


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก U.S. Embassy Bangkok, เฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra
พ.ท.หญิง ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ บรรยายพิเศษแก่นิสิตจุฬาฯ ชี้ การเลือกตั้งมีแพ้ มีชนะ ทุกคนเป็นผู้นำได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีอำนาจ แต่ควรมีความถูกต้องในการทำเพื่อผู้อื่น ก่อนเข้าพบนายกรัฐมนตรี มองประเทศไทยมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีแทนคนไทยที่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง ซึ่งไทยและสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์อันดียาวนาน โดยสหรัฐฯ ถือเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 3 ของไทย และ นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เคยมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว จึง หวังว่าทั้ง 2 ประเทศ จะมีความร่วมมือกันมากขึ้น ทั้งการพัฒนาโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการพัฒนาบทบาทสตรี คนพิการ และผู้สูงอายุ ให้มีบทบาทสำคัญในสังคม ซึ่งรัฐบาลได้ตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีด้วย
ขณะ ที่ พ.ท.หญิง ลัดดา กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้กลับบ้านเกิด และมีโอกาสได้เข้ามีบทบาททางการเมือง ซึ่งหวังว่าจะได้มีส่วนในการพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ นอกจาก นี้ ยังมองการเมืองในประเทศไทยในฐานะที่เป็น ส.ส.หญิง ว่า เท่าที่ติดตามสถานการณ์ ถือว่ามีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เช่นเดียวกับที่สหรัฐฯ ถึงแม้จะมีความขัดแย้งบ้าง แต่ทุกคนควรทำงานให้กับประเทศ ขณะที่นายกรัฐมนตรีของไทยมีหลายบทบาทที่ต้องดูแล ทั้งการบริหารงานของรัฐบาล การดูแลกองทัพ และงานของสตรี




ก่อนหน้านั้น ในช่วงเช้า พ.ท.หญิง ลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ ได้เดินทางมาบรรยายมุมมองนโยบายด้านต่างประเทศสหรัฐฯ ให้กับนิสิต นักศึกษา ของคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โดย พ.ท.หญิง ลัดดา กล่าวเป็นภาษาไทยว่า รู้สึกดีใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย และมีคุณแม่เป็นคนไทย ในฐานะที่ตนเป็นสมาชิกสภาคองเกรส เชื้อสายไทย ก็หวังที่จะทำให้สหรัฐฯ และไทยมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น ที่มาวันนี้ขอให้ทุกคนก้าวไปข้างหน้าอย่างผู้นำ แม้ตนจะมาถึงจุดนี้แต่ก็ยังอยากเน้นว่า ภาวะผู้นำไม่ได้จำกัดอยู่ในอำนาจอย่างเป็นทางการเท่านั้น แต่ภาวะผู้นำคือการมองการณ์ไกล ไม่จำเป็นต้องมีบทบาทในรัฐบาลเพื่อเป็นผู้นำ ความแตกต่างระหว่างคนรวย คนจน เกิดขึ้นได้ เพราะเราทุกคนมาจากที่ที่แตกต่างกัน แต่การเป็นผู้นำ อาจหมายถึงการเป็นหัวหน้า หรือการเป็นผู้นำที่ไม่ได้มีอำนาจมากมาย


การเป็นผู้นำต้องยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อตนเองและประเทศ ตนขอสนับสนุนทุกคน อย่ากลัวความเสี่ยง ความผิดพลาด ไม่ว่าทำอาชีพไหนย่อมมีทั้งขาขึ้นและขาลง ชีวิตจะพาเราไปในเส้นทางที่ไม่คาดคิด หากเราล้มลงต้องลุกขึ้นก้าวต่อไป ตนเคยแพ้การเลือกตั้งปี 2549 แต่สิ่งนี้ก็ทำให้ตนเข้าสู่ทหารผ่านศึกมลรัฐอิลลินอยส์ จนได้รับเลือกตั้งเมื่อปี 2555 ชีวิตตนพบเรื่องแย่ ๆ มากมาย แต่ก็ยังผ่านมาได้ เช่น การสูญเสียขาทั้งสองข้างจากการบินเฮลิคอปเตอร์ในสงครามอิรัก และถึงแม้ร่างกายจะบาดเจ็บ แต่เรายังเป็นผู้นำเพื่อช่วยเหลือคนอื่นได้
ดังนั้น ภาวะผู้นำ คือ การตระหนักถึงอุปสรรคที่เราเผชิญมาในชีวิต เพื่อหล่อหลอมประสบการณ์เหล่านั้น ซึ่งภาวะผู้นำไม่ใช่แค่หน้ากล้อง หรือคนที่มองเราอยู่ แต่เราควรทำสิ่งที่ถูกต้องด้วยตัวเราเองและสู้ต่อไป ทั้งนี้ ตนขอเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจสู่การเป็นผู้นำ โดยหวังว่า ประเทศของเรา จะมีผู้นำรุ่นต่อไป และหวังว่า ทุกคนจะได้รับแรงบันดาลใจนี้ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

