
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยรัฐ
วันที่ 6 ธันวาคม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มม็อบเสื้อแดง ในวันที่ 10 ธันวาคม ซึ่งยังอยู่ในช่วงการจัดพิธีมงคลว่า ตนไม่อยากเจาะจง เพราะไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เราเสียหายกับเรื่องนี้มามากแล้ว จึงไม่น่าวนเวียนในเรื่องดังกล่าวอีก แม้แต่สื่อมวลชนเองก็คงเบื่อ ที่ทำข่าวเรื่องนี้มา 2-3 ปีแล้ว ประเด็นอะไรเป็นอะไร ทุกคนรู้ดีอยู่แล้ว สิ่งที่น่านำคำนึง คือ กระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ตรัสว่า ขอให้คำนึงถึงส่วนรวมและผลเสียหาย การจะทำเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ควรเอาไปชั่งน้ำหนักกับประเทศ ถ้าประเทศจะเสียหายมากกว่านี้ ทุกคนที่อยู่ในประเทศ ต้องได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด

พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล
ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวถึงกรณี พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก หรือ เสธ.แดง ระบุจะนำอดีตทหารพราน สังกัดหน่วยปักธงชัย ดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ขอประณาม เพราะคนในกองทัพทำงานเพื่อชาติและเพื่อแผ่นดินกันทุกคน ไม่มีใครทำหนักหรือเบากว่ากัน เพียงแต่ไม่มีใครกล่าวอ้างเท่านั้น กองทัพเป็นสถาบันหลัก ไม่ใช่ของผม ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ที่จะไปกล่าวอ้าง กองทัพเป็นทหารของประเทศชาติ เป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่มีสิทธิเอาไปทำอะไรทั้งสิ้น ไปวิพากษ์วิจารณ์ กองทัพจะต้องอยู่ในภาวะที่ต้องดูแลความสงบเรียบร้อยเรื่องความมั่นคงได้ คำกล่าวอ้างดังกล่าวขอเรียนว่าไม่มี
"ตนพูดคุยกับกลุ่มทหารพรานที่ออกจากหน้าที่ไปแล้ว พบว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว การที่จะพูดว่าจะมีสถาบันกองทัพหรือผู้ถืออาวุธมีความขัดแย้งกันเป็นความ เลวร้ายของสังคมไทย มันแย่มาก เข้าขั้นที่ว่าเป็นแนวความคิดที่ไม่ควรออกมาจากปากของคนที่เป็นทหาร ส่วนการดำเนินการกับพล.ต.ขัตติยะนั้น ตนสั่งการให้ส่วนเกี่ยวข้องไปดูแลดำเนินการไปตามกฎระเบียบและกฎหมายแล้ว" พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

จตุพร พรหมพันธุ์
ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง ยังย้ำจุดยืนการชุมนุมของคนเสื้อแดงในวันที่ 10 ธันวาคม ว่า การชุมนุมวันที่ 10 ธันวาคมจะจบลงตามกำหนดการเดิมที่วางไว้คือในเวลา 24.00 น. ส่วนกรณีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า "ขอให้ความสุขความสวัสดีของข้าพเจ้าจะเกิดได้ก็ด้วยบ้านเมืองของเรามีความ เจริญมั่นคงเป็นปกติสุข" นั้น คนเสื้อแดงจะสนองพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะมีก็แต่พวกอีแอบที่แอบอ้างสถาบันมาเป็นเครื่องมือทำลายพวกตนตามที่เคยวิพากษ์กัน ทั้งนี้ เห็นว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ควรที่จะน้อมนำพระราชดำรัสก่อนเพื่อน เพื่อที่จะเลิกพฤติกรรมปากว่าตาขยิบ ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะอยู่ต่อไปอย่างไร
เมื่อถามว่า จากพระราชดำรัสดังกล่าวคนเสื้อแดงจะทบทวนการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 10 ธันวาคมหรือไม่ นายจตุพรกล่าวว่า บ้านเมืองต้องเดินหน้าต่อไป วันรัฐธรรมนูญมีตั้งแต่ปี 2475 แล้ว แต่ปรากฏว่าคนที่ตั้งตัวเป็นผู้นำประชาธิปไตยจะเป็นจะตายกับวันนี้อย่างไม่มีเหตุผล นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย พระราชดำรัสของพระองค์ท่านจึงเปรียบเสมือนการเตือนสติว่า หากสังคมยังไร้ความเป็นธรรม ศาลยังดำเนินการอย่าง 2 มาตรา ฐานบ้านเมืองจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ยิ่งถ้าฝ่ายหนึ่งยังไม่หยุดเข่นฆ่าทำลายคนเสื้อแดง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก







