นาคเจดีย์หลวงคอขาด อุบัติเหตุ...ฤาบอกเหตุอาเพศ

นาคเจดีย์หลวง



           ฮือฮาจนพากันหวาด...เมื่อเหตุการณ์ที่ ไม่คาดฝันอุบัติ ณ เช้าของวันที่ 21 ตุลาคม 2551 ในบริเวณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ถนนพระปกเกล้า ตำบลพระสิงห์ ในกำแพงเวียง เมืองเชียงใหม่ อันเป็นพระอารามหลวงเก่าแก่ อายุร่วม 600 ปี 

           ด้วยเศษเหล็กนั่งร้านตกลงมาถูก คอพญานาคราวบันไดอิฐด้านซ้ายมือหน้าวิหารหลวง ขาดดั่งกับถูกเฉือน กระเด็นตกลงสู่เบื้องล่าง และยัง กระดอนไปถูกหงอนอีกตัวหักสะบั้นลงมาอีก 

           และเพียงคาบเวลาแค่อึด...ข่าวนี้ก็เป็นไฟลามทุ่งทั่วเมืองเชียงใหม่ บรรดานักมุงทั้งหลายก็เต็มลานวัด สร้างความตระหนกตกใจ จากนั้นก็มีการโจษจันต่างๆนานา...ตามประสาปากคนที่ไม่มีอะไรยาวเทียมเท่า

           หะแรกของคำลือ....วัดโบราณแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เมื่อเกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ เป็นลางร้ายบอกเหตุจะมีอาเพศแก่เมืองเชียงใหม่ 

           อะไรกันน้อ...หลวงปู่จันทร์ พระพุทธพจน์ วราภรณ์ อริยสงฆ์แห่งล้านนาอดีตเจ้าอาวาสเพิ่งจะทำบุญ 100 วันเมื่อตะวาน (วันวาน) ยังไม่หาย โศกหายเศร้า งานศพยังบ่แล้วเตื้อ...หยังมีเรี่ยง ขึดเกิดขึ้นยะอี้ 

           (ขึด หมายถึงการทำผิดประเพณี ผิดสิ่งที่ดีงามที่บรรพชนวางกฎเกณฑ์ไว้มันจึงเกิดวิบัติ) 

           และ...อีกหลายๆ ประโยค หลายๆ ความนึกคิดจนสร้างความสับสน...บางรายไม่พูดไม่จา ได้แต่ทำตาแดงๆด้วยความอาลัยและไม่อยากให้สิ่งที่หลายๆคนนึก และ คิด นั้น...เกิดขึ้นเป็นจริงได้!!!

นาคเจดีย์หลวง



           วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร...สร้างขึ้นในสมัยของ พระเจ้าแสนเมืองมา กษัตริย์ราชวงศ์เม็งราย ราวปี พ.ศ. 1955...เป็นที่เคารพบูชาของชาวเมือง เชียงใหม่ 

           ภายในวัดมีสิ่งที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์ อาทิ เสาอินทขีลหลักเมืองเชียงใหม่ ซึ่งพระเจ้ามังรายได้สร้างขึ้นมาพร้อมๆกับนครเชียงใหม่ เมื่อปี 1839 แล้วนำไปประดิษฐานอยู่ที่วัดสะดือเมือง 

           ต่อมาราวๆปี 2343 พระเจ้ากาวิละ จึงได้ย้ายมาไว้ที่ วัดเจดีย์หลวงฯ ใน...และจะมีงานประเพณี บูชาเสาอินทขีลทุกปี 

           ณ ปริมณฑลของเสาอินทขีล มี ยักษ์กุมภัณฑ์ ชื่อ พญายักขราช (ศาลใต้) กับ พญายักษ์อมรเทพ (ศาลเหนือ) ทำ หน้าที่เฝ้าพิทักษ์.... และ รักษาบ้านเมืองเชียงใหม่ให้อยู่ด้วยความร่มเย็น เป็นสุข 

           ถัดลงมามี พญานาคคู่ชูเศียรเหนือราวบันไดอิฐหน้าวิหารหลวง หางตวัดพันกันเหนือประตูพระวิหาร ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นพญานาคที่มีลักษณะที่งดงามสมบูรณ์ที่สุดของแผ่นดินล้านนา 

           ...พญานาคคู่นี้ได้สร้างขึ้นพร้อมกับพระวิหารซึ่งมีอายุหลายร้อยปี ได้รับการบูรณะมาหลายครั้ง ทั้งจากเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่และเจ้าอาวาสหลายรูปของวัด เจดีย์หลวงฯ 

           ...ครั้งนี้ จะด้วยอาเพศ หรือ อุบัติเหตุ เศียรพญานาคจึงหลุดจากตัว...!!! 

