หากเอ่ยถึงชายคนหนึ่งที่รักป่ายิ่งกว่าชีวิต ชื่อของ สืบ นาคะเสถียร คงยังติดตรึงอยู่ในใจใครหลายคน เพราะเขาไม่ใช่เพียงคนที่รักและอุทิศตัวของเขาเพื่ออนุรักษ์ผืนป่าเอาไว้เท่านั้น แต่เขาอุทิศทั้งชีวิตและจิตวิญญาณของเขาไว้ที่นั่น ด้วยเสียงปืนที่ลั่นขึ้นกลางป่าห้วยขาแข้ง ในวันที่ 1 กันยายน 2533 เขาหวังว่าจะมีส่วนทำให้ผู้คนเหลียวมามองป่ามากกว่าเดิมด้วยการเสียสละชีวิต
"ป่าไม้เป็นบ่อเกิดของทุกสรรพสิ่ง มนุษย์เราเป็นทั้งผู้ใช้ และผู้ทำลายมรดกของธรรมชาติมาอย่างช้านาน
จะมีสักกี่คน ที่ตระหนัก และระลึกถึงคุณค่าของผืนป่า เทียบเท่ากับผู้เสียสละคนนี้..." สืบ นาคะเสถียร
ประวัติและผลงาน สืบ นาคะเสถียร
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก มูลนิธิสืบนาคะเสถียร
สืบ นาคะเสถียร มีชื่อเดิมว่า "สืบยศ"
เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2492 ที่จังหวัดปราจีนบุรี
เป็นบุตรของนายสลับ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และนางบุญเยี่ยม สืบ
นาคะเสถียร มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน โดย สืบ นาคะเสถียร เป็นบุตรชายคนโต
ในวัยเด็ก สืบ นาคะเสถียร ได้ช่วยงานในนาของมารดาด้วยความอดทน
บุคลิกประจำตัวคือ เมื่อเขาสนใจหรือตั้งใจทำอะไรแล้วก็จะมีความมุ่งมั่น
ตั้งใจทำอย่างจริงจังจนประสบความสำเร็จ
เมื่อเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สืบ นาคะเสถียร ต้องจากครอบครัวไปเรียนที่โรงเรียนเซนต์หลุยส์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
จนกระทั่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จึงเข้าศึกษาในคณะวนศาสตร์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก่อนจะเข้าศึกษาในระดับปริญญาโท
สาขาวิชาวนวัฒนวิทยา ที่คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เช่นเดียวกัน
จนสำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ. 2518
สืบ นาคะเสถียร
ได้เริ่มชีวิตข้าราชการ โดยบรรจุเข้ารับราชการตำแหน่งพนักงานป่าไม้ตรี
กองอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้ ต่อมาในปี พ.ศ. 2522
สืบได้รับทุนการศึกษาจากบริติช เคานซิล เรียนต่อในระดับปริญญาโทอีกครั้ง ในสาขาอนุรักษวิทยา ที่มหาวิทยาลัยลอนดอน ในอังกฤษ และจบการศึกษาในปี พ.ศ.
