลูกทุ่งดัง กล่าวต่อว่า ตนได้บอกพ่อในใจแล้วว่าครอบครัวได้บ้านคืนมาแล้ว วันนี้มีความรู้สึกดีใจ แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากจะอยู่บ้านนี้แล้ว เพราะว่าที่ผ่านมามีปัญหากับบ้านนี้เยอะมาก ตนถูกต่อว่ามาเยอะเหลือเกินว่าทำไม ไม่ขายบ้าน หรือทำไมไม่หาเงินไถ่ถอนเอง ตนอยากจะบอกว่าทุกอย่างที่ว่ามา ตนได้พยายามแล้ว ประกาศขายบ้านตั้งนานแล้ว แต่ขายไม่ได้ และจะให้หาเงินมาส่งบ้านต่อเดือนละกว่า 5 หมื่นบาทตนก็จนปัญญา
"เรื่องที่มีคนเขียนว่าผมในเว็บไซต์เกี่ยวกับการรับบริจาคเงินครั้งนี้ ผมอยากรู้เหลือเกินว่าเขาข้องใจตรงไหน ทำไมไม่มาถามด้วยตนเองไปเขียนว่าแบบนั้นมันไม่ยุติธรรม ช่วงแรกที่ผมถูกด่าผมยอมรับว่าเครียด และก็ท้อมากเพราะว่าไม่เป็นความจริง แต่ตอนนี้ถูกด่าเยอะจนชินแล้ว เรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นการหาเงินหรืออื่นๆ ไม่ใช่ความคิดของผมเป็นของผู้ใหญ่ที่ทำกันขึ้นมาให้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างดูผมจะถูกด่าอยู่คนเดียว และผมอยากจะบอกว่าต่อจากนี้ไป อยากจะให้หยุดทุกอย่างที่ทำเพื่อช่วยเหลือครอบครัวของผม เพราะว่า บ้านผมก็ได้กลับมาแล้ว ผมไม่อยากจะได้อะไรอีกแล้ว ทั้งเอสเอ็มเอส ทั้งคอนเสิร์ต ที่กำลังจะทำก็อยากจะให้หยุด และเงินจาก เอสเอ็มเอส ผมก็ไม่ต้องการแล้ว จะเอาไปทำอะไรก็ได้ เพราะบ้านผมก็ได้คืนมาแล้ว" นายเกรียงศักดิ์กล่าว
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนเงินทำบุญได้มีการแยกส่วนเพื่อเอาไปทำบุญตามวัตถุประสงค์ ส่วนเรื่องซีดีของที่บ้านใครอยากจะอุดหนุนต่อตนก็ไม่ว่าอะไร และอยากจะบอกว่าที่ผ่านมาขอบคุณทุกๆคนที่ช่วยเหลือ แต่ตอนนี้ตนขอยุติการรับบริจาค สำหรับยอดเงินที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ยังไม่นิ่ง เพราะยังคงมีเข้ามาอีก แต่คิดว่าคงจะไม่มาก
บุตรชายยอดรัก กล่าวด้วยว่า สำหรับบ้านหลังนี้หลังจากที่ไถ่ถอนเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็คิดว่าจะขาย และจะไปซื้อบ้านหลังเล็กๆอยู่ด้วยกัน เนื่องจากบ้านหลังใหญ่ค่าใช้จ่ายก็จะเยอะ
ด้านนางจารุวรรณ ภรรยาของนายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนจะโดนต่อว่า ถูกกล่าวหาต่างๆนานๆ หาว่านายเกรียงศักดิ์รักภรรยามากกว่าแม่ รวมถึงตนจะเป็นผู้เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากการเสียชีวิตของพ่อสามี เรื่องนี้อยากจะบอกว่า ตนกับนายเกรียงศักดิ์อยู่ด้วยกันมา 9 ปีแล้ว และมาอยู่ตั้งแต่ช่วงที่นายเกรียงศักดิ์ไม่มีอะไรเลย ทุกวันนี้ทำทุกอย่างก็เพราะว่าสงสารพ่อ ไม่ได้มาเพื่อกอบโกย เพราะหากจะทำคงทำไปนานแล้ว
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
![]()






