กิตติรัตน์ รับพูดเท็จเรื่องเป้าส่งออก อ้างโกหกเพื่อชาติ



กิตติรัตน์ ณ ระนอง
กิตติรัตน์ ณ ระนอง


          กิตติรัตน์ รับพูดเท็จเรื่องเป้าส่งออกของไทยโต 15% อ้างโกหกเพื่อชาติ หวังสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน ขณะที่ภาคเอกชน บอกไม่ได้กังวลในเรื่องดังกล่าว เพราะเชื่อว่ารัฐฯ ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตามเป้า แต่การโกหกครั้งนี้ จะสร้างความไม่เชื่อใจให้กับรัฐบาลในอนาคต

          วานนี้ (23 สิงหาคม)  นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนา "1 ปี ยิ่งลักษณ์กับอนาคตเศรษฐกิจไทย" ว่า เป้าการส่งออกในปีนี้เติบโตไม่ถึง 15% อย่างที่ตนเคยพูดกับนักลงทุนต่างชาติอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจแต่อย่างใด เพราะตนพูดในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และ รมว.คลัง ซึ่งจะได้รับอนุญาตให้พูดเรื่องไม่จริงในบางเรื่องก็ได้ ทั้งนี้ ที่ตนพูดไปก็เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งไทย และต่างประเทศ หากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ตนพูดความจริงออกไปว่าตัวเลขส่งออกของไทยเติบโตขึ้นไม่ถึง 15% ก็จะทำให้ความมั่นใจของนักลงทุนมีปัญหา ดังนั้น ตนจึงขอไม่พูดจริงในบางเรื่อง หากเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ดี เหมือนภาษาอังกฤษ เขาเรียกว่า "White lie ที่แปลว่า โกหกสีขาว"

          ส่วนเป้าการส่งออกของประเทศไทยในปีนี้ นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า รัฐบาลได้ตั้งเป้าการส่งออกในปีนี้ว่าจะสามารถขยายตัวได้ถึง 9% เนื่องจากปัญหาทางภาคการผลิตของไทยยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ และเป็นเครื่องสะท้อนความสำคัญว่า ตัวเลขการส่งออกที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 15% นั้น จะยิ่งเป็นได้ยากขึ้น แต่ทั้งนี้ ทางรัฐบาลได้ตั้งเป้าไว้สูงกล่าวที่ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ซึ่งประเมินไว้ที่ 7.3%

          อย่างไรก็ตาม รมว.คลัง กล่าวต่อว่า ทางรัฐบาลต้องการให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ จึงเป็นที่มาของการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ควบคู่กับการลดภาษีนิติบุคคลลงเหลือ  23% เพื่อให้แรงงานและภาคธุรกิจเติบโตไปได้พร้อมกัน โดยเชื่อว่ากำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น จะทำให้นักลงทุนกล้าขยายการลงทุน  

กรณ์ จาติกวณิช
กรณ์ จาติกวณิช

          ขณะที่ นายกรณ์ จาติกวณิช ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีต รมว.คลัง กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญของการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งที่มีความสำคัญนั่นคือความน่าเชื่อถือ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะในตำแหน่ง รมว.คลัง คำพูดทุกคำเกี่ยวกับตัวเลขทางเศรษฐกิจถือว่าสำคัญมาก เพราะนักลงทุนจะใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจในการลงทุนด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาล

          "เมื่อผู้นำสูงสุดทางด้านเศรษฐกิจ มีทัศนคติว่าสามารถนำตัวเลขทางเศรษฐกิจที่เป็นเท็จมาเสนอได้ จะทำให้มีผลกระทบกับอำนาจหน้าที่และบารมีในตำแหน่งที่ทำอยู่ได้ จนไม่ได้รับความเชื่อถือในที่สุด" นายกรณ์ กล่าว

          ทางด้าน นายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง กล่าวว่า รัฐบาลต้องพูดความจริง เพราะนักลงทุนเชื่อข้อมูลของรัฐบาลเป็นหลัก แต่การที่รัฐบาลออกมาบอกว่าตัวเลขเศรษฐกิจของรัฐบาล เป็นการโกหกสีขาวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่น่าถูกต้อง และในระยะต่อไปข้อมูลของรัฐบาลจะไม่ได้รับความเชื่อถือจากนักลงทุนอีกต่อไป

          "การตั้งเป้าเศรษฐกิจของรัฐบาลที่จะมองเป็นภาพทางบวกนั้นไม่ใช่เรื่องผิด แต่ตัวเลขที่ประเมินต้องใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด และสุดท้ายเมื่อมีแนวโน้มว่าตัวเลขที่ประเมินไม่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง ก็ควรเร่งปรับเป้าหมายให้ใกล้ความจริงที่สุด ไม่ใช่การออกมาพูดว่าเป็นการโกหกในเรื่องที่ดีแบบนี้" นายสมชาย กล่าว

          ด้าน นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย  กล่าวว่า มุมมองภาคเอกชนคงไม่ได้กังวลในมากในเรื่องดังกล่าว เพราะที่ผ่านมาก็ได้ระบุตลอดว่าการส่งออกในปีนี้จะไม่ถึงตามเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้แต่แรกอยู่แล้ว แต่ภาครัฐก็ยังยืนยันเป้าหมายดังกล่าวมาตลอด และปฏิเสธที่จะปรับลดเป้าหมายการส่งออกลงตามความเป็นจริง ซึ่งก็เข้าใจว่าส่วนหนึ่งภาครัฐอาจจะยังมีความมั่นใจอยู่ว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายจากที่เขาศึกษาข้อมูลดีอยู่แล้วจึงได้มีการยืนยันหนักแน่น

          นายพรศิลป์ กล่าวต่อว่า การออกมายอมรับว่าต้องโกหกเพื่อสร้างความเชื่อมั่นนั้น คงจะไม่ส่งผลอะไรในครั้งนี้ แต่กังวลว่าในอนาคตหากรัฐบาลตั้งเป้าหมายอะไรขึ้นมา ก็จะไม่มีใครให้ความเชื่อมั่นหรือให้ความไว้วางใจ เพราะไม่แน่ใจว่าจริงหรือเท็จ ซึ่งหากภาครัฐทำอย่างนี้บ่อย ๆ ตัวเลขอะไรที่ออกมาจากภาครัฐมันจะไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงโดยเฉพาะเครดิตของรัฐบาลในอนาคต


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก 




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กิตติรัตน์ รับพูดเท็จเรื่องเป้าส่งออก อ้างโกหกเพื่อชาติ โพสต์เมื่อ 24 สิงหาคม 2555 เวลา 09:41:59 6,652 อ่าน
TOP
x close