2524
ประวัติสืบ นาคะเสถียร
- พ.ศ. 2502 สืบ นาคะเสถียร มีนิสัยทำอะไรมักจะทำให้ได้ดีตั้งแต่เด็ก และเมื่อจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สืบได้ย้ายไปเรียนโรงเรียนเซนต์หลุยส์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นนักเป่าทรัมเป็ตมือหนึ่งและนักวาดภาพฝีมือดีของโรงเรียน
- พ.ศ. 2510-2514 สืบ นาคะเสถียร อยากเรียนสถาปัตยกรรม เพราะชอบด้
- พ.ศ. 2518 สืบ นาคะเสถียร สอบเข้ากรมป่าไม้ได้ แต่เลือกที่จะมาทำงานที่กองอนุ
- พ.ศ. 2522 ได้รับทุนจาก British Council ไปเรียนปริญญาโท ที่มหาวิทยาลั
- พ.ศ. 2524 ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเขตห้ามล่าสั
- พ.ศ. 2528 เดินทางไปทำวิจัยเรื่องกวางผา กับ ดร.แซนโดร โรวาลี ที่ดอยม่อนจอง ในบริเวณเขตรั
- พ.ศ. 2529 หัวหน้าโครงการอพยพสัตว์ป่
- พ.ศ. 2530 สืบ นาคะเสถียร ได้เปลี่ยนบทบาทจากนักวิ
- พ.ศ. 2531 สืบ นาคะเสถียร และเพื่อนนักอนุรักษ์ ออกโรงคัดค้านการที่บริษัทไม้อั
- พ.ศ. 2532 สืบ นาคะเสถียร ได้รับทุนเรียนต่อปริญญาเอกที่ประเทศอั
- 1 กันยายน พ.ศ. 2533 สืบ นาคะเสถียร สะสางงานและเขียนพินัยกรรมไว้เรียบร้อย ก่อนกระทำอัตวินิบาตกรรม เพื่อเรียกร้องให้สั
- 18 กันยายน พ.ศ. 2533 ผู้ใหญ่และผองเพื่อนนักอนุรั
- 26 เมษายน พ.ศ. 2536 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาที่เขตรั
- พ.ศ. 2542 มีการสำรวจความคิดเห็
ผลงานของ สืบ นาคะเสถียร
ภาพจาก : www.seub.or.th
หลังสำเร็จการศึกษาจากประเทศอังกฤษ สืบ นาคะเสถียร
กลับมารับตำแหน่งหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบางพระ มีส่วนร่วมในการจัดการและประสานงาน รวมทั้งเป็นวิทยากรฝึกอบรมพนักงานพิทักษ์ป่าอีกหลายรุ่น
จนกระทั่ง พ.ศ. 2526 สืบ นาคะเสถียร ได้ขอย้ายตัวเองเข้ามาเป็นนักวิชาการกองอนุรักษ์สัตว์ป่า ทำหน้าที่วิจัยสัตว์ป่าเพียงอย่างเดียว "ผมหันมาสนใจงานวิจัยมากกว่าที่จะวิ่งไปจับคน เพราะรู้ว่าจับได้แต่คนตัวเล็ก ๆ
ตัวใหญ่ ๆ จับไม่ได้
ก็เลยอึดอัดว่ากฎหมายบ้านเมืองนั้นมันใช้ไม่ได้กับทุกคน
มันเหมือนกับว่าเราไม่ยุติธรรม เรารังแกชาวบ้าน"
ในระยะนี้เป็นจังหวะที่สืบได้แสดงความเป็นนักวิชาการออกมาอย่างเต็มที่
งานวิจัยศึกษาสัตว์ป่าเป็นงานที่สืบ นาคะเสถียร ทำได้ดีและมีความสุขในการทำงานวิชาการมาก สืบ นาคะเสถียร
รักงานด้านนี้เป็นชีวิตจิตใจ
อันเป็นจุดเริ่มต้นที่เขาได้ผูกพันกับสัตว์ป่าอย่างจริงจัง
งานวิจัยในช่วงแรกของสืบเป็นการวิจัยนก
สืบได้เริ่มใช้เครื่องมือในการบันทึกงานวิจัย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้กลายเป็นผลงานการวิจัยสัตว์ป่าชิ้นสำคัญของเมืองไทยในเวลาต่อมา ได้แก่
ภาพถ่ายสไลด์สัตว์ป่าหายากนับพันรูป
ม้วนเทปวิดีโอภาพชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์ป่า
และปัญหาการทำลายป่าในเมืองไทยหลายสิบม้วน โดยผลงานทั้งหมดสืบเป็นคนถ่ายและตัดต่อเอง
ผลงานทางวิชาการที่เด่น ๆ ของ สืบ นาคะเสถียร
- ทำรังวางไข่ของนกบางชนิดที่อ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี สัมมนาสัตว์ป่าเมืองไทย พ.ศ. 2524
- รายงานการสำรวจนก บริเวณอ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี สัมมนาสัตว์ป่าเมืองไทย พ.ศ. 2526