           พระครูโสภณกวีวัฒน์...ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงฯ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญรอบรู้ประวัติความเป็นมาของวัดนี้ดีที่สุด พูดถึงพญานาคคู่นี้ว่า... ไม่ ว่าจะเป็นคนเมืองหรือนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ พากันชื่นชมในพญานาคคู่นี้ มาก 

           เชื่อว่า...พระครูปัญญา แห่งวัดแสนฝาง เมืองเชียงใหม่เป็นผู้ปั้นพญานาคคู่นี้ และได้รับการบูรณะหลายครั้ง จนมีการพอกจนตัวพญานาคอ้วนขึ้นในปัจจุบัน แต่ก็ยังมีความงดงามด้วยลวดลายปูนตามแบบฉบับล้านนา 

           เมื่อเกิดพังลงมาจึง เป็นเรื่องที่น่าสะเทือนใจยิ่ง ถือว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ 
           ...ที่ว่าหาค่ามิได้ เพราะ สมัยก่อนการสร้างศาสนสถานด้วยจิตวิญญาณ ด้วยศรัทธา ด้วยบุญ ทุกอย่างถึงได้ งดงามและประณีต...ผิดกับปัจจุบันที่สร้างด้วยธุรกิจที่รวบรัดและรีบร้อ นจึงล่มสลายและพังพาบลง 

           รองเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงฯ ยังเปิดเผยต่อว่า... ก่อนหน้านี้ได้พบรอยร้าวตามลำตัวพญานาคเป็นช่วงๆ เพราะมีการเปลี่ยนโครงสร้าง และ แกนไม้ภายในก็ผุ...เมื่อมีอะไรมากระทบจึงแตกหัก 

           การบูรณะทั้งตัวต้องมีการประชุมใหญ่ ซึ่งจะต้องมีการฟื้นฟูให้เหมือนเดิม และ...ก่อนจะดำเนินการต้องทำอะไรบ้าง เพื่อให้ทุกคนสบายใจ หมายถึง พิธีกรรม อย่างน้อยก็พิธีสงฆ์ จะนิมนต์มาทำพิธีและพิธีขอขมาแบบพื้นเมืองด้วย 

           ต้องคำนึงถึงประเพณีวัฒนธรรม ศาสนธรรมที่ต้องรักษาไว้ จะได้เกิดความสบายใจทุกฝ่าย...เพราะถือ ว่าเป็นสมบัติของทุกคน 

           กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น...เป็นอาเพศและลางบอกเหตุ...หรือไม่!!! 

           พระครูโสภณฯ บอกว่า...จะพูดแบบไหนก็ถูก อาเพศที่เกิดขึ้นครั้งนี้คือเราทำไม่ถูกต้อง ประมาท ไม่รอบคอบ แม้มีวิศวกรควบคุมแต่สะเพร่าให้คนงานทำโดยไม่มีความระมัดระวัง มันก็พลาด ...คงไม่ เกี่ยวกับใครๆอื่นที่ถูกนำมาโยง ให้ยุ่ง

พระครูโสภณฯ



           ลางบอกเหตุ...บอกว่า คนไทยอารมณ์วิปริตและก็ความคิดเป็นมิจฉาทิฐิ จึงทะเลาะเบาะแว้งกันในเวลานี้ นั่นคือลางบอกเหตุจริงๆ....ไม่ใช่แต่คนภาคเหนือ คนกรุงเทพฯหนักกว่า...เป็น การสรุปบทง่ายๆ แต่หลายคนก็เข้าใจ 

           เจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่...เจ้านายฝ่ายเหนือและประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า...หากจะเป็น ความเชื่อของคนรุ่น เก่าก็จะเกิดความกลัว เรื่องอาเพศอาถรรพณ์ต่างๆที่จะตามมา 

           ...แต่คนรุ่นใหม่ก็จะบอกว่าเหตุเกิดจากการก่อสร้างสะเพร่าจึงมีอุบัติเหตุ ถ้าคิดในสิ่งที่ดีก็จะดี ในโลกนี้ต้องมีเหตุมีผล...ขณะนี้บ้านเมืองเรากำลังมีเหตุรุนแรงอยู่แล้ว ทำเอาคอตรวจหวยอดได้เลขเด็ดงวดนี้เลย

           ถ้าคิดแต่เรื่องดีๆ จะเกิดมงคล...อะไรที่คิดแล้วดีก็จะสบายใจ!!!

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

คอลัมน์ เหนือฟ้าใต้บาดาล

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นาคเจดีย์หลวงคอขาด อุบัติเหตุ...ฤาบอกเหตุอาเพศ อัปเดตล่าสุด 1 สิงหาคม 2565 เวลา 17:55:12 21,896 อ่าน
TOP
x close