- การศึกษานิเวศวิทยาของสัตว์ป่า ในบริเวณโครงการศูนย์ศึกษาเพื่อการพัฒนาภูพาน ตามพระราชดำริ 2528
- นิเวศวิทยาป่าไม้และสัตว์ป่า ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง 2529
- รายงานผลการจับเนื้อทราย ที่เกาะกระดาด 2529
- เลียงผาที่พบในประเทศไทย การกระจายถิ่นที่อยู่อาศัย และพฤติกรรมบางประการ 2529
- นิเวศวิทยาป่าไม้และสัตว์ป่า ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดตาก และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานีและจังหวัดตาก เดือนกุมภาพันธ์ 2530 โดย สืบ นาคะเสถียร, นริศ ภูมิภาคพันธ์ และศักดิ์สิทธิ์ ซิ้มเจริญ
- การอพยพสัตว์ป่า ในอ่างเก็บน้ำรัชชประภา สัมมนาสัตว์ป่า 2532
- โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ แควใหญ่ตอนบน (Assessment on Report and Impact Assessment Plan on Forestry and Wildlife of Upper Quae Yai Project)
ความพยายามรักษาผืนป่าของ สืบ นาคะเสถียร
ภาพจาก : www.seub.or.th
ในปี พ.ศ. 2529 สืบ นาคะเสถียร
ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานในหน้าที่หัวหน้าโครงการอพยพสัตว์ป่าตกค้าง
ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน)
บริเวณแก่งน้ำเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
มีสัตว์นับพันตัวได้รับความช่วยเหลือ แต่สืบก็รู้ดีว่ามีสัตว์อีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องตายจากการสร้างเขื่อน
ทำให้เขาเริ่มเข้าใจปัญหา และตระหนักว่างานวิชาการเพียงอย่างเดียวไม่สามารถช่วยเหลือป่าและสัตว์ป่าจากการถูกทำลายได้
สืบ นาคะเสถียร จึงเปลี่ยนบทบาทจากนักวิชาการมาเป็นนักอนุรักษ์ เข้าร่วมต่อสู้คัดค้านการสร้างเขื่อนน้ำโจน ในบริเวณทุ่งใหญ่นเรศวร
จังหวัดกาญจนบุรี โดยสืบยืนยันว่า
การสร้างเขื่อนเป็นการทำลายล้างเผ่าพันธุ์แหล่งอาหาร
ตลอดจนที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าอย่างรุนแรง
กระทั่งความช่วยเหลือจากมนุษย์ไม่สามารถชดเชยได้
โดยการรวมพลังของกลุ่มนักอนุรักษ์
ซึ่งในที่สุดโครงการสร้างเขื่อนน้ำโจนได้ถูกระงับไป
ในปี พ.ศ. 2532 สืบ นาคะเสถียร
เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง พร้อม ๆ
กับปัญหามากมายที่เขาต้องแก้ไขให้ได้ อาทิ ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า
การล่าสัตว์ของกลุ่มผู้มีอิทธิพล เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าถูกยิงเสียชีวิต
ปัญหาความยากจนของชาวบ้านรอบป่า
ด้วยความที่ป่าห้วยขาแข้งเป็นผืนป่าที่อุดมด้วยพรรณไม้และสัตว์ป่ามากมาย
ทำให้หลายฝ่ายต่างจ้องบุกรุก เพื่อหาประโยชน์จากผืนป่า สืบ นาคะเสถียร พยายามนำเสนอข้อมูลต่อยูเนสโก เพื่อพิจารณาให้ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรและห้วยขาแข้งเป็นมรดกโลก อันจะเป็นเกราะป้องกันผืนป่าแห่งนี้ไว้ให้ได้
เพราะจะทำให้คนหันมาหวงแหนผืนป่านี้มากขึ้น
สืบได้แสดงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ที่จะรักษาป่าผืนนี้ไว้อย่างชัดแจ้ง
ได้ประกาศให้รู้ทั่วกันว่า "ผมมารับงานที่นี่ โดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน"
การเสียสละชีวิตเพื่อส่วนรวมของ สืบ นาคะเสถียร
ในความคิดของสืบ นาคะเสถียร แนวทางหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาการทำลายป่าได้ คือการสร้างแนวป่ากันชนขึ้นมา ให้ชาวบ้านอพยพออกนอกแนวกันชน และพัฒนาแนวกันชนให้เป็นป่าชุมชนที่ชาวบ้านสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้ แต่ปรากฏว่าไม่ได้รับความสนใจและความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
จนกระทั่งเช้ามืดของวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2533 สืบ นาคะเสถียร ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงด้วยปืนหนึ่งนัดในป่าลึก ที่ห้วยขาแข้ง การเสียชีวิตของสืบ นาคะเสถียร เป็นจุดเริ่มต้นของ "ตำนานนักอนุรักษ์ไทย สืบ นาคะเสถียร ผู้ที่รักป่าไม้ สัตว์ป่า และธรรมชาติ ด้วยกายและใจ"
หลังจากการเสียชีวิตของสืบ
บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมป่าไม้และผู้เกี่ยวข้อง
ได้เปิดประชุมเพื่อหามาตรการป้องกันการบุกรุกป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
โดย สืบ นาคะเสถียร ได้พยายามจัดตั้งการประชุมหลายสิบครั้ง
แต่ไม่มีการตอบรับจากเจ้าหน้าที่สักครั้ง จนกระทั่งการเสียชีวิตของสืบ
ทำให้มีข้อกล่าวหาว่า หากไม่มีเสียงปืนนัดนั้น การประชุมดังกล่าวก็คงไม่เกิดขึ้นเช่นกัน
ความพยายามของสืบเป็นผลสำเร็จเมื่อปี พ.ศ. 2534
เมื่อองค์การยูเนสโกประกาศให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง เป็นแหล่งมรดกโลกในที่สุด
การอุทิศตนของสืบ นาคะเสถียร เป็นการปลุกคนให้ตื่นตัวและลุกขึ้นมาสนใจผืนป่าอย่างจริงจัง วันที่ 1 กันยายน ของทุกปี
จึงเป็นวันระลึกถึงความเสียสละของท่าน เพื่อให้ทุกคนจดจำ หวงแหนธรรมชาติ
และสานต่อเจตนารมณ์ของสืบ นาคะเสถียร ...สืบไป
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร
การก่อตั้งมูลนิธิสืบนาคะเสถียรนั้นเริ่มต้นขึ้นหลังจากงานพระราชทานเพลิงศพของเขา 10 วัน และมีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 2,448,540 บาท เพื่อก่อตั้งมูลนิธิ และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ได้ประทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้อีก 100,000 บาท รวมถึงการบริจาคจากผู้ที่ร่วมรำลึกถึงอีกหลายราย จนกระทั่งได้เป็นทุนก่อตั้งมูลนิธิรวม 16,500,000 บาท
สัญลักษณ์ของมูลนิธิสืบนาคะเสถียร เป็นรูปกวางผากระโจนเข้าสู่เปลวเพลิง โดยมีใบไม้สีทึบประกอบขึ้นเป็นฉากราตรีประดับดาว ซึ่งออกแบบโดย คุณปัณยา เพื่อนสนิทคนหนึ่งของสืบ นาคะเสถียร เพราะกวางผา คืองานวิชาการชิ้นแรก ๆ ของสืบ นาคะเสถียร และความหมายโดยรวมของสัญลักษณ์ก็คือ ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของสืบ นาคะเสถียร นั่นเอง
โดยขณะนี้ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ก็ยังคงสานต่อเจตนารมณ์ของบุรุษผู้ล่วงลับต่อไป แม้ว่าการอนุรักษ์ไว้ซึ่งธรรมชาติจะมีอุปสรรคอย่างยากลำบาก และมีน้อยคนนักที่จะเข้าใจถึงเจตนารมณ์นี้ แต่คนรุ่นหลังในมูลนิธิก็ยังคงเจริญรอยตามผู้เสียสละอย่างตั้งใจ ..
บทความวันสำคัญอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ขอบคุณภาพจาก : มูลนิธิสืบนาคะเสถียร, เฟซบุ๊ก มูลนิธิสืบนาคะเสถียร
ขอบคุณข้อมูลจาก : มูลนิธิสืบนาคะเสถียร